เมื่อวันที่ 31สิงหาคม 2562 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกำหนดมาตรการหลายมาตรการ เช่น การใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะงบลงทุนเศรษฐกิจฐานรากด้านการเกษตร การท่องเที่ยว การลงทุน และได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ใช้จ่ายเงินสะสม เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยเห็นว่า เพื่อให้ อปท. สามารถนำเงินสะสมมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นและใช้ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ตามอำนาจหน้าที่ได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ จึงได้อนุมัติยกเว้นการใช้จ่ายเงินสะสมของ อปท. และเพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
อธิบดีสถ. กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางการใช้จ่ายเงินสะสมนั้น กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ต้องตรวจสอบยอดเงินสะสมที่นำไปใช้ได้ในปัจจุบัน โดยหักเงินสะสมส่งสมทบกองทุนส่งเสริมกิจการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภท แล้วนำไปหักรายการเงินสะสมที่ได้รับอนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการหรือยังไม่ได้เบิกจ่าย เพื่อพิสูจน์ยอดเงินสะสมคงเหลือปัจจุบันที่สามารถนำไปใช้ได้ และก่อนจะนำเงินสะสมไปใช้ก็ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกันเงินสำรองเป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน และค่าใช้จ่ายกรณีที่มีสาธารณภัยเกิดขึ้นตามความจำเป็น โดยให้คำนึงถึงสถานะทางการเงินการคลัง
“โครงการหรือกิจการที่จะดำเนินการต้องอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อปท. โดยการบริการชุมชนและสังคม กิจการที่เป็นการเพิ่มพูนรายได้ของ อปท. หรือกิจการที่จัดทำขึ้นเพื่อบำบัดความเดือดร้อนของประชาชน และเป็นไปตามแผนพัฒนาของ อปท. เพื่อให้ อปท. นำเงินสะสมไปใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ให้ความสำคัญกับโครงการต่างๆ 5 ด้าน 1.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมสร้างทางคมนาคม การจราจร ระบบส่งน้ำเพื่อการเกษตร ระบบประปา โครงการขุดลอกคูคลอง กำจัดวัชพืชและก่อสร้างฝาย ฯลฯ 2.ด้านการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เช่น โครงการส่งเสริมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน, โครงการจัดตั้ง/ส่งเสริมกลุ่มอาชีพในชุมชน กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส /ยากจน /พิการ 3.ด้านเศรษฐกิจและสังคม เช่น โครงการฝึกอาชีพให้กับเด็กและเยาวชนที่ไม่ได้ศึกษาต่อ หรือประชาชนที่ว่างงาน เพื่อให้มีทักษะในการประกอบอาชีพ 4.ด้านส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบวิถีชุมชน โครงการมัคคุเทศก์ท่องเที่ยววิถีชุมชน และ 5.ด้านการศึกษา เช่น โครงการปรับปรุงอาคารสถานศึกษา โครงการก่อสร้างสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และโครงการจัดให้มีสถานที่อ่านหนังสือประจำหมู่บ้าน” นายสุทธิพงษ์ กล่าว
อธิบดีสถ. กล่าวด้วยว่า การใช้จ่ายเงินสะสมเพื่อดำเนินโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน การกีฬา หรือการจัดหาวัสดุอุปกรณ์เพื่อการศึกษา นั้น ก็ขอความร่วมมือ อปท. ได้ช่วยให้ความสำคัญกับการใช้ยางพาราเป็นส่วนประกอบตามนโยบายรัฐบาล และการทำโครงการที่ต้องใช้แรงงาน ให้เน้นการใช้แรงงานในท้องถิ่น เว้นแต่ไม่มีแรงงานในท้องถิ่น ก็อาจพิจารณาใช้แรงงานนอกเขตพื้นที่ได้ตามความเหมาะสมและขอให้ อปท. ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่น ในด้านต่างๆ เพื่อเน้นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ตามแนวนโยบายของรัฐบาล โดยนำเงินสะสม ไปใช้ ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี