‘พิชัย’ได้ทีบี้‘บิ๊กตู่’เคลียร์ชาวโลกปมฉาว‘ธรรมนัส’ เหน็บอย่าทำไทยเป็น‘บานาน่ารีพับลิก’
15 กันยายน 2562 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ข่าวของนายธรรมนัส ได้กระจายไปทั่วโลกแล้วโดยสื่อหลักต่างประเทศได้ลงข่าวเพิ่มกันอีก ซึ่งมีทั้ง Washington Post, New York Times และ The Times ของลอนดอน ฯลฯ อีกทั้ง นสพ. The Sydney Morning Herald ก็ยังคงตีข่าวเพิ่มแทบทุกวันตอกย้ำข้อมูลโดยเฉพาะการยืนยันเอกสารจากศาลออสเตรเลีย จึงอยากถามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน จะตอบสังคมโลกอย่างไร
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบดีว่าสื่อหลักระดับโลกจะต้องมั่นใจในข้อมูลจึงกล้าเสนอข่าว เพราะถ้าลงข่าวผิดจะถูกฟ้องร้องได้ ไม่ใช่เป็นสื่ออวตารลงมั่วๆ เหมือนที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นการที่ปีนี้ประเทศไทยมีโอกาสเป็นประธานอาเซียน น่าจะเป็นโอกาสที่จะทำให้ประเทศไทยได้ฟื้นฟูชื่อเสียงที่สูญเสียไปในช่วงของการปฏิวัติให้กลับคืนมา แต่เรื่องนี้กลับยิ่งทำให้ประเทศไทยเสียหาย และเสื่อมเสียชื่อเสียงหนักมากขึ้น
“ไม่อยากให้นานาชาติคิดว่าไทยได้กลายเป็น บานาน่ารีพับลิก ไปแล้ว ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้ขนานนามประเทศที่ไม่มีหลักการ ไม่มีความมั่นคงทางการเมือง มีการปฏิวัติกันตามใจชอบ ไม่รักษาภาพพจน์ เศรษฐกิจย่ำแย่ มีการเอื้อประโยชน์เฉพาะชนชั้นสูงและชนชั้นปกครอง และมีผู้นำและรัฐมนตรีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ฯลฯ ซึ่งในอดีตนานาชาติจะใช้ขนานนามหลายประเทศในแถบทวีปอเมริกาใต้ แม้กระทั่งในปัจจุบันประเทศเหล่านี้ก็ยังคงมีปัญหาทางการเมืองและปัญหาทางเศรษฐกิจกันอยู่เลย” นายพิชัย กล่าว
นายพิชัย กล่าวอีกว่า แม้ว่าปัจจุบันไทยจะมีการแจกกล้วย (บานาน่า) โดยเปรียบนักการเมืองจากพรรคเล็กเป็นลิงก็ตาม แต่หากประเทศไทยกลายเป็น บานาน่ารีพับลิก ในสายตาของชาวโลก ประเทศไทยก็จะหมดความน่าเชื่อถือ และจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่ของไทย ขนาดเรื่องคดีปล่อยกู้แบงค์กรุงไทยของนายอุตตม ยังสร้างความเสียหาย และทำให้ความเชื่อมั่นของรัฐบาลหดหายมากแล้ว เรื่องนายธรรมนัสจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียหนักยิ่งกว่าเดิมมาก
“ดังนั้นรัฐบาลจะต้องไม่นิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องข้อมูลการจบการศึกษาระดับปริญญาเอก ถ้าไม่ตรงกับความจริงก็ยิ่งจะตอกย้ำความไม่น่าเชื่อถือและจะเป็นการให้ข้อมูลเท็จกับทางราชการใช่หรือไม่” นายพิชัย ระบุ
นายพิชัย ยังกล่าวกล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลต้องการยืนยันข้อมูลของคดีที่แท้จริง ก็สามารถร้องขอข้อมูลเอกสารตัวจริงจากศาลออสเตรเลียได้โดยตรง และเมื่อได้เอกสารที่แท้จริงแล้ว และหากตรงตามที่สื่อออสเตรเลียเสนอข่าว รัฐบาลก็ควรจะต้องเร่งดำเนินการหาบุคคลอีก 3 คน ที่ชื่อ Wera , Manop , Pisarn ที่ถูกกล่าวถึงว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในคดี และเป็นทหารนอกประจำการ เพื่อนำมาสอบสวนในคดีและอาจจะต้องดำเนินคดีหากมีความผิดตามที่ถูกกล่าวถึงจริง เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยเอาจริงเอาจังกับปัญหาการค้ายาเสพติด
“เป็นที่น่าสังเกตว่าหลังจากเลือกตั้งแล้ว รัฐบาลพลเอกประยุทธ์แทนที่จะนำพาประเทศให้เจริญก้าวหน้า สร้างภาพพจน์ให้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ กลับมีแต่เรื่องทางด้านลบและมีข้อครหามากมายมาโดยตลอด ภาพพจน์รัฐบาลกลับยิ่งแย่กว่าสมัยที่อยู่ในช่วงปฏิวัติเสียอีก หากเป็นเช่นนี้โอกาสของประเทศไทยที่จะพัฒนาและก้าวหน้าต่อไปก็คงจะลดลงไปเรื่อยๆ และประชาชนก็จะยิ่งลำบากเพิ่มขึ้นไปอีก” นายพิชัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี