ส.ว. เอาด้วยช่วยต้าน 3 สารอันตรายทางการเกษตร ชี้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพประชาชน หวังรัฐบาลยกเลิก เพื่อสุขภาพที่ดีและเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน - ‘สังศิต’ ย้อนปมสมัย ‘เสธ.หนั่น’ บอกพร้อมยกเลิก แต่ถูกขวางเพราะหัวคะแนนบางพรรคขายปุ๋ยและสารเคมี
วันที่ 7 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา นายแพทย์อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พร้อมด้วย นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ ส.ว. แถลงข่าวเรียกร้องให้รัฐบาลตัดสินใจอย่างเป็นเอกภาพ ยกเลิกการใช้พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซท เนื่องจากเป็นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์เกษตร อาหารการกิน ทารกในครรภ์มารดา รวมถึงสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค โดยนายแพทย์อำพล กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ เป็นการแสดงจุดยืนของ ส.ว. ส่วนหนึ่งที่สนับสนุน เรียกร้อง และผลักดันให้รัฐบาลทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ โดยอำนาจการตัดสินใจยกเลิกหรือไม่ อยู่ที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ในกำกับของกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ดังนั้น หากรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจนที่จะยกเลิกก็สามารถทำได้ทันที ซึ่งหากรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหา ด้วยการยกเลิก 3 สารเคมีอันตรายดังกล่าวก็ถือเป็นการให้ของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน
“ในช่วงรัฐบาลที่บริหารงานโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีความพยายามยกเลิกสารเคมีอันตรายดังกล่าวแต่ยังไม่สำเร็จ ขณะที่ทั่วโลกมีประเทศที่ยกเลิกใช้ไปแล้วหลายสิบประเทศ แต่คณะกรรมการวัตถุอันตรายกลับมีมติสวนทางมาโดยตลอด ขณะเดียวกัน การที่สภาผู้แทนราษฎร ได้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษา รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและเห็นด้วยกับการยกเลิกใช้สารพิษดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก” น.พ.อำพลกล่าว
ด้านนายสังศิต กล่าวว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้า จะขอมติของกมธ. ให้อนุกรรมาธิการศึกษาเรื่องนี้ทันที ทั้งนี้ ได้ผลักดันเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2540 สมัยพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่เป็นที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง ตนได้เสนอให้ยกเลิกสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ซึ่งท่านก็เห็นด้วย แต่ว่าเมื่อไปพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ เพื่อขอความร่วมมือ แต่กลับปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าหัวคะแนนของท่านขายปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง จึงไม่สามารถช่วยเรื่องนี้ได้
"ถ้าเราดูปุ๋ยเคมี และยาฆ่าแมลงที่นำเข้ามาจากต่างประเทศพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี และเมื่อไปดูตัวเลขการนำเข้ายารักษาโรคก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย หมายความว่า สิ่งที่เรานำเข้ามาทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ ทำให้เกษตรกรเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ข้อมูลอายุเฉลี่ยลูกหนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พบว่า ลูกหนี้เหล่านี้ตายกันเร็วและอายุสั้น เพราะทำเกษตรเคมี ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้บริโภคด้วย หากรัฐบาลไม่ใช้ความกล้าหาญหยุดเรื่องนี้ ประเทศก็จะเสียหายไม่มีที่สิ้นสุด" นายสังศิต กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี