ยุบ‘อนาคตใหม่’
มติศาลรัฐธรรมนูญ7:2
คดีเงินกู้191.2ล้านบาท
ตัดสิทธิ์กก.บห.พรรค10ปี
‘ธนาธร-ปิยบุตร’ชะตาขาด
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7-2 สั่งยุบ “อนาคตใหม่” เซ่นคดีเงินกู้ 191.2 ล้าน ชี้ทำให้ได้เปรียบทางการเงิน เป็นผู้บงการพรรค กลายเป็นธุรกิจการเมือง ตัดสิทธิ์ “กก.บห.” 10 ปี เผย “ปิยบุตร, ช่อ-พรรณิการ์, พงศกร” อดร่วมซักฟอกรัฐบาล แฟนคลับกองเชียร์แทบช็อกร่ำไห้ แนวร่วมน้อมรับคำพิพากษา “วิษณุ” เผยเตรียมทูลเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณ’63 ปลาย กพ.นี้ ด้านพปชร.ขู่ฝ่ายค้านขุดอดีตซักฟอกเจอสวน จำนำข้าว-นิรโทษสุดซอย แน่
เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 21กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ทยอยเดินทางมายังอาคารไทยซัมมิท ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานพรรค อนค.เพื่อมาสมัครสมาชิกพรรคและซื้อของที่ระลึก พร้อมรอให้กำลังใจ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค พร้อมกับจับจองที่นั่งเพื่อรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญช่วงเวลา 15.00น.ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา92 วรรรคหนึ่ง( 3) ประกอบ มาตรา 72 พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 กรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2ล้านบาท สำหรับกำหนดการเบื้องต้นของแกนนำพรรคและส.ส.ของพรรคในวันนี้นั้น ช่วงเช้าจะเดินทางไปยังอาคารรัฐสภาเพื่อร่วมประชุมร่วมกันของรัฐสภาตามปกติ ซึ่งมีวาระการพิจารณาเรื่อง พิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจของอาเซียน ตามที่คณะรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอ
‘ช่อ พรรณิการ์’อ้างเน้นเรื่องซักฟอก
น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษก พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคดีเงินกู้ 191ล้านบาท ว่า ประชาชนเดินทางมาให้กำลังใจล้นพรรค เมื่อเช้าได้พบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรร191ล้านคอนค.ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนนี้มีปัญหาคือ ข้อมูลหลั่งไหลเข้ามามาก เพราะประชาชนอยากใช้เราเป็นกระบอกเสียง เปิดเผยข้อมูลสิ่งที่รัฐบาลทำไว้ปรากฏต่อสาธารณชนว่า ที่ทำไว้และสั่งสมมามีอะไรบ้าง ไม่สามารถสรุปวาระที่จะอภิปรายได้ในตอนนี้ แต่ได้พูดคุยกับผู้ใหญ่ในแวดวงการเมืองว่า เป็นเรื่องธรรมดา สำหรับพรรค อนค.ปีนี้เป็นครั้งแรกที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ประสบการณ์ก็ยังน้อย แรงกดดันค่อนข้างมาก เพราะประชาชนคาดหวังกับเราทีเซอร์ออกไปวันเดียว มีคนดู 1ล้านวิว วันนี้เป็นเพียงคำตัดสินของพรรค แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องของประเทศชาติ เราจึงต้องโฟกัสไปที่เรื่องประเทศชาติมากกว่า เพราะประชาชนคาดหวังให้ เราทำงานอย่างเต็มที่ไม่ว่าวันนี้คำตัดสินจะออกมาเป็น แต่การอภิปรายยังคงมีอยู่ และยืนยันว่าข้อมูลที่เตรียมมาหลายเดือน ไม่เสียเปล่าแน่นอน
สื่อมวลชน-ทูต ตปท.รับฟังที่ศาลรธน.
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนศาลจะอ่านคำวินิจฉัยคดีที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่กรณีกู้เงิน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค.ปรากฎว่า ไม่มีแกนนำพรรค อนค.หรือกลุ่มผู้สนับสนุน เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยแต่อย่างใด มีเพียงสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศที่มาเฝ้าติดตามทำข่าวเท่านั้น ท่ามกลางการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล2และสน.ทุ่งสองห้อง ที่นำกำลังเจ้าหน้าที่ 1 กองร้อย มาประจำการภายในตัวอาคารสำนักงานและบริเวณโดยรอบศาล
ทั้งนี้ บรรยากาศภายในสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเริ่มคึกคักในช่วงบ่าย โดยผู้สังเกตการณ์จากองค์กรต่างประเทศและตัวแทนสถานทูตทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป(อียู) และเยอรมัน ทยอยเดินทางมาถึง ขณะที่ นายสมพล พรผล ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมือง เป็นตัวแทนของ กกต.เดินมารับฟังคำวินิจฉัย ส่วนพรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ส่งตัวแทน หรือทนายเข้าร่วมรับฟัง
ศาลชี้กกต.มีสิทธิ์ยื่นคำร้องตามกม.
เวลา15.00น.โดยองค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญระบุช่วงหนึ่งว่า ผู้ถูกร้องทำสัญญากู้ยืมเงินจาก นายธนาธร โดยในสัญญาระบุว่า ได้รับเงินแล้วและได้รับดอกเบี้ย มีการทยอยชำระเงินและดอกเบี้ย พิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ร้องมีอำนาจรวบรวมข้อเท็จจริงตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมือง กรณีผู้ร้องว่านายทะเบียนพรรคการเมือง อาศัยข้อเท็จจริงมาจากการสืบสวนก่อนส่งให้ศาลรธน.วินิจฉัย ซึ่งอาจไม่ชอบด้วยรรัฐธรรมนูญและระเบียบกกต.ศาลเห็นว่า เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยไม่ว่าจะโดยทางใด ถ้ามีหลักฐานหรือมีมูลเพียงพอว่าอาจจะเป็นการไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย กกต.มีหน้าที่ให้สืบสวน ไต่สวน หากไม่มีมูลให้สั่งยุติเรื่อง หากปรากฎหลักฐาน ให้กกต.สั่งให้ดำเนินคดีโดยเร็ว แม้ผลปรากฎไม่มีมูลความผิด แต่ความเห็นของผู้ร้องเป็นอิสระไม่ขึ้นกับคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ทั้งนี้ ผู้ร้องมีมติกรณีที่ถูกกล่าวหาให้นายทะเบียนทำตามอำนาจหน้าที่ มีคำสั่งที่7/2562 ตั้งกก.รวบรวมข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหา นายธนาธร กู้ยืมเงินฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ กก.ดังกล่าว รวบรวมหลักฐานเสนอผู้ร้อง ก่อนมีเหตุให้ชื่อว่าผู้ถูกร้องมีความผิด ก่อนยื่นให้ศาลรธน.ตามกระบวนการดำเนินคดี จึงชอบด้วยกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ศาลมีอำนาจรับคำร้องไว้พิจารณา
กรณีคำร้องศาล รธน.ไม่มีอำนาจยุบพรรคผู้ร้องนั้น ศาลเห็นว่า รัฐธรรมนูญบัญญัติให้คดีที่กฎหมายกำหนดให้อยู่ในเขตอำนาจของศาล ศาลจึงมีอำนาจพิจารณายุบพรรคผู้ร้องได้ ข้อโต้แย้งจึงฟังไม่ขึ้น
ทั้งนี้ตามเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง ต้องมีมาตรการควบคุมการบริหารเพื่อให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันของประชาชน จึงต้องพิจารณาเรื่องที่มาของทรัพย์สินที่ใช้ในพรรคการเมือง ว่ามีที่มาอย่างไร ได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ กฎหมายจึงกำหนดไม่ให้พรรคการเมืองไปเกี่ยวข้องกับเงินบริจาคที่มิชอบ โดยพรรคการเมืองสามารถกู้ยืมเงินได้หรือไม่ เห็นว่า การดำเนินกิจกรรม ต้องอาศัยเงินรายได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ เงินส่วนใดที่นำมาทำกิจกรรม หากได้มาโดยมิชอบ ไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด แม้ไม่ได้กำหนดให้กู้ยืม แต่การกู้ไม่ได้รับรองให้ทำได้ เงินกู้ไม่ใช่รายได้ แต่ก็เป็นรายรับ จึงต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น การกู้ยืมเงินของพรรคการเมืองต้องสอดคล้องกับกฎหมายเท่านั้น
ทำสัญญากู้ผิดปกติทางการค้า
เมื่อพิจารณาตามกฎหมายพรรคการเมือง การบริจาค หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดด้วย การให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ การให้กู้ โดยไม่คิดไปตามปกติทางการค้า ย่อมถือว่าเป็นประโยชน์อื่นใดต่อพรรคการเมือง จึงต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุนี้ คำว่าบริจาคและประโยชน์อื่นใด เป็นความหมายเฉพาะในกฎหมาย เพื่อกำหนดให้พรรคการเมืองทำรายได้ให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นประชาธิปไตยในพรรค ให้พรรคไม่เป็นเครื่องมือของใคร ข้อเท็จจริงของผู้ถูกร้องที่ยื่นต่อผู้ร้อง พบว่าผู้ถูกร้องมีรายได้กว่า 71ล้านบาท ค่าใช้จ่ายกว่า 72ล้าน พบค่าใช้จ่ายสูงรายได้เพียงล้านบาท แต่กลับทำสัญญากู้ยืมเงิน 2ฉบับ ถึง192ล้านบาท ทำดอกเบี้ยไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า
สั่งยุบพรรค-ห้ามตั้งใหม่10ปี
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่กลับทำสัญญากู้ยืมเงินจากนายธนาธรรวม 2 ฉบับจำนวน 191.2 ล้านบาท แต่มีการคิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้าถือเป็นประโยชน์อื่นใด และสัญญาฉบับที่ 2 โดยที่ยังมีหนี้เงินกู้เดิมค้างอยู่ไม่เป็นไปตามปกติวิสัยของการให้กู้ยืมเงิน ซึ่งเป็นการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งรวมผลประโยชนอื่นใดจากการกู้เงิน 191.2ล้านบาท และเงินบริจาคของนายธนาธร 8 ล้านบาทย่อมชัดแจ้งว่าเป็นการรับบริจาคเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดโดยไม่เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งการที่พรรคการเมืองเป็นหนี้ย่อมทำให้เกิดความได้เปรียบทางการเงินกลายเป็นผู้บงการพรรค ทำให้พรรคการเมืองเป็นธุรกิจทางการเมือง เป็นการหลีกเลี่ยงการรับบริจาคเงินหรือทรัพย์สิน ผลประโยชน์อื่นใดตามมาตรา66 จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา72 เป็นเหตุให้สั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92วรรคสองและสั่งเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรคที่อยู่ในตำแหน่งในวันที่ 2ม.ค.2562 หรือวันที่ 11เม.ย.2562 ซึ่งเป็นว่าที่กระทำการกู้เงินทั้ง 2 สัญญา เป็นระยะเวลา 10 ปี และผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองที่ถูกยุบไปจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่ไม่ได้ภายในกำหนด 10 ปี นับตั้งแต่วันที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ
เปิดชื่อ16กก.บห.ถูกตัดสิทธิ์10ปี
โดยพรรคอนาคตใหม่มีกรรมการบริหารพรรค 16คน เป็น สส.11คน เมื่อศาลรัฐธรรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กก.บห.ที่จะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือ 1.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค (พ้นสภาพ สส.) 2.นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค 3.น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค 4.นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค 5.พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้ 6.นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค (ไม่ได้เป็น สส.) 7.น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ 8.นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค 9.นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิก (ไม่ได้เป็น สส.) 10.นายสุนทร บุญยอด กรรมการ(ไม่ได้เป็น สส.) 11.น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการ 12.นายสุรชัย ศรีสารคาม กรรมการ 13.นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ กรรมการ 14.นายชัน ภักดีศรี กรรมการ(ไม่ได้เป็น สส.) 15.น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการและ 16.นายนิรามาน สุไลมาน สส.บัญชีรายชื่อที่ลาออกจากกก.บห.ไปก่อนหน้านี้ เพราะเป็นกก.บห.ณ วันที่ถูกร้อง ทำให้เหลือ ส.ส.65คน
แฟนคลับกองเชียร์ช็อกหลั่งน้ำตา
ด้านบรรยากาศที่พรรคอนาคตใหม่ เหล่าแฟนคลับจำนวนมากที่ใจจดใจจ่อรอฟังคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแทบช็อก หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อศาลฯ มีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 10ปี โดยพิธีกรประกาศบนเวทีว่า พรรคอนค.น้อมรับคำตัดสินของศาลรัฐธณรมนูญ แต่ขอให้จำไว้ว่า พรรคอนาคตใหม่ คือผู้คนและการเดินทาง หลายคนบอกว่า ให้เรารอ 10 ปีได้ แต่พัฒนาการของประเทศรอไม่ได้ สิ่งที่จะทำให้พรรคอนาคตใหม่พัง คือ 1.ประชาชนหมดศรัทธาในตัวพรรคอนาคตใหม่ 2.พรรคอนาคตใหม่ไม่ทำตามสัญญาสิ่งที่เคยให้ไว้กับประชาชน พร้อมขอให้มวลชนงดเว้นการวิพากษ์วิจารณ์ของศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนประกาศให้รอ กก.บห.จะลงมาพบกับมวลชน
‘วิษณุ’เผยเตรียมทูลเกล้าฯพรบ.งบ63
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นทูลเกล้าฯ ร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า รัฐบาลได้รับร่างพรบ.จากสภาฯเมื่อวันที่ 18ก.พ.ขณะนี้จึงยังไม่ครบ 5 วัน โดยจะครบในวันที่ 22ก.พ.ซึ่งจะสามารถยื่นทูลเกล้าฯถวายได้ เนื่องจากตามขั้นตอนแล้วรัฐบาลต้องถือร่าง พรบ.ดังกล่าวไว้ 5วันและมีระยะเวลาไม่เกิน 20วัน ในการยื่นทูลเกล้าฯกฎหมายอื่นใช้เวลา 15-16วันในการเตรียมการยื่น แต่ร่างพรบ.งบฯซึ่งได้เตรียมการไว้ก่อนแล้วตั้งแต่การพิจารณาครั้งแรก ดังนั้นเมื่อครบ 5 วันแล้ว ซึ่งในวันที่ 6จะตรงกับวันที่ 23ก.พ.ก็สามารถยื่นได้ทันทีและหลังจากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมาและมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา การใช้งบฯสามารถดำเนินการได้ทันที โดยกฎหมายจะมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 1ตุลาคม2562ด้วย เพราะงบฯจะขาดช่วงไม่ได้ เมื่อออกช้าจึงต้องมีผลย้อนหลัง
พปชร.เตรียข้อมูลสู้ศึกซักฟอก
ด้านคณะทำงานสนับสนุนผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้ง 6ทีมของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประชุมเพื่อเริ่มซักซ้อมและรวบรวมข้อมูลเตรียมพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดย นายจำลอง ครุฑขุนทด ประธานที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงาน ระบุว่า การทำงานได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้เนื้อหาที่เหมาะสม ลึกและแน่น โดยคาดหวังผลสำเร็จตามเป้าหมาย 2 ประการคือ 1.ประชาชนอยากเห็นเนื้อหาที่มีสาระ 2.สงบเรียบร้อย เป็นไปตามกติกา ซึ่งหากมีการอภิปรายซ้ำซากวนเวียนแผ่นเสียงตกร่อง พูดย้อนไปถึงการรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจก็จะสวนกลับด้วยข้อมูลย้อนไปถึงสาเหตุการทำรัฐประหารเช่นเดียวกัน
งัดจำนำข้าว-นิรโทษสุดซอยสวน
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะทำงานจะประชุมและแถลงเปิดประเด็นไฮไลท์ทุกวันไปจนถึงวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งขณะนี้มีการรวบรวมข้อมูลจากฝ่ายต่างๆ รวมถึงประชาชนและนักการเมืองหลายๆคน โดยได้สรุปเนื้อหาให้กับนายฯและรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดตัวยุทธการ’ดับสุริยา’เพื่อตอบโต้ยุทธการ’อรุณรุ่ง’ของฝ่ายค้าน โดยประเมินว่าการอภิปรายคงย้อนไปถึงการรัฐประหารสืบทอดอำนาจเผด็จการ อย่างกรณีที่มีข่าวว่า นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดประเด็นเจ้าสัว หรืออภิปรายน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงเรื่องเศรษฐกิจ ฝนแล้งน้ำท่วม ฝ่ายรัฐบาลก็เตรียมสวนกลับด้วยประเด็นไฮไลท์ว่า ก่อนเกิดการรัฐประหาร มีใครทำอะไรไว้อย่างไร เพราะอะไรจึงมีการรัฐประหาร โดยเฉพาะความพยายามผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย เอื้อประโยชน์ให้คนบางคน โดยการกำกับของ’เจ๊ด.’ดังนั้นหากฝ่ายค้านอภิปรายย้อนถึงอดีตก็จะสวนกลับย้อนถึงอดีตด้วยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี