“50 ส.ส. พปชร.”เสนอญัตติด่วนตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษา รธน. ชี้ เป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของ รัฐบาล “วิเชียร” ยัน “บิ๊กตู่”ไม่มีเอี่ยว
เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 ที่รัฐสภา นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำรายชื่อส.ส. จำนวน 50 คนของพรรคพลังประชารัฐ ยื่นญัตติด่วนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกระบวนการคิดเห็นของประชาชน ที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี2560
ทั้งนี้ในเอกสารขอตั้งกมธ.วิสามัญฯ ระบุเหตุผลว่า สืบเนื่องจากรัฐธรรมนูญปี2560 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 เป็นต้นมา ทั้งนี้ก่อนการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้มีการประชาชนออกเสียงลงประชามติรับรอง เห็นชอบ 16.8 ล้านเสียง และมีผู้ไม่เห็นเห็น 10.5 ล้านเสียง นับเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 2 ที่ผ่านการลงประชามติ หลังจากนั้นได้กำหนดให้มีการเลือกตั้งส.ส.เป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผลการเลือกตั้งครั้งแรก ภายหลังการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ มีการรอผลการประกาศอย่างเป็นทางการ เป็นระยะเวลานานพอสมควร และในการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก็เป็นประเด็นที่นำไปสู่ความเห็นที่แตกต่างกันได้มาก รวมถึงประเด็นอื่นๆ
นอกจากนี้เอกสารขอตั้งกมธ.วิสามัญฯ ระบุต่อว่า เมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้ว ได้มีการแถลงนโยบายของ คณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยในส่วนของนโยบายเร่งด่วน 12 เรื่อง ซึ่งในเรื่องที่ 12 กำหนดว่า สนับสนุนให้มีการศึกษา การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และการดำเนินการเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเห็นสมควรให้มีการศึกษาเรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมทั้งกระบวนการรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งกรณีดังกล่าว เป็นเรื่องเกี่ยวกับประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน หรือมีความจำเป็นเร่งด่วน ในอันที่จะรักษาความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือความมั่นคงของประเทศ ไม่ว่าในทางเศรษฐกิจ หรือทางใดๆ ก็ตาม หรือในอันที่จะขจัดเหตุใดๆ ที่กระทบกระเทือนต่อเสรีภาพของประชาชนอย่างร้ายแรง ดังนั้นขอเสนอญัตติดังกล่าว เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้งกมธ.วิสามัญฯ ต่อไป
ทั้งนี้ นายวิเชียร แถลงว่า สำหรับการเสนอญัตติในครั้งนี้เป็นการดำเนินการในนามของส.ส.พรรคพลังประชารัฐ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ส่วนกรอบ ระยะ เวลาในการทำงานของกมธ.วิสามัญฯ คงต้องไปหารือกันต่อไปว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ แต่ยืนยันว่า จะเน้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของประชาชน อย่างถึงที่สุด
“ส่วนตัวมองว่า แนวทางศึกษาทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องเน้นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยผมเชื่อว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญที่มีสมาชิกทั้งจากฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน จะไม่มีความขัดแย้งในระหว่างการพิจารณา ส่วนการเชิญบุคคลภายนอกให้มาร่วมเป็นกมธ.วิสามัญฯนั้น ต้องให้ที่ประชุมเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะถึงขั้นเชิญนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) มาชี้แจงหรือให้คำปรึกษาหรือไม่นั้น ต้องพิจารณากันอีกครั้ง รวมไปถึงการวางกรอบระยะเวลาในการศึกษาด้วย” นายวิเชียร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี