ด่ากันลั่นห้องประชุมสภา  ‘เสรีฯ’ฉะปารีณา  สบถ‘อย่าเสือก-คุณมันต่ำ’

ด่ากันลั่นห้องประชุมสภา ‘เสรีฯ’ฉะปารีณา สบถ‘อย่าเสือก-คุณมันต่ำ’

วันศุกร์ ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :

ด่ากันลั่นห้องประชุมสภา

‘เสรีฯ’ฉะปารีณา

สบถ‘อย่าเสือก-คุณมันต่ำ’

‘สิระ’โดดป้องจี้ถอนคำพูด

เจ้าตัวปากแข็ง-ท้าให้ฟ้อง

‘อรรถวิชช์’ทิ้งปชป.ซ้ำอีก

จับมือ‘กรณ์’ตั้งพรรคใหม่

ปะทะเดือดกลางห้อง กมธ.ป.ป.ช.“เสรีพิศุทธ์”ฉุนด่า“ปารีณา” สอบ 7 ประเด็นฉาวว่า “อย่ามาเสือก”โดนสวน “อย่ามาพูดจาต่ำๆ แบบนี้” โต้เถียงเดือด “สิระ” โดดป้อง จี้ให้ถอนคำพูด-ขอโทษ เจ้าตัวปากแข็งไม่ยอม แถมยังท้าให้ฟ้อง สั่งตร.สภาหิ้วออกนอกห้องขณะ 52 พปชร.เข้าชื่อยื่นญัตติให้ปลดเสรีพิศุทธ์พ้นกมธ.ชี้ทำหน้าที่ขัด รธน.-ล่วงล้ำพระราชอำนาจเมินเสียงข้างมาก ด้าน “ปชป.” ระส่ำ“อรรถวิชช์”ทิ้งพรรคอีก จับมือ “กรณ์” ตั้งพรรคขับเคลื่อนไทย“ชวน”ไม่อยากให้ลาออก

“นายกฯ”ยันไม่มียุบสภา ย้อนใครปล่อยข่าว


เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16มกราคม ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ และ นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ ร่วมแถลงยื่นญัตติด่วนเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย พ้นจากตำแหน่งกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมี ส.ส.ลงชื่อรับรองในญัตตินี้ จำนวน 52 คน ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯพ.ศ.2562 ข้อ 108 (5)

ชี้เสรีฯขัดรธน.ไม่ฟังเสียงข้างมาก

นายไพบูลย์ให้เหตุผลการยื่นญัตตินี้ว่าเนื่องจากการประชุมคณะกรรมาธิการฯเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ได้มีการพิจารณาเรื่องการถวายสัตย์ปฎิญาณของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมโดยคณะกรรมาธิการฯเสียงข้างมาก จำนวน 8 คน จากทั้งหมด 15 คน มีมติโดยการขานชื่อเพื่อยืนยันว่าต้องการให้ยุติการตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของคณะกรรมาธิการฯที่จะตรวจสอบได้ เมื่อกมธ.เสียงข้างมาก มีมติแล้ว แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กลับละเลย มติเสียงข้างมากโดยไปอ้างข้อบังคับการประชุมสภาฯไม่ถูกต้อง พร้อมอ้างอำนาจความเป็นประธาน กมธ.เพื่อไม่ถือตามมติเสียงข้างมาก เป็นผลให้ กมธ.เสียงข้างมาก จึงจะต้องดำเนินการกับพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ในสภาฯด้วยการเสนอญัตติดังกล่าว

ยันให้สภาฯพิจารณาถอดพ้นกมธ.

“พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้อาศัยสถานะความเป็นประธานคณะกรรมาธิการฯทำการตรวจสอบการถวายสัตย์ของนายกฯและคณะรัฐมนตรี ทั้งที่เรื่องดังกล่าวอยู่ในเขตพระราชอำนาจ การกระทำของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จึงเป็นการกระทำที่มิบังควรอย่างยิ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงไม่สมควรที่จะปฏิบัติหน้าที่ประธานและกรรมาธิการต่อไป เพราะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีอำนาจตรวจสอบดังที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งไม่รับเรื่องดังกล่าวไว้วินิจฉัยตามคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่32/2562 จึงขอเสนอญัตติด่วนเพื่อให้สภาฯพิจารณาดำเนินการและมีมติให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์พ้นจากการเป็นกรรมาธิการต่อไป ผมเป็นนักกฎหมายผ่านเรื่องต่างๆมากมาย ถ้าท่านยังไม่หยุดจะเป็นเรื่องที่ใหญ่อย่างคาดไม่ถึง”นายไพบูลย์ กล่าว

สิระลั่นถ้ายังอยู่-ขู่ฟ้องหลายคดี

ด้าน นายสิระกล่าวว่าส่วนตัวอยู่ในเหตุการณ์ระหว่างการประชุมเมื่อวันที่ 15ม.ค.ซึ่งยืนยันได้ว่าพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กระทำการฝ่าฝืนข้อบังคับการประชุมสภาฯชัดเจน หากพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป ตนจะดำเนินการฟ้องร้อง เป็นคดีอีกหลายคดี ส่วนที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะยื่นฟ้องส.ส.ที่ลงมติเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563นั้น เมื่อพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มองว่าการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณมิชอบด้วยกฎหมายแล้ว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็ไม่ควรรับเงินเดือนแต่อย่างใด

เปิดศึกปะทะเดือดกมธ.ปปช.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่าในการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร มี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเป็นประธานการประชุม ปรากฏว่า ได้เกิดเหตุปะทะอารมณ์ระหว่างพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กับ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกมธ.ซึ่งเป็นผลสืบเนื่อง จากน.ส.ปารีณาไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรรคพลังประชารัฐ ทวงถามกรณีที่ไม่บรรจุเรื่องที่ตนเองและนายสนธิญา สวัสดี สส.พรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จำนวน 7 ประเด็นซึ่งสำนักเลขาธิการสภาฯส่งเรื่องให้คณะ กมธ.แล้ว

เสรีฯด่า’ปารีณา’อย่ามาเสือก’

โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ชี้แจงเหตุผลที่ไม่ยอมพิจารณาว่าเป็นเพราะว่าไม่มีลายเซ็นต์ของผู้ร้องทำให้น.ส.ปารีณาในฐานะผู้ร่วมคำร้อง ยืนยันว่าได้ลงลายมือชื่อเรียบร้อย แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังยืนยันคำเดิม จึงเกิดการโต้เถียงกันนานกว่า15นาที จนกระทั่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์โมโหและหมดความอดทนจนกล่าวว่า“อย่ามาเสือก พูดจาแบบนี้กับผม”ทำให้ น.ส.ปารีณาโต้ตอบกลับว่า“อย่ามาพูดจาต่ำๆแบบนี้กับดิฉัน”ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้พูดสวนว่า “ก็คุณมันต่ำ” จากนั้นก็ได้สั่งพักการประชุมเนื่องจากที่ประชุมสภาฯเรียกสมาชิกให้มาลงคะแนน ตามวาระการประชุม

‘ปารีณา-สิระ’รุมจี้ให้ถอนคำพูด

ต่อมา ที่ประชุมคณะ กมธ.ได้เปิดประชุมอีกครั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้ยอมรับว่าเอกสารคำร้องได้ลงนามถูกต้อง พร้อมตำหนิเจ้าหน้าที่ว่าไม่ยอมแจ้งความถูกต้องให้ทราบ สิ้นเสียง น.ส.ปารีณา จึงได้ขอให้ถอนคำว่า“เสือก”ออกไป แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ยังยืนยันไม่ถอนและท้าให้ไปฟ้อง พร้อมยังได้ไล่น.ส.ปารีณา ออกจากห้องประชุมรวมทั้งได้สั่งตำรวจสภาหญิง2 คนมาอุ้มน.ส.ปารีณาพาออกจากห้องประชุม และได้สั่งปิดการประชุมทันที

จวกยับนี่หรือ’วีระบุรุษนาแก’

ทั้งนี้โดยก่อนสั่งปิดการประชุม นายสิระเข้ามาร่วมประชุมรอบหลังได้โวยวายเรียกร้องให้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ถอนคำว่า“เสือก”อ้างว่าเป็นคำไม่สุภาพที่จะใช้กับผู้หญิงซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้รับฉายาว่า”สุภาพบุรุษนาแก”จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะพูดคำนี้กับผู้หญิง ขณะที่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พูดขึ้นว่า”คุณมาทำตัวแบบนี้ วันหนึ่งมาไหว้ วันหนึ่งก็มาว่า”ทำให้ นายสิระปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกัน พร้อมยืนยันให้ถอดคำพูด แต่พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ก็ได้ลุกเดินออกจากห้องประชุมพร้อมย้ำว่า จะลงมาแถลง ทำให้ นายสิระกล่าวไล่หลังว่า“ท่านอย่ารับเงินเดือน เพราะท่านเห็นว่าการยื่นร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 63ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หากรับเงินเดือนเท่ากับว่าร่วมกระทำความผิดด้วย”

จากนั้น นายสิระให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า“สังคมควรตัดสินว่าผู้ชายคนนี้ทำพฤติกรรมยังไงคุณเอ๋ก็แค่ทักท้วง แต่กลับมีคำพูดจากประธานว่า”เสือก”เข้าใจว่าพูดออกมาแล้วหลุดได้แต่หลุดแล้วก็ควรจะขอโทษ ให้สังคมตัดสินว่านี่คือพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต ผบ.ตร.อดีตวีรบุรุษนาแก ถ้าเป็นที่ประชุมใหญ่ คำนี้ต้องขอถอน ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์ก็จริงแต่คุณเอ๋ ปรีณาบอกให้ถอนคำพูดไม่ยอมถอน”

สส.อนค.ยอมรับเบื่อปมวิวาทะ

เมื่อถามว่าเป็นในลักษณะนี้แล้ว จะทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่นายสิระกล่าวว่า คณะอื่น ยังทำได้ ตอนทำงานกับนายปิยบุตรก็ทำงานได้ ประชาชนได้ประโยชน์ ต้องยึดเสียงส่วนมาก ทำตามกฎหมายและยึดระเบียบข้อบังคับ แค่นี้ก็อยู่ด้วยกันได้ ความคิดเห็น ไม่ตรงกัน คือ ระบอบประชาธิปไตย

“เราทำงานด้วยกันได้ ถ้าทุกคนอยู่ร่วมกัน แบบไม่ดูถูก ดูแคลน ไม่ใช้วาจาที่ล่วงลึกไปขนาดที่ใช้คำว่าเสือก กับผู้หญิง แบบนี้มันไปไม่ได้ ต้องถามคนที่พูดว่าพูดมาได้อย่างไรว่าเสือก” นายสิระกล่าวย้ำ

ขณะที่นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ โฆษก กมธ.ยอมรับว่ารู้สึกเริ่มเบื่อกับประเด็นวิวาทะที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่การทำงานที่ผ่านมา สามารถเดินไปได้แต่ก็จะมาติดในเรื่องลักษณะแบบนี้และตนนอกจากจะเป็นกมธ.ทำหน้าที่สอบสวนแล้ว ก็ยังต้องเป็น กรรมการห้ามมวย ด้วย

‘อรรถวิชช์’ทิ้งปชป.ผนึก’กรณ์’

สำหรับปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนายกรณ์ จาติกวนิช ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคไปแล้วเพื่อไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น ล่าสุด นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตส.ส.กรุงเทพ พรรคประชาธิปไตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ และพี่น้องประชาชนที่เคยสนับสนุนผมทุกท่าน วันนี้ผมได้ยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์และได้ไปกราบลาท่านชวน คนที่ผมเคารพรักเมื่อวานนี้จะระลึกถึงคำสอนของท่านอยู่เสมอครับ เป็นการตัดสินใจที่ยาก ที่ต้องจากพรรคการเมืองที่ดีและมีรากฐานทางความคิดมายาวนาน การเมืองที่ผมอยากเห็น คือ การเมืองที่กระชับ ชัดเจนรองรับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อนำประเทศเข้าสู่โครงสร้างเศรษฐกิจแบบใหม่เป็น Startup ทางการเมืองที่จะฉีกกรอบแนวคิดการบริหารราชการแผ่นดินอย่างสร้างสรรค์ อยากเห็นคนจริง คนทำงานในหลากหลายอาชีพมาช่วยกันขับเคลื่อน พลิกโฉมประเทศไทย ผมกับพี่กรณ์ตกลงกันว่า ได้เวลาลงมือทำ ถึงไหนถึงกัน สร้างการเมืองที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมีคุณธรรมและอยากชวนทุกคนมาร่วมทางเดิน ลุยไปทำในสิ่งที่เชื่อกัน

มีรายงานว่า เบื้องต้น นายกรณ์ และนายอรรถวิชช์ จะยื่นจดจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในชื่อว่า”พรรคขับเคลื่อนไทย”

‘ชวน’ให้กำลังใจ-ไม่อยากให้ออก

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภายในของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีสมาชิกบางคนลาออกและคาดจะมีคนลาออกเพิ่มอีกว่า ไม่ทราบ ต้องถามกรรมการบริหารพรรค ความจริงก็มีคณะบริหารอยู่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องแจ้งคณะผู้บริหาร ส่วนจะมีความเชื่อมั่นในคณะผู้บริหารอยู่หรือไม่นั้น ก็ต้องไปถามคณะผู้บริหารเมื่อถามามีความกังวลหรือไม่ว่าความขัดแย้งจะทำให้พรรคที่ก่อตั้งมาหลายสิบปีถึงคราวต้องล่มสลายนายชวนกล่าวว่า“ผมพยายามให้กำลังใจคนในพรรค ต้องมีความอดทนไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งอะไรก็ตาม ก็ให้กำลังใจว่าต้องให้อดทนหน่อย ก็เป็นธรรมดาของพรรคการเมือง ที่มีโอกาสได้เสียงมากเสียงน้อย หากได้น้อยสัดส่วนคณะรัฐมนตรีก็น้อย คนที่มีศักยภาพที่น่าจะเป็นได้ก็ไม่มีโอกาส ซึ่งก็ไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

“ประสบการณ์แบบนี้พรรคประชาธิปัตย์ก็เคยผ่านมา บางทีก็วัดกันด้วยความอดทนของคนเหมือนกันที่ทำได้ คือการให้กำลังใจ ไม่เคยคิดจะให้ใครออก ใครที่มาบอกผม ผมก็ห้ามทุกคน แต่เรา ก็ไม่ห้ามเขาไม่ได้ ถ้าเขาตัดสินแบบนั้นไปแล้ว”นายชวน กล่าว

ฝ่ายค้านยังไม่ยื่นญัตติซักฟอก

ทั้งนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกำหนดการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านว่า ตอนนี้ ยังไม่มีการแจ้งวันที่จะยื่นญัตติ โดยวันที่ 28 กุมภาพันธ์ คือ วันสุดท้ายของสมัยประชุมนี้ ยังมีเวลาเดือนครึ่ง ส่วนสถานะ 4 สส.ที่ถูกขับออกจากพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งทางพรรคยังไม่ออกเอกสารมติขับอย่างเป็นทางการ นายชวน กล่าวว่า ตอนนี้กำลังรอเขาแจ้งมาว่าเมื่อครบ 30 วันแล้วแต่ละพรรคได้ดำเนินการอย่างไร และต้องรอทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งมา ในการปฏิบัติหน้าที่ที่ผ่านมาทุกคนก็ยังทำหน้าที่อยู่

แจ้ง’กรณ์-ไวพจน์’สิ้นสภาพสส.

วันเดียวกัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2ทำหน้าที่ประธานหลังให้ สส.หารือปัญหาความเดือดร้อนเสร็จสิ้น ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบเรื่องนายกรณ์ จาติกวณิช ได้มีหนังสือขอลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันที่ 15ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้สมาชิกภาพนายกรณ์ได้สิ้นสุดลงตามาตรา101(8)ของรัฐธรรมนูญ และรับทราบเรื่อง พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ สิ้นสุดสมาชิกภาพการเป็น สส.ลง หลังศาลจังหวัดพัทยาได้อ่านคำพิพากษา ศาลฎีกาลงโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 200 บาทโดยไม่รอลงอาญา เป็นเหตุให้สิ้นสุดสมาชิกภาพตามมาตรา101(13)รัฐธรรมนูญ ดังนั้น จำนวน ส.ส.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ขณะนี้จำนวน 497 คน องค์ประชุมกึ่งหนึ่งไม่น้อยกว่า 249 คน

‘บิ๊กป้อม’ส่งลูก’ไวพจน์’ลงสู้แทน

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม เขต2 จ.กำแพงเพชร แทน พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ว่าพปชร.เตรียมบุคคลที่จะลงสมัครแล้วซึ่งเป็นลูกชายของ พ.ต.ท.ไวพจน์ (เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์) และคิดว่าจะเก็บที่นั่งมาเป็นของพรรค พปชร.ได้ ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยอระบุว่ามีกระแสข่าวในรัฐบาลว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภาฯเพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล พล.อ.ประวิตรยิ้มก่อนกล่าวว่า“ใครคิด ถ้าเขาคิดคนเดียว ก็ว่าไปคนเดียว จะไปยุบสภาเรื่องอะไร ไม่มีหรอก คนที่พูดเรื่องนี้ เขาไม่มีอำนาจในการยุบสภาอยู่แล้ว คนยุบสภาคือนายกฯคนเดียว”

‘บิ๊กตู่’ยันไม่ยุบสภา-ใครปล่อยข่าว

เวลา15.10น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกระแสข่าวการยุบสภาฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ ตามที่ฝ่ายค้านระบุ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวปฏิเสธว่า”ไม่มี ไม่มียุบ เยิบอะไรทั้งนั้น ใครไปพูดล่ะ”

พท.ลั่นซักฟอกล้ม’ระบอบประยุทธ์’

ขณะที่นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านว่าพล.อ.ประยุทธ์ อาจเข้าใจผิดว่าปัญหาวิกฤติศรัทธาของรัฐบาลมาจากการไม่สามารถสื่อสารนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชนได้ จนมีกระแสข่าวจะเปลี่ยนตัวโฆษกรัฐบาล หากปลดโฆษกรัฐบาลจริง ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาไม่มีผลงานของรัฐบาลได้ แนวทางแก้ไขที่ควรเร่งดำเนินการ คือ การเร่งผลักดันนโยบายที่หาเสียงไว้มาดำเนินการให้เป็นรูปธรรม จึงจะเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด ความกลัว ทำให้เสื่อม สัญญาณความเสื่อมถอยของรัฐบาลและพรรคร่วม เริ่มออกอาการเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ อาการเลือดไหลไม่หยุด สมาชิกพรรคทยอยลาออกแทบทุกวัน เพื่อไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ รองรับการเลือกตั้งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ปัญหาเกาเหลาระหว่างรัฐมนตรี ต่างพรรค ต่างจองกฐิน รอเวลาเอาคืนซึ่งกันและกัน

“การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ จะมีชื่อพล.อ.ประวิตร หรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาเพราะถ้า พล.อ.ประยุทธ์ เป้าใหญ่ อยู่ไม่ได้เครือข่าย ระบอบประยุทธ์ก็ต้องพ้นไปทั้งหมด นาทีนี้ พล.อ.ประวิตรไม่น่าจะมีบารมีพอในการไปล็อบบี้พรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม แม้แต่ในพรรคร่วมรัฐบาลเองยังไม่รู้ว่าสามารถคุยกับใครแล้ว มีเครดิตน่าเชื่อถืออยู่หรือไม่ ถ้า พล.อ.ประวิตร สามารถเคลียร์ปัญหาได้จริง ปัญหาความขัดแย้งอย่างหนัก ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประวิตร ต้องทำได้มากกว่า พูดแค่ว่า ไม่ยุ่ง ไม่เกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาหนีการอภิปรายหรือไม่ ไม่ใช่ปัญหา แค่คิดว่าจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าประชาชนเห็นแผลทุจริตของรัฐบาลเต็มไปหมด ก็เป็นเรื่องยาก จนสมองอาจเหลือน้อยกว่าเดิม”โฆษกพรรคเพื่อไทย ย้ำ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top