รูปที่ 1 โครงสร้างของหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นของญี่ปุ่น
รูปที่ 2 ที่ตั้งสถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น
ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีเป้าหมายที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เป็น “ประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed country)” ที่มีรายได้สูง โดยเฉลี่ยประมาณ 15,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี หรือประมาณ 500,000 บาทต่อคนต่อปี ขึ้นไป
ในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 7,000 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อปี หรือประมาณ200,000 บาทต่อคนต่อปี อยู่ในกลุ่ม “ประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลาง (Middle-income country)” จึงจะต้องพัฒนาประเทศให้มีรายได้สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายได้จากการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเพราะเป็นภาคที่ทำรายได้ให้ประเทศในสัดส่วนที่มากที่สุด จึงมีแผนการพัฒนาให้มีการลงทุนต่อยอดในอุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีชั้นสูง และให้มีการสร้างนวัตกรรมเป็นของประเทศไทยมากขึ้น เพื่อทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC)
หลังจากไทยได้เชิญชวนนักลงทุนมาลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ประเด็นใหญ่ที่ได้รับความคิดเห็นสะท้อนกลับมา คือ ประเทศไทยยังไม่มีนักวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ จำนวนมากเพียงพอ
นักเรียนที่เข้าเรียนด้านอาชีวศึกษาของไทย ยังมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ไม่เพียงพอ ที่จะเรียนรู้ด้านทฤษฎีของเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อพัฒนางานวิจัยและสร้างนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรม
นักศึกษาที่มีศักยภาพสูง เข้าศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัย โดยทั่วไป รวมทั้งในประเทศญี่ป่น เมื่อจบเป็นวิศวกรแล้ว ส่วนใหญ่เป็น “วิศวกรเชิงวิชาการ (Academic engineer)”
แต่ความคิดที่สะท้อนกลับมาจากบริษัทอุตสาหกรรมญี่ปุ่นที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ต้องการวิศวกรที่มีทักษะ (Skills) ทั้งทางด้านปฏิบัติ (Hands-on) และมีความรู้ภาคทฤษฎี ที่สามารถทำการวิจัย และสร้างงานนวัตกรรม หรือ เป็น Innovative and practical engineer โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้ให้ข้อมูลว่า ญี่ปุ่นมีสถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นที่ผลิตวิศวกรที่มีคุณภาพเข้มข้นเป็นพิเศษสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม
ประเทศญี่ปุ่น หลังสงคราม ต้องการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นให้มีความเจริญก้าวหน้าโดยเร็ว จึงได้จัดสถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นขึ้นมาในปี 1960 หรือเมื่อประมาณ 60 ปีที่แล้วมา เพื่อผลิตวิศวกรคุณสมบัติเข้มข้นพิเศษขึ้นมา สำหรับการเร่งพัฒนาอุตสาหกรรม จึงได้ทำให้ประเทศญี่ปุ่นประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปี สูงอยู่ในอันดับต้นๆ ของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่เรียกว่า กลุ่มประเทศ OECD
สถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น เป็นสถาบันอุดมศึกษา (Tertiary education) ที่รับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมปีที่ 3 หรือการศึกษาภาคบังคับ ที่มีอายุ 15 ปีที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ เข้าศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ 5 ปี ของโคเซ็น จึงสามารถเรียกว่าเป็นนักศึกษาระดับอุดมศึกษา และจบการศึกษาเมื่ออายุ 20 ปี จัดการสอนโดยศาสตราจารย์ทางวิศวกรรมศาสตร์ เกือบทั้งหมด และส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกทางวิศวกรรมศาสตร์และเป็นผู้มีประสบการณ์มาแล้วทั้งสิ้น
คำว่า “โคเซ็น (KOSEN)” ในภาษาญี่ปุ่น ประกอบด้วยคำว่า “โค (KO)” แปลว่า ชั้นสูง และ “เซ็น(SEN)” แปลว่า ความรู้ เราอาจจะพูดได้ว่าหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ 5 ปี ของโคเซ็น เป็นการนำหลักสูตรระดับมัธยมปลาย 3 ปี มารวมเข้ากับหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ 4 ปี เป็นหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น 5 ปี ที่มีความเข้มข้น มีการสอนวิชาศิลปศาสตร์ (Liberal Arts) ที่เป็นวิชาจำเป็นสำหรับอาชีพวิศวกร ร่วมกับวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 แล้วเพิ่มความเข้มข้นของการสอนวิชาวิศวกรรมศาสตร์มากขึ้นในปีถัดๆไป ดังในรูปที่ 1
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น ในระยะแรก เป็นเพียงหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ 5 ปี ที่ผู้จบการศึกษาแต่ละคนมีบริษัทอุตสาหกรรมจำนวนมากกว่า 20 แห่ง เสนอรับเข้าทำงาน และยังเป็นที่นิยมสูงของอุตสาหกรรมญี่ปุ่น จนถึงทุกวันนี้ ต่อมาได้มีการจัดหลักสูตรเพิ่มขึ้นอีก 2 ปี เรียกว่า หลักสูตรชั้นสูง (Advance course) ที่ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาตรี
กิจกรรมการเรียนการสอนของสถาบันวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น มีห้องปฏิบัติการที่ทำงานกันอย่างจริงจัง เน้นงานวิจัย มีห้องทำงานวิจัยของนักศึกษา ที่ทำงานกันอย่างมุ่งมั่นเหมือนกับนักศึกษาปริญญาโทและปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยทั่วไป
นักศึกษาส่วนใหญ่เลือกที่จะศึกษาเพียงหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น 5 ปี แล้วเข้าทำงานในบริษัทอุตสาหกรรมทันที มีเพียงจำนวนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เลือกศึกษาในหลักสูตรชั้นสูงต่ออีก 2 ปี ได้รับปริญญาตรี แล้วศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกด้านวิศวกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของญี่ปุ่น
ในปัจจุบัน มีสถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นจำนวน 51 แห่ง กระจายอยู่ในทุกจังหวัด (Prefecture)จังหวัดละหนึ่งแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น ดังในรูปที่ 2
ในแต่ละปี สถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น จะรับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมปีที่ 3 ที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ รวมกันประมาณ 10,000 คน จากจำนวนนักเรียนที่จบ ม.3 ทั้งหมดทั่วประเทศประมาณปีละล้านกว่าคน แล้วกระจายให้สถานศึกษาละ 200 คน แต่ละสถานศึกษามีจำนวนนักศึกษาทั้งหมดประมาณ 1,000 คนกว่าๆ สถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น ได้รับความนิยมจากนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 3 ของญี่ปุ่นสูงมาก จึงสามารถคัดเลือกแต่ผู้ที่มีพื้นฐานคณิตศาสตร์ที่ดี ที่สามารถพัฒนาทั้งทักษะด้านปฏิบัติและเรียนรู้ทฤษฎีได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อให้เป็นวิศวกรที่มีทั้งทักษะด้านปฏิบัติและความรู้ด้านทฤษฎี หรือวิศวกรนักนวัตกรรม (Innovative and practical engineer)
สถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นไม่ได้รับนักเรียนต่างชาติเข้าศึกษาเลย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนต่างชาติที่สำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ ม.6 เข้าเรียนในชั้นปีที่ 3 ของหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นแต่เป็นจำนวนน้อยมาก รวมทั้งหมดประมาณปีละ500 คนจากทั่วโลก
สถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น ไม่เคยรับนักเรียน ม.3 จากต่างชาติเข้าศึกษาในชั้นปีที่ 1 เลย ตั้งแต่มีการจัดตั้งขึ้นในปี 1960 หรือ พ.ศ. 2503 จนกระทั่ง เมื่อปี พ.ศ. 2559 รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายที่จะสนับสนุนประเทศไทย ในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง จึงเริ่มโครงการรับนักเรียนไทย ที่ จบ ม.3 และมีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ เข้าศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 เพื่อเป็นวิศวกรนักนวัตกรรม ตามที่บริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำของญี่ปุ่นต้องการ สำหรับการลงทุนในอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในประเทศไทย
ในปีการศึกษา 2561จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็นญี่ปุ่น ที่รับนักเรียน ม.3 จากกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จำนวน 12 คน เป็นนักเรียนต่างชาติรุ่นแรก ที่เข้าศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ของหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น
ในปีการศึกษา 2562 ได้รับนักเรียน ม.3 ที่มีความสามารถด้านคณิตศาสตร์ รุ่นที่ 2 ของไทย จากกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย อีกจำนวน 12 คน
นักศึกษารุ่นที่ 1 และ รุ่นที่ 2 กระจายศึกษาอยู่ในสถานศึกษาวิศวกรรมศาสตร์โคเซ็น ดังต่อไปนี้ Hachinohe KOSEN, Sendai KOSEN, Ibaraki KOSEN, Nagaoka KOSEN, Akashi KOSEN และ Tsuyama KOSEN
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ ที่นักศึกษาไทยศึกษามี Mechanical System Design, MechanicalEngineering, Mechanical and Control Engineering,Chemistry and Bioengineering, Electrical and Electronic System Engineering, Chemistry and Materials Engineering, Materials Science for Environment, Electronic and ComputerEngineering, Electrical and Electronic SystemsEngineering, Mechanical and ComputerEngineering, Computer Science, Robotics,Integrated Science and Technology และ Civil Engineering and Architectural Design
เป็นที่น่ายินดีที่นักศึกษาไทยเหล่านี้ สามารถศึกษาร่วมกับนักศึกษาญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี และมีผลการศึกษาเป็นที่ประทับใจ ในปีการศึกษา 2562 นักศึกษารุ่นที่ 1 ที่เรียนชั้นปีที่ 2 ได้คะแนนเฉลี่ย 85 คะแนน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของชั้นปีที่อยู่ที่ 77 คะแนน และนักศึกษารุ่นที่ 2 ที่เรียนในชั้นปีที่ 1 ได้คะแนนเฉลี่ย86 คะแนน สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของชั้นปีที่อยู่ที่ 80 คะแนน มีนักศึกษาไทยทั้งสองรุ่นจำนวนหลายคนติดอยู่กลุ่มคะแนนสูงสุด 10 คนแรกของแต่ละชั้นปีของสถานศึกษาหรือในกลุ่ม Top 10
โกศล เพ็ชร์สุวรรณ์
อดีตอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี