หว่านอีก100ล้านให้4จว.อีสาน! ‘ปลัดมท.’เผย ‘ก.คลัง’ไฟเขียวงบฯทดรองราชการเพิ่มช่วยน้ำท่วม แจงยิบแค่เฉพาะหน้า - คนละส่วนกับหลังล่ะ5พัน กำชับรอบคอบ - ยึดระเบียบ
28 ก.ย.62 ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ประธานการประชุมกองบัญชาการฯเพื่อติดตามความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยกล่าวว่า สถานการณ์ล่าสุดยังมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ โดยจ.ยโสธร และร้อยเอ็ดไม่มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน กลับเข้าสู่ที่พักอาศัยได้แล้ว ส่วนพื้นที่การเกษตรยังมีน้ำท่วมขังบางจุด ขณะที่อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าระดับน้ำจะอยู่ในระดับตลิ่งและกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่ง บกปภ.ช. ได้ประสานจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายรายครัวเรือนโดยจำแนกข้อมูลรายละเอียดตามประเภทให้ครบถ้วนและสมบูรณ์เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้อง
“ขณะนี้ กระทรวงการคลังได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการฯ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน 4 จังหวัดที่ยังมีสถานการณ์อุทกภัยได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ร้อยเอ็ด และศรีสะเกษ จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อให้การบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยและการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ผมขอกำชับให้จังหวัดที่ได้รับการขยายวงเงินทดรองราชการฯใช้จ่ายงบประมาณอย่างรอบคอบและยึดระเบียบกระทรวงการคลังฯเป็นหลัก” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รัฐบาลพร้อมดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่ ทุกครัวเรือนต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด ในส่วนของการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจะแยกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นเงินช่วยเหลือครัวเรือนที่ประสบอุทกภัย 5,000 บาท ถือเป็นมาตรการช่วยเหลือพิเศษที่มอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยเพื่อช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้นตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 24ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ประสบอุทกภัยสามารถนำมาใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตในช่วงที่น้ำยังมีท่วมขังและอยู่ในระหว่างการฟื้นฟูความเสียหายหรือยังไม่สามารถประกอบอาชีพหารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 32 จังหวัดที่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดจะได้รับเงินช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท อย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งผู้ประสบอุทกภัยที่มีสิทธิรับเงินช่วยเหลือต้องเป็นผู้ประสบภัยที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ประจำในพื้นที่ประกาศภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากพายุโพดุล พายุคาจิกิ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ฯ ใน 3 กรณี คือ 1. กรณีน้ำท่วมบ้านเรือนโดยฉับพลันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 2. บ้านพักอาศัยถูกน้ำท่วมขังติดต่อกันไม่น้อยกว่า 7 วัน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย 3. บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม
“ทั้ง 3 กรณีต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ หากเป็นผู้ประสบภัยซ้ำซ้อนทั้ง 3 กรณี จะได้รับการช่วยเหลือเพียงกรณีเดียว ส่วนที่สองเป็นการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัย ไม่ได้มุ่งชดเชยความเสียหายทั้งหมด ซึ่งเป็นการเยียวยาภายหลังน้ำลด แบ่งการช่วยเหลือออกเป็นด้านต่าง ๆ อาทิ ค่าวัสดุ ซ่อมแซมบ้านเรือน ค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพเบื้องต้น ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพที่เสียหายค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต ค่าชดเชยพื้นที่การเกษตร ประมง ปศุสัตว์ โดยให้การช่วยเหลือตามความจำเป็นเหมาะสม ทาง บกปภ.ช.ก็ได้เร่งรัดสั่งการให้จังหวัดที่ประสบภัยดำเนินการสำรวจ ประเมินจัดทำบัญชีความเสียหาย และรวบรวมข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน ไม่ให้ซ้ำซ้อนเพื่อให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง” ปลัดมท. ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี