"จตุพร"เปรย"นปช."คิวแน่น ต้องเดินขึ้นลงศาลทั้งก.ย.ต่อเนื่องต.ค. ลุ้นคำพิพากษาศาลฎีกา แย้ม"รางวัลนักต่อสู้"มีแต่คุก ชีวิตท้ายสุดคงล้มละลาย
เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2562 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ "ต่อลมหายใจ พีซทีวีเวทีทัศน์" โดยย้ำถึงรางวัลนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ล้วนมีความยากลำบากทุกขั้นตอน อีกทั้งมีคดีความต้องขึ้นศาลอย่างต่อเนื่องทุกปีจนจะสิ้นสุด
ประธาน นปช.ร่ายยาวเรียงคดีความของนักต่อสู้ที่ต้องเผชิญในระยะเวลาอันใกล้ว่า ในเดือนกันยายนนี้ เรามีหลายๆ คดีที่ต้องติดตามกัน ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน มีนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีล้มการประชุมอาเซียน พัทยา ในปี 2552 ซึ่งศาลชั้นต้น และอุทธรณ์พิพากษายืนมาสองศาล ให้จำคุก 4 ปี
ต่อมาในวันที่ 12 กันยายน มีคดีหนึ่งของตน ซึ่งถือได้ว่าเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ เกิดมาไม่เคยได้ยิน คือ ที่ตนได้เคยรับโทษติดคุกจนครบอัตราโทษ แล้วปล่อยตัวแล้ว แต่มีผู้ยื่นบอกว่าตนยังติดคุกไม่พอ ให้กลับไปติดคุกต่อ ทั้งที่ความจริงแล้ว เมื่อศาลสั่งให้ปล่อยตัว ทุกอย่างก็ต้องเป็นที่ยุติ แต่มีคนไม่ต้องการให้ยุติ ให้ตนติดคุกต่อ
อย่างไรก็ตาม ตนมีคดีถูกฟ้องหมิ่นประมาทหลายคดี แต่มี 2 คดีที่เหลืออยู่ คดีแรกศาลชั้นต้นยกฟ้อง คดีที่สองศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 2 ปี แต่มีคนร้องให้นับโทษตนต่อจากคดีแรก ที่ตนไม่มีโทษ ต่อมาศาลฎีกาพิพากษากลับในคดีแรก จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนในคดีที่สอง ศาลฎีกาพิพากษาลดจาก 2 ปี เป็น 12 เดือน ที่เหลือเป็นไปตามศาลอุทธรณ์
"แบบที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เคยกล่าวไว้ ว่าถ้าคนไม่เคยติดคุกจริงๆ จะไม่รู้เรื่องการนับโทษ กรณีของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็เช่นกัน เขาก็มีสิทธิ์ได้รับการลดโทษครบถ้วน คนที่เคยติดคุก ก็จะเข้าใจ ไม่มีใครไปว่ากล่าว ใครพ้นโทษก็ยินดีด้วยทั้งนั้น"
แต่กรณีของตน ถ้าไม่เคยติดคุกก็จะไม่มีความเข้าใจ การบอกให้ตนรับโทษต่อ นั้นตนต้องมีโทษอยู่ก่อนแล้ว แต่นี่ตนไม่มีโทษจะให้ตนนับโทษต่อจากอะไร ซึ่งตนก็ได้ต่อสู้เรื่องนี้ขณะที่อยู่ในเรือนจำ จนศาลชั้นต้น พิพากษาว่าการนับโทษต่อนั้นไม่สามารถกระทำได้ เพราะขณะที่สั่งตนไม่มีโทษอยู่ ศาลชั้นต้นยกคำร้อง จากนั้นตนได้ปรึกษาผู้รู้ และได้ยื่นอุทธรณ์อีก ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็ได้แก้ให้ว่า ไม่สามารถนับโทษต่อ เนื่องจากขณะที่สั่งให้นับโทษต่อ ตนยังไม่มีโทษจำคุก
"ภาษาศาลเรียกว่านับพร้อม ภาษาคุกเรียกว่า นับคร่อม เพราะฉะนั้นคดีที่สอง ตนถอนประกันช้าไป 20 วัน ตนจึงติดคุก เหลื่อมจาก 1 ปี ไปอีก 15 วัน เนื่องจากโทษ 12 เดือน เท่ากับ 360 วัน ความจริงแค่ได้รับใบบริสุทธิ์จากเรือนจำก็น่าจะเรียบร้อยแล้ว ไม่น่ามีปัญหา ศาลชั้นต้นยกแล้ว ก็อุทธรณ์ต่อ แต่นี่ก็ต้องมาฟังคำสั่งอีกครั้ง ในวันที่ 12 กันยายนนี้"
จากนั้นวันที่ 19 กันยายน ตน , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. , นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.และนายอดิศร เพียงเกษ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้มีนัดฟังคำสั่งศาลว่า การสั่งฟ้องคดีล้มการประชุมอาเซียนพัทยากับพวกตน เป็นการสั่งฟ้องคดีซ้ำซ้อนหรือไม่ ที่ศาลจังหวัดพัทยา
ต่อมาวันที่ 23 กันยายน มีนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีบุกบ้านพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เมื่อปี 2550 ซึ่งศาลอุทธรณ์ พิพากษาให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งจำเลยในคดีนี้ ประกอบด้วย นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล แกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 , นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน , นายวันชัย นาพุทธา , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อดีต ส.ส.เพื่อไทย และ นพ.เหวง โตจิราการ เป็นจำเลยที่ 1 - 7 ซึ่งศาลให้เลื่อนมาแล้ว 1 ครั้ง ก็ต้องลุ้นชะตากรรมกันอีก นี่คือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน
ส่วนในเดือนตุลาคม เรายังมีนัดฟังคำพิพากษา คดีแพ่งคดีที่ 2 โดยนัดอ่านในวันที่ 16 ตุลาคม คดีนี้ตนได้รับหมายแล้ว ไม่เหมือนคดีแพ่งแรกที่ตนไม่ได้รับหมาย ดังที่เคยกล่าวไว้ในคดีแพ่งแรกว่า ทั้งโจทก์ และจำเลยร่วม ต่างให้การตรงกันว่า นายจตุพร ไม่ได้พูดยุยงให้เผาบ้านเผาเมือง ทั้งยังพูดเหมือน นายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นจำเลยร่วมแต่ไม่ได้ถูกตัดสินว่าผิด
แต่เหตุผลที่ให้นายจตุพร มีความผิด ต้องชดใช้ค่าเสียหายร่วมกับนายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง เนื่องจากตนแก้ตัวให้ทั้งสอง และเป็นประธาน นปช.ทั้งที่ข้อเท็จจริงขณะนั้น ตนยังไม่ได้เป็นประธาน นปช.ก็ตาม
"ขอเรียนกับพี่น้องว่า คดีแรกพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหาย 19 ล้าน บวกดอกเบี้ยก็ปาเข้าไป 30 ล้าน ไม่รู้คดีที่ 2 จะโดนอีกกี่ล้าน ดูอาการแล้วก็น่าจะล้มละลายอยู่เหมือนกัน นี่คือสิ่งที่เรียกว่า รางวัลของนักต่อสู้ ก็มีคุกตะราง มีชีวิต และท้ายที่สุดก็ล้มละลาย สำคัญสุดคือว่า เมื่อคดีถึงที่สุด ก็ต้องน้อมรับคำตัดสิน แม้ในคำพิพากษาระบุว่า ผมผิดเพราะเป็น ประธาน นปช.แม้ขณะนั้นไม่ได้เป็น แต่เป็น นายวีระกานต์ เป็นประธาน นปช.อยู่"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี