วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ศาลฎีกาเลื่อนชี้ชะตา'แกนนำนปช.'คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์

ศาลฎีกาเลื่อนชี้ชะตา'แกนนำนปช.'คดีบุกบ้านสี่เสาเทเวศร์

วันพฤหัสบดี ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 10.33 น.
Tag : แกนนำนปช. นปช. วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ศาลฎีกา เสื้อแดง
  •  

เลื่อนอ่านฎีกา"4แกนนำนปช."ปิดล้อมบ้านสี่เสาฯ "นพรุจ"จำเลยร่วมยังไม่ได้รับหมายนัด อัยการขอหาที่อยู่ใหม่ ศาลนัดอ่านฎีกาอีกครั้งเช้า30เม.ย.นี้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาฎีกา คดีกลุ่มนปช.ปิดล้อมบ้าน สี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปี 2550 หมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 , นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน , นายวันชัย นาพุทธา , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อายุ 71 ปีเศษ อดีตประธาน นปช. , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อายุ 44 ปีเศษ เลขาธิการ นปช. และอดีตประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท อายุ 68 ปีเศษ แกนนำ นปช.และ นพ.เหวง โตจิราการ อายุ 68 ปีเศษ แกนนำ นปช.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ทษช.เป็นจำเลยที่ 1 - 7 ความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ , ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 วรรคสอง , 215 , 216 , 297 , 298 ประกอบมาตรา 33 , 83 , 91


กรณีสืบเนื่องจากวันที่ 22 ก.ค.50 แกนนำและแนวร่วม นปช.นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคน จากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่ สนามหลวง ไปยังบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธง ตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

คดีนี้ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเดือน ม.ค.60 ว่า 4 แกนนำ นปช.จำเลยที่ 4 - 7 มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม , มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม ให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4 - 7 คนละ 2 ปี 8 เดือน ส่วนของนายนพรุจ อดีตแกนนำพิราบขาว จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยโทษจำคุกทั้งหมดนั้นไม่รอการลงโทษ (ไม่รอลงอาญา) จำเลยทั้ง 5 คนยื่นฎีกาสู้คดี และได้ประกันตัวระหว่างฎีกาคนละ 500,000 บาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาต

คดีนี้ศาลเคยนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาครั้งแรก วันที่ 23 ก.ย.62 แต่ปรากฏว่า นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูเเถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4 - 7 ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำให้การเดิมที่เคยปฏิเสธความผิด ขอต่อสู้คดี เป็นยื่นคำให้การใหม่ขอให้การรับสารภาพไม่ต่อสู้คดี ส่วนนายนพรุจ จำเลยที่ 1 ยังคงยืนยันให้การปฏิเสธ จึงต้องส่งสำนวนกลับไปให้ศาลฎีกาพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป

โดยเมื่อเวลา 09.00 น.เศษ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. , นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. , นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท แกนนำ นปช. , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.ทยอยเดินทางมาศาล ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. , นายก่อแก้ว พิกุลทอง และ นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช. , นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีต ประธาน นปช.พร้อมวลชนจำนวน 60 - 70 คน เดินทางมาให้กำลังใจด้วย สำหรับนายจตุพร ถูกฟ้องคดีนี้แยกสำนวนเป็นอีกคดีหนึ่งด้วยโดยคดีรอพิจารณา

ทั้งนี้ ก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดี นายวีระกานต์ อดีตประธาน นปช.จำเลยที่ 4 ให้สัมภาษณ์เปิดเผยความรู้สึกว่า รู้สึกเหมือนที่เคยรู้สึกทุกวัน เราน้อมรับกับผลของการตัดสินไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบ ต้องยอมรับอยู่แล้ว เพราะเรามาสู่กระบวนการนี้ก็ต้องยอมรับ การรับสารภาพเป็นความหวังของผู้ต่อสู้คดีทุกคน ต้องใช้สิทธินี้ตามรัฐธรรมนูญ แต่จะได้หรือไม่ได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนพี่น้อง นปช.เราเวลานี้ก็อยู่กันแบบกระจัดกระจาย แต่ทุกคนก็ยังมีคิดความอ่านทางการเมืองอยู่ เราก็ฝากเพียงว่าขอให้ทุกคนแสดงความคิดความเห็น โดยสันติวิธีเท่านั้น อย่าเลิกล้มความคิดก็ใช้ได้แล้ว

ด้าน นพ.เหวง แกนนำ นปช.จำเลยที่ 7 กล่าวว่า ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็น้อมรับคำพิพากษา ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพวกเราทุกคนรู้อยู่แล้ว เส้นทางนี้มีสองอย่าง ชนะหรือแพ้ ถ้าชนะประชาชนก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถ้าแพ้พวกเราก็มีชะตากรรมสองอย่าง คือคุกหรือตาย ทุกอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้นแล้ว

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ เลขาธิการ นปช.จำเลยที่ 5 กล่าวว่า เมื่อพวกตนมีแนวทางเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในทุกคดีความ ไม่เคยมีพฤติการณ์หลบหนี คดีนี้เราต่อสู้ถึงชั้นศาลฎีกา ปรึกษาหารือกันแล้ว กลับคำให้การเป็นรับสารภาพในชั้นฎีกา แสดงความสำนึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เป็นเหตุที่เกิดจากเจตนาของพวกตนตั้งแต่ต้น เราประสงค์ไปชุมนุมที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อพูดจาปราศรัยต่อต้านรัฐประหาร เรียกร้องประชาธิปไตย ไม่มีความประสงค์เผชิญหน้าเจ้าหน้าที่หรือให้เกิดเหตุบานปลายใดๆ ทั้งสิ้น  ไม่ว่าศาลท่านจะมีคำวินิจฉัยอย่างไร พวกตนเคารพและน้อมรับ ถ้าหากผลแห่งคำพิพากษานั้นจะต้องทำให้โชคชะตามีหรือไม่มีอิสรภาพ ก็เคารพและน้อมรับ

เมื่อถามถึงความรู้สึกปลงและคาดหวัง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คงไม่ถึงกับปลง มนุษย์จะผ่านเหตุการณ์ทุกอย่างได้เมื่อยืนอยู่บนโลกของความจริง สำหรับตนวันนี้มีคดีความจากการต่อสู้ทางการเมืองมากมาย ชีวิตเดินอยู่บนความไม่แน่นอน วันนี้มาฟังคำพิพากษาสองอย่างเท่านั้น 1.ได้กลับบ้าน 2.ต้องใช้ชีวิตเยี่ยงคนไร้อิสรภาพ เป็นการเดินไปตามเส้นทางของโชคชะตา ไม่ใช่เรื่องของการวิตกกังวลหรือปลง เป็นการพูดความจริงกับตัวเองและสื่อสารความจริงกับสังคม ตนคงไม่แสดงความคาดหวัง

ซึ่งตนเป็นห่วงสถานการณ์ประเทศมากกว่า ต้องยอมรับว่าถึงขณะนี้ เรื่องความเป็นประชาธิปไตยยังมีปัญหา สิ่งที่หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าคือสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ปากท้องของพี่น้องประชาชนกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างที่ไม่เห็นใครมีความสามารถเพียงพอที่จะเยียวยาแก้ไข ไม่ใช่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ข้อเท็จจริงที่ตนได้สัมผัสจากผู้คนเขาสะท้อนมาอย่างนี้จริงๆ ความห่วงใยที่มีต่อพี่น้อง นปช. คนที่ได้ร่วมต่อสู้กันมายังคงมีอยู่อย่างเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่น่าห่วงมากกว่าคือชะตากรรมเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ปากท้องของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ว่าใครเคยใส่เสื้อสีอะไรอยู่ฝ่ายไหนก็ตาม วันนี้เดือดร้อนยากลำบากเท่าเทียมเสมอภาคกัน ขอส่งความห่วงใยนี้ไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน

"อยากจะเรียนยืนยันตรงนี้ว่าจุดยืนและหลักการทางการเมืองของผมยังคงเป็นอย่างเดิมทุกประการ ผมไม่ยอมรับการรัฐประหาร ผมยืนยันหลักการประชาธิปไตยอันมีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปรารถนาจะให้สังคมไทยสงบสุข อยู่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย ท่ามกลางความแตกต่างหลากหลาย วันนี้ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีอิสรภาพหลังจากนี้ ก็หวังใจว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยจะไม่เดินไปสู่การเผชิญหน้า จะไม่เดินไปสู่วิกฤติลุกลามบานปลาย อยากให้ทุกฝ่ายสัมผัสและสรุปบทเรียนจาก 10 กว่าปีที่ผ่านมา" นายณัฐวุฒิ กล่าว

กระทั่งเวลา 10.35 น.นายนพรุจ จำเลยที่ 1 ยังไม่ได้เดินทางมาศาล โดย นางสิริสกุล ใสยเกื้อ ภรรยานายณัฐวุฒิ ซึ่งเป็นนายประกัน ได้แถลงศาลว่า ตนได้เป็นนายประกันตัวให้นายนพรุจ แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยติดต่อกับจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 1 ย้ายที่อยู่ใหม่ ตนก็ไม่ทราบที่อยู่ จึงขอโอกาสติดตามตัวจำเลยที่ 1

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า หมายนัดฟังคำพิพากษายังฎีกายังไม่ถึงจำเลยที่ 1 เห็นควรให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษา ขณะที่อัยการโจทก์แถลงขอสืบหาที่อยู่จำเลยที่ 1 ใหม่ ก่อนยื่นแถลงศาลอีกครั้งภายใน 15 วัน ศาลจึงเห็นสมควรให้เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา เป็นวันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อ้างรพ.ราชทัณฑ์ไม่มีศักยภาพ ต้องส่ง‘แม้ว’ไปชั้น14 ศาลฎีกาพิสูจน์คดีป่วยทิพย์ อ้างรพ.ราชทัณฑ์ไม่มีศักยภาพ ต้องส่ง‘แม้ว’ไปชั้น14 ศาลฎีกาพิสูจน์คดีป่วยทิพย์
  • ศาลถาม\'พยาบาล\'ที่รับตัว\'ทักษิณ เข้า\'รพ.ราชทัณฑ์\'ถึงกับสั่น ส่วน\'หมอเวร\'อ้างศักยภาพ\'รพ.\'ไม่พอ ศาลถาม'พยาบาล'ที่รับตัว'ทักษิณ เข้า'รพ.ราชทัณฑ์'ถึงกับสั่น ส่วน'หมอเวร'อ้างศักยภาพ'รพ.'ไม่พอ
  • สืบพยานโจทก์\'ทักษิณ\'วันที่ 2 จบอีก 4 ปาก ท่ามกลางคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ สืบพยานโจทก์'ทักษิณ'วันที่ 2 จบอีก 4 ปาก ท่ามกลางคนเสื้อแดงที่มาให้กำลังใจ
  • เสื้อแดงบุก พท. ให้กำลังใจ \'นายกฯ อิ๊งค์\' อยู่ต่อ-ไม่ยุบสภา-ไม่ลาออก (ประมวลภาพ) เสื้อแดงบุก พท. ให้กำลังใจ 'นายกฯ อิ๊งค์' อยู่ต่อ-ไม่ยุบสภา-ไม่ลาออก (ประมวลภาพ)
  • ‘นักเขียนซีไรต์’เดือด! คลิป\'ฮุน เซน\' แผนแตกแยกแค่ส่วนหนึ่ง ชี้ไทยร้าวลึกตั้งแต่ยุค\'เสื้อแดง-เสื้อส้ม\' ‘นักเขียนซีไรต์’เดือด! คลิป'ฮุน เซน' แผนแตกแยกแค่ส่วนหนึ่ง ชี้ไทยร้าวลึกตั้งแต่ยุค'เสื้อแดง-เสื้อส้ม'
  • หิ้วปีก‘สิระ’เข้าเรือนจำ ศาลฎีกาไม่รอลงอาญา ตัดสินจำคุก6เดือน20วัน หิ้วปีก‘สิระ’เข้าเรือนจำ ศาลฎีกาไม่รอลงอาญา ตัดสินจำคุก6เดือน20วัน
  •  

Breaking News

ดีล‘ปชน.-ภท.’เกิดยาก! ‘ชูศักดิ์’บอกแปลกประหลาด ชี้การเมืองยังไม่ถึงทางตัน

'หมอวี'แว่วข่าว'เพื่อไทย'ถอนร่าง'เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ'สัปดาห์หน้า หนุนเก็บไว้หาเสียงเอง

ลอบวางเพลิง! 'รถยนต์ไฟฟ้า'อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ลั่นไม่กลัวอิทธิพลมืดคนเบื้องหลัง

สลดโลมาเกยตื้นยังไม่รู้สาเหตุเร่งส่งชันสูตร

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved