วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
7จว.ยังปะทะเดือด
เอฟ-16ขึ้นบินทั้งวันถล่มเป้าหมาย
ระเบิดเส้นทางส่งกำลัง
ทบ.คุม6พื้นที่ได้100%
กองทัพสรุป 7 จว.แนวชายแดนไทย-เขมรปะทะต่อเนื่อง ทหารไทยเสียชีวิต 15 นาย บาดเจ็บ 270 นาย รักษาตัวหาย แจ้งขอกลับไปรบ ทบ. อัปเดตคุม 6 พื้นที่ได้ 100% เชื่อทำลาย BM-21 ได้มากกว่า 1 ระบบ แจงรถถัง VT4 เกิดอับัติเหตุ คาดใช้รบหนัก ด้านทอ.เผย ใช้F-16 โจมตี 3 เป้าหมาย ทางทหารกัมพูชา จันทบุรี-ตราด สำเร็จลุล่วง ทั้งสะพานจัยจุมเนี๊ยะ – บ้านสามหลัง – กาสโนทมอดา แจง กาสิโน ทมอดา ภายนอกดูดี ข้างในพังยับ ตราดอพยพปชช.หลัง นาวิกโยธินไทยตอบโต้ฐานปืนใหญ่กัมพูชาดุเดือด
เมื่อเวลา 06.12 น. วันที่ 13 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชาต่อเนื่องเป็นวันที่เจ็ด ซึ่งสถานการณ์โดยรวมตึงเครียดตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และทวีความรุนแรง ซึ่งเครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทย (RTAF) ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งสำคัญ เป้าหมายคือการทำลายสะพานในดินแดนกัมพูชา
เอฟ-16ทิ้งบึ้มสะพานตัดเส้นทางส่งกำลัง
เพจเฟซบุ๊ก Army Military Force โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุ เครื่องบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศไทยปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดทำลายสะพานจัยจุมเนี้ยะ ต.ทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์ ลึกเข้าไปในดินแดนกัมพูชา 4-5 กิโลเมตร เพื่อตัดเส้นทางขนส่งกำลังบำรุงของฝ่ายผู้รุกราน โดยปฏิบัติการนี้มีขึ้น เพื่อตัดเส้นทางขนส่งกำลังบำรุงของฝ่ายผู้รุกราน”ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นการตอบโต้ต่อภัยคุกคามหรือการรุกรานที่ดำเนินอยู่
เฟซบุ๊ก Army Military Force ยังโพสต์เพิ่มเติมว่า เวลา 07:40 น.แนวรบด้านจ.สระแก้วยังดุเดือดต่อเนื่อง ทหารไทยสู้รบกับเขมร มีการยิงปืนใหญ่-เครื่องยิงลูกระเบิดโจมตีตำแหน่งทางทหารกัมพูชา เสียงระเบิดดังไกลหลายกิโลเมตร
ขณะที่ น.อ.ธรรมนูญ วรรณา ผบ.หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด เปิดเผยว่า ทหารเฝ้าติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของทหารกัมพูชาในพื้นที่มานานหลายวัน พบการเสริมกำลังเพิ่มต่อเนื่อง และใช้สะพานสะพานจัยจุมเนี้ยะ เป็นเส้นทางส่งกำลังบำรุง ทำให้ฝ่ายความมั่นคงได้ชี้เป้าหมายมาหลายวันว่าต้องทำลายสะพานแห่งนี้เพื่อตัดการส่งกำลังบำรุง และเช้ามืดวันนี้จึงปฏิบัติการและประสบความสำเร็จ เหมือนลักษณะปิดประตูตีแมวแล้วในขณะนี้
ทบ.ยันทภ.1ยึด6พื้นที่สำคัญได้100%
เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงสถานการณ์ปะทะชายแดนว่า ในส่วนกองทัพบกมีความคืบหน้า ส่วนแรก ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ภูมิประเทศสําคัญที่กัมพูชายึดครอง และเรายึดกลับมาสําเร็จ 100% เนิน 677 สําหรับพื้นที่อื่นควบคุมได้แล้ว เช่น ซัมแต ช่องจอม ช่องระยีปราสาทคนา บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว พื้นที่กองทัพภาคที่ 1 สำหรับพื้นที่ปราสาทคนารับแจ้งว่า เดิมเราควบคุมพื้นที่ได้บางส่วน แต่ปัจจุบันหน่วยในพื้นที่ยืนยันว่าพื้นที่ปราสาทคนากองทัพบกควบคุมได้100% แล้ว
เชื่อทำลายBM-21ได้มากกว่า1ระบบ
ส่วนประมาณการสูญเสียของฝ่ายกัมพูชา กรณีทำลายBM- 21 ได้เพียง 1 ระบบ ขอชี้แจงว่า เราต้องพิสูจน์ทราบได้ชัดเจน หน่วยในพื้นที่ยืนยันมา แต่ตนเชื่อว่ามีมากกว่านี้ ที่เราได้ปฏิบัติการเข้าไปโจมตีทำลายและเสียหายมากกว่านี้ แต่ขอยึดตัวเลขที่เป็นทางการเท่านั้น นอกจากนี้ การปฏิบัติงานการทำลายที่หมายต่างๆ ยอมรับว่าในภูมิประเทศทั้งในส่วนพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 เป็นป่าเขา มีการหลบหนีใช้ยุทธวิธี ต้องอาศัยเล่ห์เหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบ สามารถโจมตี BM-21ได้ 1คันถือว่าประสบความสําเร็จ
รถถัง VT4 เกิดอุบัติเหตุคาดรบหนัก
สำหรับพื้นที่กองกําลังบูรพา เช่นกันเป็นที่โล่ง แต่มีสิ่งปลูกสร้าง ถือเป็นการรบในเมือง ดังนั้นยุทธวิธีจึงแตกต่างกันไป ความยากลําบากของเจ้าหน้าที่ ขอให้ทุกคนเป็นกําลังใจ เพราะการทําลายยุทโธปกรณ์สําคัญโดยเฉพาะ จรวด อาวุธระยะไกลเป็นสิ่งสําคัญ เพราะอาวุธพวกนี้โจมตีเข้ามามีการกระทบพลเรือนจํานวนมาก
ขณะที่อุบัติเหตุรถถัง VT4 ฝ่ายไทยเกิดอุบัติเหตุ ยอมรับว่า เกิดขึ้นจริง รถถังเสียหายสำหรับสาเหตุยังระบุไม่ได้ อยู่ในขั้นการตรวจสอบสายเทคนิค จากข้อสันนิษฐาน เป็นไปได้หลายประการ เนื่องจากรถถัง VT4 เข้าร่วมปฏิบัติการมาต่อเนื่อง ทำการยิงอย่างหนักหน่วงตั้งแต่มีปฏิบัติการมา อาจเป็นสาเหตุนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม อยากให้รอการพิสูจน์ทางเทคนิคโดยกรมสรรพาวุธอย่างละเอียดอีกครั้ง
ปิดจ็อบ2แนวรบเกาะยอ-เกาะกงฐานทหารเขมร
นาวาเอกนรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือกล่าวว่า การปฏิบัติการของกองทัพเรือที่ผ่านมามี 2 พื้นที่ พื้นที่แรกบริเวณเกาะยอ จังหวัดเกาะกง เป็นตั้งทางทหารกัมพูชาอยู่บนเกาะ เป็นทหารปืนใหญ่ขนาด 130 มม. สองฐานยิง ซึ่งฐานยิงของปืนใหญ่ดังกล่าวเป็นภัยคุกคามกําลังทางเรือที่ปฏิบัติการในพื้นที่ จึงเปิดการโจมตีทําลายที่มั่นทางทหารบนเกาะยอดังกล่าว ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย วันนี้จะขึ้นสํารวจความเสียหาย
ทำลายบ้าน3หลัง-สะพานจัยจุมเนี้ยะสำเร็จ
อีกพื้นที่เป้าหมายบ้าน 3 หลัง ในพื้นที่เราถูกโจมตีด้วยอาวุธสนับสนุนของกัมพูชาเข้ามา ไม่สามารถนําเอากําลังพลทหารราบนาวิกโยธินยึดพื้นที่ จึงต้องริดรอนทําลายอาวุธสนับสนุนปืนใหญ่ปืน ปืน ค. BM-21 ของกัมพูชา จากที่กัมพูชาระดมโจมตีใส่ จึงจําเป็นต้องร้องขอการสนับสนุนทางอากาศของกองทัพอากาศ กระทำต่อเป้าหมายที่สําคัญทางยุทธศาสตร์ มีการโจมตี สะพานจัยจุมเนี้ยะเส้นทางการลําเลียงยุทโธปกรณ์และเพิ่มเติมกําลังของกัมพูชาเข้ามาสู่พื้นที่ ผลการโจมตีทําลายสะพานทั้งสองสะพานได้เรียบร้อย
กาสิโนทมอดาฐานทัพเขมรเจอบึ้มพังยับ
พื้นที่บ้านหนองรีคือ กาสิโน ทมอดา ที่กัมพูชาดัดแปลงเป็นที่ตั้งทางทหารเป็นศูนย์บัญชาการ เสริมกําลัง มีอุปกรณ์ในการควบคุมโดรน ได้ร้องขอโจมตีทางอากาศในเวลาประมาณ 6 โมงเช้าวันนี้ กองทัพอากาศโจมตีอาคารหลัก รวมถึงอาคารด้านข้างผลการทําลายสามารถทําลายที่หมายได้ ถึงแม้จะไม่ราบ แต่ข้างในได้รับความเสียอย่างหนักไม่สามารถเป็นที่บัญชาการทางทหารได้
เอฟ-16โจมตี3ที่มั่นเขมรด้านจันท์-ตราดสำเร็จ
ขณะที่ พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเสริมว่า การโจมตีในพื้นที่จันทบุรี-ตราด เรื่องความแม่นยําจากสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราดส่งคําร้องขอการโจมตีทางอากาศในพื้นที่รับผิดชอบ 3เป้าหมาย 2 พื้นที่
กรณีการโจมตีศูนย์บัญชาการควบคุมทางทหารกัมพูชา เป็นเป้าหมายที่ใกล้กับพลเรือนจึงใช้อาวุธที่มีความแม่นยําสูง ในการโจมตีเราเลือกจุดในขีดความสามารถที่เรามี เราใช้ระเบิดที่มีความแม่นยําสูงทิ้งลงไปและใช้เทคนิคหน่วงเวลาของระเบิด เมื่อระเบิดตกจะไม่ระเบิดทันทีเมื่อกระทบ แต่จะฝังในพื้นที่และระเบิดออก ทําให้กระจกจากภายในระเบิดออกทั้งหมดยืนยันว่า ภายนอกแม้ยังดูดี แต่ภายในระบบโครงสร้างทั้งหมดถูกทําลายโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถใช้การต่อไปได้ ในส่วนสะพาน ถูกโจมตีในช่วงเวลาเช้า เนื่องจากไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับประชาชนชาวกัมพูชาที่มาใช้สะพาน ทำให้ สะพานโครงสร้างถูกทำลาย รถไม่สามารถผ่านไปมาได้ ไม่ว่าจะเป็นรถใหญ่ รถถัง ยุทโธปกรณ์
ปะทะเดือดช่องอานม้า-4ทหารไทยพลีชีพ
ขณะที่ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีรายงานแจ้งว่า เกิดเหตุปะทะบริเวณเนิน 677 ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี มีกำลังพลถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นายประกอบด้วย 1.พลโชคชัย เนียมแสง เจ็บแขน 2 ข้าง แดง 2.จ.ส.ต.นพนันท์ จันดาแดง โดนที่ขาแขน เหลือง 3.พลฯ คอลิต หมุดกะเหล็ม โดนที่หลัง เหลือง นอกจากนี้ ยังมีกำลังพลเสียชีวิตอีก 4 นายประกอบด้วย 1.จ.ส.อ.ดำรงเกียรติ แก้วกระจ่าง 2. พล.มุสตากีม เจ๊ะมะ 3. จ.ส.อ.ทวีรัตน์ รัตนบุรี 4. พลฯ ทหารราบ
ตราดปะทะดุเดือด-ทร.ตอบโต้ฐานปืนใหญ่เขมร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด พื้นที่ ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด มีการปะทะกันตลอดเป็นช่วงๆ ทั้งปืนใหญ่ ปืน ค. และปืนเล็ก จนถึงเช้ามืด ขณะที่เวลา 02.00 น. เกิดเสียงปืนที่บ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ตรวจพบว่า ฝ่ายไทยระดมยิงปืนใหญ่กว่า 10 นัด ไปยังเป้าหมายในจ.เกาะกง หลังการข่าวพบความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นภัยต่อฝ่ายไทย คือ ฐานปืนใหญ่ ด้านสื่อมวลชนกัมพูชา รายงานข่าวตรงกันว่า กองทัพเรือ ยิงปืนใหญ่ใส่บ้านปากคลอง จ.เกาะกง กว่า 20 นัด ส่งผลให้ชาวบ้านในหมู่บ้านปากคลอง ต้องอพยพเร่งด่วน
ทร.เปิดยุทธการพิทักษ์อ่าวไทยหาที่ตั้งทหารเขมร
ต่อมาเวลา 16.00 น. ศูนย์แถลงข่าวร่วม สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกมีการแถลงข่าวสรุปสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาประจำวันอีกครั้ง โดยนาวาเอกนรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือเผยว่า กองทัพเรือ (ทร.) รับผิดชอบ พื้นที่ทางบกบ้านชำราด จังหวัดตราด พื้นที่รับผิดชอบหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน โดยหน่วยบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด และยังดำเนินการกลยุทธ์อยู่ ซึ่งที่ผ่านมามีภัยคุกคามที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ทะเล จึงจำเป็นต้องเปิดยุทธการประจวบคีรีขันธ์ประจันคีรีเขต ซึ่งภายในยุทธการจัดตั้งหมวดเรือเฉพาะกิจพิทักษ์อ่าวไทย ซึ่งภารกิจมีหน้าที่ค้นหาทำลายที่ตั้งทางทหารและกำลังทางเรือของกัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนตามแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย รวมถึงภารกิจ ลดทอน จำกัดการนำเข้ายุทธปัจจัยสำคัญเข้าสู่กัมพูชา ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่การปะทะครั้งแรก เราจำกัดขีดความสามารทางการรบของกัมพูชาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
ปะทะต่อเนื่อง7จว.ชายแดน-ทหารดับ15เจ็บ270
พลเรือตรีสุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม สรุปสถานการณ์ ชายแดนไทยกัมพูชาวันนี้ว่า ยังคงมีการปะทะตลอดแนวชายแดนทั้ง 7 จังหวัด กัมพูชายังดํารงการโจมตีเข้ามาต่อเนื่อง ไม่เลือกเป้าหมาย ทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ ได้รับผลกระทบ มีทหารเสียชีวิตเพิ่มเติม 4 นายจากเหตุการณ์ปะทะ พื้นที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ยอดรวมการเสียชีวิต 14 นาย และอีก 1 นายเป็นผู้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 15 บาดเจ็บ 270 นาย พร้อมยืนยันกําลังพล ผู้ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวหายดีแล้ว มีความประสงค์กลับไปสู้รบในแนวหน้า ถือเป็นความตั้งใจของพี่น้องทหารหาญ
พร้อมทำลายอาวุธPHL03ทันทีถ้าเขมรเคลื่อนไหว
พลเรือตรีสุรสันต์กล่าวยืนยันว่า ยัง ไม่ได้รับรายงาน อาวุธPHL03 ของกัมพูชา เข้ามาในพื้นที่พระวิหาร หากตรวจพบกองทัพไทยจะดําเนินการต่อเป้าหมายทันทีโดยไม่รีรอให้กัมพูชาเปิดปฏิบัติก่อน เพราะเรามีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีความพร้อมในเรื่องของการโจมตีเป้าหมายแม่นยํา ด้าน พ.อ.หญิงนุชระวี แจ่มจํารัส รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีการยึดสมุดบันทึกการวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชา รวมถึงพิกัด ได้รวบรวมหลักฐานและส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบสำหรับพื้นที่ที่ต้องสงสัยจะมีการลักลอบวางทุ่นระเบิดหรือกับระเบิดแสวงเครื่อง หน่วยในพื้นที่ได้ควบคุมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้จะนำข้อมูลในเรื่องโทรศัพท์มือถือและสมุดปฏิบัติงานส่งให้กับกระทรวงต่างประเทศเพื่อนำไปขยายผลเพื่อประกาศให้รู้ว่ากัมพูชายังคงใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอยู่ และที่สำคัญ ในเรื่องของการกระทําเช่นนี้ ละเมิด สนธิสัญญา และทําร้ายทหารไทย
ยันยึดปราสาทคนาได้100%
สำหรับ ปราสาทคนา จ.สุรินทร์ เป็น1ในพื้นที่ 13 เป้าหมายที่จะควบคุม ฝ่ายกัมพูชาพยายามต่อต้านและได้รับรายงานล่าสุด ในช่วงเย็นของวันนี้สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทําลายสะพานลําเลียงกําลังพลของกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ได้แล้ว ขอให้ประชาชนเชื่อมั่น ขณะที่การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ส่วนหลังนั้น ได้ร่วมดําเนินการอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลศูนย์พักพิง แม้ว่าในพื้นที่ส่วนหน้ามีการปะทะพื้นที่ส่วนหลังก็มีความสําคัญ ซึ่งมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่าสี่แสนคน รวมถึงการดํารงชีวิตประกอบอาชีพสูญเสียรายได้และวิตกกังวล เรื่องบ้านที่อยู่อาศัย
ตลอดแนวชายแดนยังสู้รบประปรายแต่คุมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก กองทัพภาคที่ 2 โพสต์สมุดบันทึกกัมพูชา ที่ใช้ระบุพิกัดทุ่นระเบิดและกับระเบิดจำนวนมาก ทำเอาชาวเน็ตจำนวนมากต่างก็คอมเมนต์แสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก “เปิดสมุดบันทึกกัมพูชา พบพิกัดวางทุ่นระเบิดจำนวนมาก กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันตำแหน่ง!! ทหารกัมพูชาบันทึกพิกัด การวางทุ่นระเบิด/กับระเบิด และวาดแผนผังการวางทุ่นระเบิด กว่า 36 ทุ่น
สรุปสถานการณ์สู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา วันที่ 13 ธันวาคม เวลา 11.00 น. ดังนี้ 1. เข้ายึดที่หมายซำแต เนิน 677 พื้นที่ช่องอานม้าได้เรียบร้อย แต่ยังอยู่ระหว่างการปฏิบัติการทางทหาร 2. พื้นที่คนา เข้ายึดได้แล้ว 3 ที่หมาย อยู่ระหว่างปฏิบัติการในส่วนที่เหลือ 3. พื้นที่ตาควาย ยังมีการรบปะทะอย่างหนัก 4. สำหรับพื้นที่สำคัญอื่นๆ ตลอดแนวชายแดน ยังคงมีการสู้รบประปราย สถานการณ์อยู่ในระดับควบคุมได้และเฝ้าระวังต่อเนื่อง เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาพยายามใช้อาวุธปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง (BM-21) ยิงเข้ามายังฐานปฏิบัติการของฝ่ายเรา รายการยุทโธปกรณ์และสิ่งอุปกรณ์ที่สำคัญจากการเข้ายึดที่หมายฐานปฏิบัติการของทหารกัมพูชาพื้นที่ซำแต และ เนิน677 ดังนี้ 1. โทรศัพท์ 8 เครื่อง 2. สมุดบันทึกการปฏิบัติงานของทหารกัมพูชา 1 เล่ม 3. ลูกระเบิด m203 7 ลูก 4. จรวด RPG พร้อมอุปกรณ์ 50 ชุด 5. กระสุนปืน 11,765 นัด 6. วิทยุสื่อสาร 15 เครื่อง
แฉแผนผังเขมรลอบวางทุ่นระเบิด
จากการตรวจสอบในสมุดบันทึกการปฏิบัติงานของทหารกัมพูชาพบข้อมูลแผนผังการวางทุ่นระเบิดและกับระเบิดแสวงเครื่องวันที่ 12 สิงหาคม 11 จุด 30 ลูก และ กับระเบิดแสวงเครื่องประกอบ TNT 2 จุด 6 ลูก นอกจากนั้น ยังพบแผนการเตรียมวางทุ่นระเบิดในวันที่ 21 สิงหาคม 6 จุด แต่ยังไม่ระบุจำนวนทุ่นระเบิดเอาไว้ สำหรับโทรศัพท์ทั้ง 8 เครื่องและสมุดบันทึก 1 เล่ม ได้นำส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและขยายผลสำหรับพื้นที่ต้องสงสัยว่าจะมีการวางทุ่นระเบิด/กับระเบิด ปัจจุบันหน่วยได้ควบคุมพื้นที่ดังกล่าวเพื่อเตรียมการให้กับหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจพิสูจน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี