จากนักธุรกิจเต็นท์รถมือสอง เล็ก-ญาณธิชา บัวเผื่อน กระโดดเข้าสู่การเมืองด้วยต้นทุนที่เท่ากับศูนย์ แต่มาเพราะอุดมการณ์ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงการเมือง และทัศนคติของประชาชนที่ว่า “จะเจอหน้า สส. เฉพาะตอนหาเสียง” ให้เป็น สส.ของประชาชนที่แท้จริง ซึ่งวันนี้เธอกำลังทำให้ประชาชนชาวจันทบุรี เขต 3 (อ.สอยดาว อ.โป่งน้ำร้อน อ.มะขาม อ.ขลุง) ได้เห็นว่า สส.เล็ก ก็ยังคงเป็นคนเดิมเป็น สส. ที่ทุกคนเข้าถึงได้
สส.เล็ก เป็นชาวจันทบุรีโดยกำเนิด เกิดและเติบโตในครอบครัวที่ทำสวนผลไม้ ส่วนตัวเธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านบริหารการตลาด ก่อนจะมาทำธุรกิจจำหน่ายรถมือสอง และมีความสนใจเรื่องการเมืองมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยแต่ยังไม่เคยมีโอกาสเข้าสู่การเมือง
“เล็กเคยเข้าใจว่าคนจะมาเป็นนักการเมืองต้องมีพื้นฐานที่อยู่ในครอบครัวนักการเมืองมาก่อน ที่ผ่านมาก็ไม่มีพรรคการเมืองที่ตรงใจเราและไม่สามารถแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้จริงๆ จนมาทราบข่าวว่าคุณธนาธรจะตั้งพรรคการเมืองใหม่ ซึ่งตัวเล็กเองติดตามศึกษาประวัติ และได้อ่านบทความในฐานะนักธุรกิจมาบ้าง เมื่อได้ฟังแนวความคิดของคุณธนาธรเกี่ยวกับการเมือง การแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ก็รู้สึกว่าเรามีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน คือ เราอยากเห็นเมืองไทยที่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง เป็นประชาธิปไตยที่กินได้ ประชาธิปไตยที่มั่นคง ที่จะส่งผลให้ชีวิตของประชาชนมีความกินดีอยู่ดี จึงได้เข้าร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ และเป็นแกนนำในการจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่ สาขาจังหวัดจันทบุรี”
สส.เล็ก เล่าต่อว่า ในตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะลงเล่นการเมือง จนกระทั่งพื้นที่เขต 3 ของจังหวัดจันทบุรี ยังขาดผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่ เธอจึงตัดสินใจลงสนามเลือกตั้งด้วยต้นทุนที่เป็นศูนย์
“สนใจการเมืองแต่ไม่ได้คิดว่าจะเป็นนักการเมือง แต่เมื่อเห็นว่าเขต 3 ยังหาใครลงไม่ได้ เล็กจึงขออาสาสมัครลงสมัครเอง ซึ่งยอมรับค่ะว่ามันเป็นงานยากจริงๆ พรรคก็ใหม่ ผู้สมัครก็ใหม่แกะกล่อง ไม่มีประสบการณ์การเมืองเลย เราเป็นพรรคเล็กๆตัวเล็กเองก็เป็นลูกชาวสวนมีธุรกิจเล็กๆ ต้นทุนที่จะใช้หาเสียงแทบจะไม่มีเลย จะใช้รถวิ่งหาเสียงก็ต้นทุนสูง วิธีที่เล็กใช้ก็ใช้แบบง่ายๆ เอาความจริงใจไปสู้ เดินไปแนะนำตัว ไปเล่านโยบายพรรคให้เขาฟังอีกเหตุผลที่เล็กอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งและใช้วิธีการนี้เพราะเล็กอยากให้ประชาชนเปลี่ยนแปลงทัศนคติว่าคนธรรมดาก็สามารถทำงานการเมืองได้โดยที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง
เล็กเองก็ไม่ได้หวังว่าตัวเองจะชนะการเลือกตั้ง เพียงแต่หวังว่าจะช่วยเก็บคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้พรรคเท่านั้น ส่วนหนึ่งมองว่าประชาชนคงต้องการอะไรใหม่ๆ ทั้ง สส.ที่เป็นคนรุ่นใหม่ นโยบายใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศได้ พอรู้ว่าเราชนะการเลือกตั้ง ก็ดีใจค่ะที่จะได้ทำอุดมการณ์ของตนเองให้เป็นจริง”
นับตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สส.เล็ก บอกว่า นอกจากการประชุมสภา และการเข้าเรียนหลักสูตรพิเศษที่สถาบันพระปกเกล้าแล้ว เธอจะอยู่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบเพื่อรับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนอยู่เสมอ
“ตัวเล็กเองเมื่อก่อนจะรู้สึกว่า จะได้เห็น สส. หรือนักการเมืองก็ต่อเมื่อหาเสียง จนตัวเองมาสมัครรับเลือกตั้งเดินหาเสียง ก็ยังได้ยินชาวบ้านพูดแบบนั้น เล็กรู้สึกว่ามันเป็นวัฒนธรรมการเมืองที่ไม่ได้เลย เมื่อตัวเองมาเป็น สส.แล้ว เล็กตั้งใจว่าเราจะเปลี่ยนแปลงตรงนี้และจะพยายามลงพื้นที่ไปพบประชาชนมากที่สุด ให้ชาวบ้านรู้สึกว่าเราเป็นที่พึ่งของเขาได้ เขาเลือกเรามาแล้วก็ต้องทำงานให้เต็มที่ต้องแก้ปัญหาของประชาชนจริงๆ
การลงพื้นที่ก็ไม่ได้ไปแบบท่าน สส. มาแล้ว เล็กไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกแบบนั้น แต่เล็กพยายามที่จะทำตัวให้เล็กที่สุด ให้ประชาชนรู้สึกว่าเราคือ สส.ที่เข้าถึงได้ เราเป็นลูกเป็นหลานที่จะมาช่วยแก้ปัญหาให้เขาจริงๆ เล็กชอบที่จะให้มีเวทีเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เวทีนี้ไม่ใช่เรานั่งข้างบน ชาวบ้านนั่งข้างล่าง แต่เป็นการล้อมวงทุกคนนั่งเสมอกัน ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมที่จะบอกเล่าปัญหาและเสนอแนะแนวทางแก้ไข เพราะเล็กเชื่อว่าชาวบ้านคือเจ้าของพื้นที่ เขาคือผู้ประสบปัญหา เขาต้องมีวิธีมีแนวความคิดดีๆ ให้เรา หน้าที่ของ สส. คือรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาประมวลเพื่อหาข้อสรุป หาหนทางแก้ไขที่ทำได้ดีที่สุด อันไหนจะต้องไปว่ากันในสภา อันไหนที่อำนาจหน้าที่เรามีทำได้เลยก็ทำ”
ในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ปัญหาที่ได้รับฟังมาจากชาวบ้านที่ต้องการให้เร่งดำเนินการแก้ไข สส.เล็ก บอกว่า หลักๆ จะมีเรื่องช้างป่าลงมาทำลายพืชผลทางการเกษตร เรื่องแหล่งน้ำที่จะใช้ทำการเกษตร เนื่องจากจันทบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรม และพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน อ.สอยดาว เป็นพื้นที่ที่มีฝนตกน้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ ของจันทบุรี และอีกหนึ่งเรื่องคือ การจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชน รวมไปถึงประชาชนที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์แต่ระบบสาธารณูปโภคยังเข้าไม่ถึง เป็นต้น
จากประชาชนคนธรรมดาที่ขออาสามาทำหน้าที่ สส. เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวจันทบุรี เขต 3 สส.หญิงร่างเล็กแต่ใจแกร่งเกินร้อย ยอมรับต้องมีการปรับตัวกันพอสมควร
“ปรับเรื่องกระบวนการคิด วิธีการพูด เพราะเมื่อก่อนเราเป็นคนที่มีแค่หนึ่งเสียงเล็กๆ แต่เมื่อมาเป็น สส. เสียงของเราจะดังกว่าเสียงของคนทั่วไป ดังนั้นเวลาจะพูดอะไร ทำอะไร ต้องคิดให้รอบคอบ ทุกคำพูดการกระทำต้องอยู่บนหลักพื้นฐานความจริง มีเหตุผล สิ่งหนึ่งที่เล็กเข้าใจมากขึ้นเมื่อมาเป็น สส. คือ เมื่อก่อนเราก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป เวลามีอะไร เราก็มักจะคิดว่า ทำไม สส. ไม่ทำแบบนั้น ไม่ทำแบบนี้ แต่เมื่อเป็น สส.เอง จึงได้เข้าใจเหตุและผลมากขึ้นว่า ในการจะทำอะไรสักอย่างมันต้องมีกฎ มีระเบียบ มีขั้นตอน ไม่ใช่ว่าคิดแล้วจำทำได้เลย เล็กก็จะสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจ และจะบอกกับประชาชนว่าเรื่องที่เรารับมาแล้ว เราจะดำเนินการอย่างไร อะไรที่ทำไปแล้ว เพราะที่ผ่านมาเล็กมองว่า สส.พื้นที่กับประชาชน ขาดการสื่อสารซึ่งกันและกัน เล็กจึงเติมตรงนี้ลงไปทั้งลงไปพูดกับชาวบ้านเอง และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ อย่าง เฟซบุ๊คหรือมาที่ทำการพรรค เล็กก็พร้อมที่จะพูดคุยกับชาวบ้านค่ะ”
เมื่อถามถึง “ความเห็นต่างทางการเมือง” สส.หน้าใหม่แห่งพรรคอนาคตใหม่ จันทบุรี เขต 3 เผยถึงมุมมองต่อเรื่องดังกล่าวว่า
“ทุกคนเห็นต่างได้ค่ะ แต่เราต้องไม่นำมาเป็นข้อขัดแย้ง เราควรมองว่าอะไรคือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ มันไม่ควรจะพูดถึงเรื่องสีเสื้อกันอีกต่อไป อย่างวันนี้พรรคอนาคตใหม่เอง เรามีสมาชิกพรรค มี สส.ของพรรคที่เคยอยู่ต่างขั้ว ต่างสีกันมาก่อน แต่พอเรามองข้ามสิ่งนั้นไป แต่ไปโฟกัสว่าอะไรที่ประชาชน และประเทศต้องการ เราก็มารวมตัวกัน พูดคุยกันได้ สามารถร่วมมือกันพัฒนาประเทศได้ เพราะถ้าเรามัวแต่ทะเลากันในขณะที่ประเทศอื่นรอบๆ บ้านเราเขาเดินก้าวหน้าไปเรื่อยๆ เราก็เหมือนกับเดินถอยหลัง เล็กอยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจ อะไรที่เราจะรับกันได้ก็ควรที่จะรับฟังกัน ถอยกันคนและก้าว เพื่อที่จะก้าวไปด้วยกัน สิ่งใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน อะไรที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ก็ต้องทำค่ะ”
สส.เล็ก ยอมรับว่า ตอนนี้ทำงาน 7 วัน สแตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมง ในการทำหน้าที่ สส. จนเธอรู้สึกว่า ถ้าแยกร่างทำงานได้ก็คงดี
“อังคาร-พฤหัสฯ จะเข้ากรุงเทพฯ เพราะมีประชุมสภา และอบรมหลักสูตรพิเศษของสถาบันพระปกเกล้า ที่เหลือก็จะอยู่ที่จันทบุรี ลงพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ ก็จะมีงานประชุมบ้าง มีเชิญไปงานอื่นๆ บ้าง คือถ้าแยกร่างไปได้ทุกงานก็ดี บางทีที่มีงานซ้อนกัน ก็จะรู้สึกเกรงใจคนที่เชิญมา แต่เล็กจะยึดงานลงพื้นที่ไปดูแลปัญหาของประชาชนเป็นหลัก เพราะการส่งตัวแทนไปประชาชนก็ไม่ได้รู้สึกเท่าที่เขาเจอ สส.ของเขาด้วยตัวเอง ลงพื้นที่จนตอนนี้ก็มีชาวบ้านมาพูดกับเล็กเหมือนกันว่ามาบ่อยๆ จะหาเสียงเลือกตั้งอีกแล้วหรือ มันแสดงว่าเมื่อก่อนเขาคงไม่ค่อยได้เจอ สส. ตัวเป็นๆ จริงๆ นะ พอเราทำแบบนี้ชาวบ้านเขาก็เลยค่อนข้างแปลกแต่ส่วนใหญ่ก็ชอบมีอะไรก็จะบอกกับเราตรงๆ ส่วนพวกงานศพ งานแต่ง งานแสดงความยินดีอะไรต่างๆ ถ้าพอมีเวลาก็จะไปร่วมบ้างค่ะ”
แม้จะเป็นนักการเมืองมือใหม่ แต่ก็มาด้วยใจที่อยากมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งในการทำหน้าที่ สส. เธอยอมรับว่ายังต้องเรียนรู้อีกมาก แต่เธอเชื่อว่า ความตั้งใจ ความจริงใจ จะเข้าถึงหัวใจพี่น้องประชาชนชาวจันทบุรี เขต 3 และมาร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มีความกินดี อยู่ดี มีความมั่นคงไปด้วยกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี