"เพื่อไทย"แนะรัฐบาลงัดพรก.ช่วยปัญหาปากท้องชาวบ้าน "โภคิน"ติงออกมาขัดรธน.อาจซ้ำรอยรบ.ในอดีต
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2562 ที่พรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าคาดว่าสภาผู้แทนราษฎรจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองและสถาบันครอบครัว พ.ศ.2562 ซึ่งมีสาระสำคัญคือให้ชะลอการใช้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว ที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2562
นายสุทิน กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นฝ่ายค้านเห็นว่าการที่คณะรัฐมนตรีจะตรา พ.ร.ก.ได้นั้น จะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 คือ เพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ซึ่งจาก พ.ร.ก.ที่ออกมานั้น เห็นว่าไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ก่อนการประชุมสภาฯ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมร่วมกันเพื่อเข้าชื่อ ส.ส.ให้ได้ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจํานวน ส.ส.เท่าที่มีอยู่สภาฯ เพื่อยื่นให้ประธานสภาฯ ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญต่อไป
นายสุทิน กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่ได้ติดใจในการที่รัฐบาลจะใช้อำนาจในการออก พ.ร.ก.แต่การออก พ.ร.ก.นั้นจะต้องเป็นไปตามกฎหมายและเพื่อประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวแพง ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเป็นสำคัญ
ขณะที่ นายโภคิน พลกุล กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากสภาฯ มีมติไม่อนุมัติ พ.ร.ก.หรือศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการตรา พ.ร.ก.ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญขึ้นมา ในอดีตเคยมีรัฐบาลที่แสดงความรับผิดชอบมาแล้ว ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาจริง ก็ขึ้นอยู่กับการแสดงความรับผิดชอบของรัฐบาลปัจจุบัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี