"อัยการสูงสุด"แถลงนโยบาย4ข้อ หนุนพัฒนาองค์กรยั่งยืน เผยอาจได้ที่ดิน"ปปง.-ศาลแขวงสีคิ้ว"ใช้ประโยชน์เพิ่ม
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 ที่ห้องประชุม 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.แจ้งวัฒนะ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) คนที่ 15 กล่าวแถลงนโยบายการบริหารงานของอัยการสูงสุด พ.ศ.2562 - 2564 หลังเข้าดำรงตำแหน่งในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานอัยการสูงสุดเข้ารับฟัง ซึ่งมีนโยบายทั้งหมด 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.การอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ต้องรวดเร็ว เป็นธรรม เสมอภาค โปร่งใส ตรวจสอบได้ และปราศจากการเลือกปฏิบัติ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่น และศรัทธา
2.บูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อค้นหาความจริงเชิงรุกให้สามารถขจัดข้อขัดแย้งและกรณีพิพาท ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาล และประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ 3.นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ลดค่าใช้จ่ายทั้งของภาครัฐและประชาชน ให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้อย่างทั่วถึง สะดวก และรวดเร็ว
และ 4.สนับสนุน ส่งเสริมให้บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด ยึดมั่นในหลักคุณธรรมจริยธรรม มีจิตอาสา พัฒนาความรู้ ความสามารถอย่างต่อเนื่อง และมีความมั่นคง มีการพัฒนาตามเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพ มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงจัดให้มีความพร้อมด้านอัตรากำลัง อาคารสถานที่ปฏิบัติงาน อาคารสถานที่ที่พักอาศัย และวัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน
นายวงศ์สกุล อัยการสูงสุด กล่าวอธิบายถึงนโยบาย อาทิ การบูรณาการกับทุกหน่วยงาน ซึ่งมีสำนักงานอัยการสูงสุดมีพันธกรณีในรูปแบบกับศาล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมบังคับคดี ขณะที่นอกรูปแบบมีการแข่งขันกีฬา การทำบุญร่วมกัน เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับหน่วยงานภายนอก , การปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมต้องรวดเร็วและประหยัด ซึ่งจากการศึกษาดูงานต่างประเทศเห็นว่ามีการนำนวัตกรรมใหม่มาใช้มากขึ้น เช่น ธนาคารโลกใช้ AI , การพัฒนาบุคลากร ผ่านโครงการจิตอาสา การพัฒนาความรู้ความสามารถด้วยการอบรมสัมมนา พร้อมประสานงานในการไปอบรมกับหน่วยงานอื่นและต่างประเทศ และการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบที่เป็นอุปสรรค เป็นต้น
ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น มีข่าวดีที่เราได้งบสูงกว่าปีก่อน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคณะกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎรหลายท่าน ทั้งนี้ การพัฒนาองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ อัยการสูงสุดวาระ 2 - 3 ปี อาจไม่ต่อเนื่อง ต่อไปนี้เครือข่ายผู้บริหารที่จะขึ้นรุ่นต่อไป ต้องเชิญมาร่วมกันสร้างแนวคิด พัฒนาให้องค์กรยั่งยืน สร้างความสุขให้บุคลากรในองค์กร หากมีปัญหาข้อเสนอแนะให้สะท้อนมา ตนและผู้บริหารพร้อมรับฟัง
นายวงศ์สกุล ยังเผยถึงการประสานงานกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขอใช้พื้นที่ ซึ่งเป็นที่ดินย่านสะพานควาย ที่อัยการยื่นฟ้องให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน แล้ว ปปง.ยินยอมให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวจำนวน 21 ไร่เศษ โดยมีแนวคิดที่ก่อสร้างอาคารสำนักงานอัยการสูงสุดที่เป็นของหน่วยงานเราเองจริงๆ การใช้ที่ดินดังกล่าวก็อาจมีเงื่อนไขอะไรเพิ่มเติม แต่ก็ถือว่าเราได้เริ่มทำแล้ว และกรณีที่นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา มีนโยบายให้ตั้งศาลแขวงสีคิ้ว พร้อมสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการอีกแห่ง เพื่อใช้ฝึกอบรมจากการพูดคุย ทางสำนักงานอัยการฯ มีโอกาสที่จะได้รับที่ดินใช้ประโยชน์ในพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้นโยบายลักษณะเดียวกับทางศาล ในการสร้างสถาบันอบรมและเป็นพื้นที่สีเขียว อยู่กับธรรมชาติ ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม
ภายหลังการแถลงนโยบายเสร็จสิ้น คณะผู้บริหารสำนักงานอัยการสูงสุดชุดใหม่ได้ร่วมกันถ่ายภาพ ด้วยการชูมือร่วมกันแสดงพลังและพันธะสัญญา กล่าวสโลแกนว่า "ด้วยใจภักดี ตระหนักในหน้าที่ พลังสามัคคี มีนิติธรรม" เพื่อยืนยันในเจตนารมย์อันแน่วแน่ที่จะขับเคลื่อนองค์กรอัยการให้เป็นไปตามแผนนโยบายที่ได้แถลงไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี