เปิดไฟฉายมือถือกลางสภา
ไล่'ประยุทธ์'
ท้ารบ.ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่
ฝ่ายค้านถล่มฝุ่นพิษ-ไวรัส
นายกฯปักหลักแจงทุกปม
เสรีพิศุทธ์ถอยไม่อภิปราย
สภาอลเวง!สส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาลลุกประท้วงกันวุ่นสกัด “เสรีพิศุทธ์” อภิปราย ปมถวายสัตย์ฯ“ปารีณา-สิระ”จองคิวเบรกไล่ไปตรวจสุขภาพจิต โต้เดือด รองปธ.สภาฯ สุดท้ายยอมสละสิทธิ์ซักฟอก ด้าน“วิสาร”กล่าวหา“บิ๊กตู่” โยง “มาดามหลังทำเนียบ” ส่อเอี่ยวซื้อไบโอเมทริกซ์ขณะ“นายกฯ”
สวนมีแต่คนโง่ที่เชื่อชี้ข่าวใส่ร้ายออนไลน์เต็มไปหมด ‘อนุดิษฐ์’ชวน ส.ส.ฝ่ายค้านเปิดไฟมือถือวิบวับกลางสภาไล่บิ๊กตู่ พร้อมท้ายุบสภา ไปลงเลือกตั้งใหม่ ซัด’ตู่ธานอส’บกพร่องแก้’ฝุ่นพิษ-ไวรัส’แพร่ระบาด
เมื่อเวลา 09.18น.วันที่ 26กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในวันที่สาม โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางถึงรัฐสภาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มี นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มารอต้อนรับ ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะชี้แจงกรณีสส.ฝ่ายค้านเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสารของกองทัพ (ไอโอ) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ขอฟังเขาอภิปรายก่อนว่า จะชี้แจงเรื่องอะไรต่อไป ส่วนเรื่องไอโอผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะการทำงานโดยปกติแล้วผมไม่มีนโยบายให้ทำงานแบบนี้อยู่แล้วและวันนี้ก็เห็นว่าในโซเชียลมีเดียมีการกระทำแบบนี้มากมาย ผมเองก็โดนซะเยอะเลย เห็นไหมใครทำก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวก็ตรวจสอบอีกทีแล้วกัน ยืนยันไม่มีนโยบายดังกล่าว”
ให้’เพชรภูมิ’ปฎิญาณตนเป็นสส.
จากนั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2 ได้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นวันที่สาม โดย นายศุภชัย ได้แจ้งที่ประชุมว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรองผลการเลือกตั้งให้ นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ดำรงตำแหน่งเป็นสส.กำแพงเพชร เขต2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำให้มีสส.จำนวน 488คน องค์ประชุมสภาฯเท่ากับ 244คน ต่อมา นายเพชรภูมิ ได้กล่าวคำปฎิญาณตนต่อที่ประชุมสภาฯก่อนเข้ารับหน้าที่สส.รองประธานสภาฯ กล่าวอีกว่า สรุปเวลาอภิปรายใช้ไปแล้วว่า 1.คณะรัฐมนตรี (ครม.) ใช้เวลาไปแล้ว 1.17ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายค้านใช้เวลาไปแล้ว 6.24ชั่วโมง
‘วิสาร’ซัด’มาดาม’ฮั้วซื้อไบโอเมทริก
จากนั้นเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน โดย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีbiometric (ลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) เป็นโครงการที่เริ่มตั้งแต่ปี2559 มีการตั้งราคา 1,735ล้านบาท มีการประกวดราคาครั้งแรกและกำหนดรายละเอียดว่า จะต้องมีหนังสือค้ำประกันเสียหาย 86ล้านบาทและบริษัทต้องมีผลงานด้านไอที 86ล้านบาท แต่ต่อมามีการยกเลิกเพราะหาผู้รับเหมาไม่ได้ พร้อมกับกำหนดทีโออาร์ใหม่และประกวดราคาใหม่ 2,126ล้านบาท มีกิจการร่วมค้าเอ็มทีเป็นผู้ชนะการประกวด หนึ่งในผู้บริหารกิจการค้าเอ็มทีมีชื่อ น.ส.วัชรี พรรณเชษฐ์ ซึ่งเป็นนักเรียนหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่นที่15 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ริเริ่มโครงการ อีกทั้งยังอ้างชื่อมาดามหลังทำเนียบรัฐบาล คือ อาจารย์น้องภรรยาของนายกฯ เพื่อไม่ต้องรับผิดตามสัญญา โครงการนี้รัฐเสียหายแน่นอน จากนี้จะไปดำเนินการร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เพื่อเอาผิดกับนายกฯตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157
แฉเอกชนเงินไหลเข้าหมื่นล้าน
นายวิสาร กล่าวอีกว่า ที่สำคัญเครื่องมือbiometricวันนี้ใช้ได้จริงหรือไม่ เพราะมีการพูดถึงคดีวันเอ็มดีบี ข่าวบอกว่าคู่กรณีผ่านด่านตลอด มีหมายจับจากมาเลเซีย เราก็ไม่จับเขา ให้เข้าออกบ้านเราหลายครั้ง ที่สำคัญมีหมายแดงจากสิงคโปร์ ก็ไม่จับเขา ที่สำคัญโครงการนี้นายกฯถูกล่าวหาเสียหายไปทั่วโลก ตนก็ยังไม่เชื่อ ขอให้นายกฯใช้โอกาสนี้ชี้แจง ตนได้ข้อมูลมาว่า มีนายพ.มีบริษัทชื่อ ส.กับข.ชื่อจริง นามสกุลจริง อยู่ที่ตน สิ่งที่ตนตกใจมากกว่านั้นคือ มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีหมื่นกว่าล้านบาท มาอย่างไร มาจากวันเอ็มดีบีหรือไม่ ซึ่งบัญชีอยู่ที่ตน เงินหมื่นล้านบาทมาได้อย่างไร เพราะกฎธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า หากมีการโอนเงิน 2ล้านบาท ต้องแจ้งที่มาที่ไป
‘บิ๊กตู่’ยันจัดซื้อตามขั้นตอนปกติ
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นถูกกล่าวหาเรื่องความไม่โปร่งใสโครงการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยีbiometric (ลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ว่า โครงการนี้เป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) โดยเป็นเงินงบประมาณที่ได้มาจากเงินค่าธรรมเนียมตรวจคนเข้าเมือง ที่ผ่านมา สตม.ใช้ระบบคัดกรองผ่านระบบลายนิ้วมือเป็นหลัก แต่ต้องเปลี่ยนมาเป็นลายนิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า ซึ่งเป็นระบบทั่วโลกหลายประเทศได้ใช้ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังได้พิจารณาความคุ้มค่าก่อนการอนุมัติให้ใช้เงินแล้ว สตช.ทำสัญญากับกิจการค้าร่วมเอ็มทีและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจรับเพื่อใช้ในราชการแล้วตั้งแต่เดือนส.ค.2562และมีการติดตั้ง1,843ชุด
ไม่ใช่ร่วมทุจริตกันเพื่อนร่วมรุ่น
“ขอความเป็นธรรมว่าในเรื่องของการเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนั้นก็มีหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกัน ซึ่งไม่ได้หมายความว่า เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันแล้วจะต้องไปร่วมกระทำความผิด ถ้ามาเหมากันแบบนี้ผมคิดว่าหลายคนที่หนีไปก็มีเพื่อนร่วมรุ่นหมายความว่า จะต้องผิดทุจริตกันหมดอย่างนั้นเหรอ ผมคิดว่าอยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาผมเป็นอาจารย์มาก่อนและเตือนผมเสมอในเรื่องการทุจริตมาตลอด สำหรับการส่งมอบงานล่าช้านั้นมีปัญหาส่วนหนึ่งจากหน่วยงานเองด้วย โดยช่วงที่กำหนดส่งมอบงานปรากฏว่า เมื่อจะต้องมีการติดตั้งสัญญาณเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกลับไม่สามารถดำเนินการได้ ไปจนถึงสถานที่ในการดำเนินการก็ไม่มีความพร้อมสำหรับการติดตั้ง ซึ่งเป็นความบกพร่องของฝ่ายเราเองด้วย
ใส่ร้ายผ่านออนไลน์เต็มไปหมด
นายกฯกล่าวย้ำว่า‘การจัดซื้อทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว หากจะมีมาดามคนใดไปยุ่งเกี่ยวก็ต้องมีการพิสูจน์กันต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยา เวลานี้มีคนอ้างชื่อนายกฯ รองนายกฯเป็นจำนวนมาก มีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อ ถ้าอยากรู้ว่านายกฯสั่งการจริงหรือไม่ ให้ถามที่ตนเองได้ เวลานี้มีการใส่ร้ายป้ายสีทางสื่อสังคมออนไลน์เต็มไปหมด”เมื่อวานที่พูดจาในเรื่องนี้ ผมกราบเรียนว่าเราจะต้องสืบหาข้อเท็จจริง เพราะเกิดความเสียหายกับหน่วยงานภาครัฐ เรื่องนี้เป็นเรื่องของการติดตามและตรวจพบว่าใครด่ากันด่ากันมา ซึ่งเป็นการไม่ดีเลยที่มีการปลุกระดมคนให้มาทะเลาะกัน ผมจะตรวจสอบด้วยว่าบางพรรคก็ทำ ทำเยอะด้วย ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงหมด ไม่ได้ขู่ แต่เปฏิบัติตามกฎหมาย’
ปัดทุจริต1MDBกระทบสัมพันธ์
ขณะเดียวกัน ช่วงหนึ่งนายกฯได้ตอบข้อกล่าวหาของ นายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ว่า รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่อง1MDB โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผมไม่อยากไปก้าวล่วงเพราะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผมยืนยันว่า มีสองคนที่เกี่ยวข้อง โดยหนึ่งคนรับโทษในเรือนจำไปแล้ว อีกคนหนึ่งที่มีการอ้างว่ามีหมายแดงและเข้าออกประเทศไทยนั้น ได้ตรวจสอบอย่างเป็นทางการว่าหมายแดงได้ออกมาหลังจากนั้นไปแล้ว โดยก่อนหน้านั้นได้มีการเข้าออกประเทศเหมือนกับบุคคลทั่วไปเพราะยังไม่มีหมายแดงและวันนี้สิงคโปรต้นทางที่ออกหมายแดง ได้ยกเลิกหมายแดงแล้วและข้อสำคัญ คือ คนที่เข้าออกประเทศไทยคนนี้เขามีสิทธิพอสมควรจากบัตรอีลิทการ์ด ซึ่งไม่รู้ใครทำให้เขา บางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโจมตีกัน เพราะเสียหายต่อความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รู้สึกว่าท่านชอบเหลือเกินที่จะทำให้ต่างประเทศลดความเชื่อมั่นผมและประเทศไทย แต่ไม่เป็นไร ผมทนได้’
ขุดถวายสัตย์-ไล่ตรวจสภาพจิต
เวลา 10.37น.บรรยากาศ เป็นไปอย่างเข้มข้น ช่วงนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานภาฯ เป็นประธานที่ประชุม เมื่อพล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ลุกขึ้นอภิปรายเกริ่นถึงการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่นายกฯกล่าวคำถวายสัตย์ไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างต่อเนื่องทำให้บรรดา ส.ส.ทั้งซีกฝ่ายค้านและรัฐบาล ยกมือประท้วงเป็นที่วุ่นวาย โดยหนึ่งในนั้น มี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยกมือประท้วงและพูดแทรกกลางที่ประชุมเป็นระยะ ขณะที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคเดียวกัน ประท้วงขอให้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ไปตรวจสภาพจิต ทั้งนี้ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ประท้วงว่าประเด็นการถวายสัตย์ทางวิปฝ่ายค้านและรัฐบาล ได้หารือกันแล้วว่าจะไม่มีการพูดถึงประเด็นเนื่องจากผ่านขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้รับเรื่องนี้ไว้วินิจฉัยแล้ว
สส.ฝ่ายค้าน-รัฐบาลลุกประท้วงวุ่น
ขณะที่ส.ส.ซีกฝ่ายค้าน ทั้งพรรคเสรีรวมไทย ประท้วงสนับสนุนให้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ อภิปรายต่อ นายศุภชัย จึงวินิจฉัยว่าให้พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ให้อภิปรายแตะเรื่องการถวายสัตย์ได้แต่ไม่ให้ลงลึกในรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องก่อนการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยแล้ว อีกทั้งได้เคยมีการพูดกันในที่ประชุมสภาฯในวาระการยื่นอภิปรายทั่วไปแล้ว และข้อบังคับการประชุมห้ามมิให้การอภิปรายกล่าวถึงพระมหากษัตริย์โดยไม่จำเป็น
ต่อมา พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ได้อ้างว่าการอภิปรายเป็นสิทธิ์ของส.ส.การที่2วิปไปตกลงกันมั่ว โดย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ยังไม่ทันพูดจบ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.นครศรีธรรมราช พลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วงว่า พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ แสดงกริยา ใส่ร้ายเสียดสี ตนถือว่าข้อตกลงที่เราได้หารือกัน ใช้ส่วนตรงนี้มาโดยตลอด จากนั้น นายศุภชัย ได้ห้ามปรามส.ส.ไม่ให้ประท้วงและยืนยันว่าตนเองได้วินิจฉัยไปหมดแล้ว พร้อมให้ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ อภิปรายต่อโดยไม่ให้พูดถึงปมถวายสัตย์ แต่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ยังคงอภิปรายเรื่องดังกล่าวต่อ ทำให้บรรดา ส.ส.ยังคงยกมือประท้วง
ปธ.ขู่จะหยุดพูดหรือออกจากห้อง
จนกระทั่งประธานในที่ประชุม นายศุภชัย โพธิ์สุ ได้วินิจฉัยให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ หยุดเกริ่นเรื่องปมถวายสัตย์ และเข้าสู่ประเด็นอภิปรายอื่น แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ ก็ยังดึงดันที่จะอภิปรายเรื่องปมถวายสัตย์ต่อ ทำให้ประธานฯสั่งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ หยุดพูด และว่าถ้าจะอภิปรายต่อต้องไม่พูดถึงเรื่องถวายสัตย์หรือเลือกที่จะออกนอกห้องประชุม ซึ่งตนไม่ได้ขู่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ จึงพูดว่าได้ครับ เจอกันนอกสภา นายศุภชัย จึงระบุว่า”ผมไม่กลัวหรอกครับท่าน พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ สุภาพบุรุษนาแก ผมก็เป็น สหายแสงครับ”
สุดท้ายยอมสละสิทธิ์อภิปรายรบ.
จากนั้น ประธานจึงให้กล่าวสรุป พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จึงยอมสรุปว่า ขอยกสุภาษิตไทยว่า คนเราหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้ แต่นายกฯตรงกันข้าม เพราะรู้กันหมดว่าถวายสัตย์ไม่ครบตามรัฐธรรมนูญ แต่นายกฯหลอกตัวเอง แล้วคนหลอกตัวเอง มันสมควรจะเป็นนายกฯต่อหรือไม่ สุดท้าย พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ได้สละสิทธิในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้ที่ประชุมเสียเวลาไป 1.30 ชั่วโมง
‘ชวน’ย้ำเคยตกลงกันไว้ก่อนแล้ว
ด้าน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดการประท้วงไปมาระหว่างการอภิปรายของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยว่าวิปฝ่ายค้านและรัฐบาลตกลงแล้วว่า จะไม่อภิปรายประเด็นถวายสัตย์และได้แจ้งให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รับทราบแล้ว แต่หลังจากนี้ยังสามารถอภิปรายประเด็นอื่นได้
ซัด’ตู่ธานอส’ปล่อยไวรัส-ฝุ่นพิษ
ต่อมา น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตอนหนึ่ง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คุมทุกเรื่อง จึงต้องรับผิดชอบทุกเรื่องที่เกิดขึ้น เที่ยวไปบงการคนอื่น จนถูกเรียกว่า”ตู่ธานอส”ดีดนิ้วชี้นิ้ว ถ้านายกฯบริหารงานดีจริง คงไม่ทำให้รัฐบาลถูกตัั้งฉายาว่า”รัฐบาลเชียงกง”อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯที่ขอใช้งบประมาณมากที่สุด แต่จีดีพีของประเทศลดต่ำที่สุดและยังเป็นรมว.กลาโหมที่มีคำครหามากมาย ทั้งเรื่องซื้ออาวุธ การที่มีทหารลากอาวุธมาฆ่าคนจำนวนมากและมีการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างมาก รวมถึงเป็นประธานคณะกรรมการระดับชาติหลายคณะ แต่ทำอะไรเจ๊งคามือ นอกจากนี้ ยังปล่อยให้ฝุ่นพิษเต็มบ้านเมือง ส่งผลให้เกิดโรคร้ายหลายอย่าง โดยปัญหานี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลากหลายสีเส้นทางพร้อมๆกันทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งมาจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ อนุมัติให้เร่งเซ็นสัญญาการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายพร้อมกัน เพราะท่านต้องการสะสมทุนเพื่อใช้ในการสืบทอดอำนาจ ใช่หรือไม่
ปล่อยปล้นคลังเอาปืนไล่ฆ่าปชช.
นอกจากนี้ในกรณีการแพร่ระบาดของโรคจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ นายกฯไม่กล้าปิดกั้นธุรกิจท่องเที่ยวจากจีน โดยอ้างธุรกิจท่องเที่ยวของประเทศจะได้รับความเดือดร้อน แต่ที่จริงแล้วท่านต้องการจะอุ้มธุรกิจร้านค้าปลอดภาษีหรือดิวตี้ฟรีใช่หรือไม่ เพราะธุรกิจดังกล่าวเป็นเป้าหมายการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวจีน สิ่งเหล่านี้สะท้อนความไร้ความเป็นผู้นำ จนไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นจากประชาชน อีกทั้งเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมาซึ่งกำลังพลของกองทัพนำอาวุธไปทำร้ายประชาชน ซึ่งท่านควรจะต้องสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพมาจัดการผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีเพียงปืนพก ไปต่อสู้กับผู้ก่อเหตุและยังปล่อยให้ปล้นคลังอาวุธมาสังหารประชาชน ซึ่งมีการวิจารณ์ว่าแม้แต่อาวุธยังรักษาไม่ได้ แล้วจะรักษาความมั่นคงของประเทศได้อย่างไร
ชวนสส.เปิดไฟมือถือไล่พ้นนายกฯ
น.อ.อนุดิษฐ์ อภิปรายว่าคนไม่รู้ไม่ชี้นั้นเป็นอะไร แต่คนที่ไม่รู้แล้วไปชี้ให้คนอื่นทำนั้นเขาเรียกว่า”ประยุทธ์”และคำย่อที่ว่า “#ผนงรจตกม”ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ตนในฐานะเตรียมทหารรุ่นน้อง จึงขอให้พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นเตรียมทหารรุ่นพี่ เสียสละเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริงด้วยการลาออก พวกตนไล่ท่านอย่างไร ท่านก็ไม่ไป เพราะมือของพวกตนในสภามีน้อย จึงขอเชิญชวนเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านเปิดไฟส่องแสงสว่างจากโทรศัพท์มือถือชูขึ้นแล้วเปล่งเสียงขอให้นายกฯลุกขึ้นยืนยืดอกพร้อมกล่าวว่า”ข้าพเจ้าขอยุบสภา”แล้วกลับไปเลือกตั้งใหม่ จะได้มาดูว่าประชาชนจะให้โอกาสท่านกลับมาบริหารประเทศอีกหรือไม่
สส.หัวเราะลั่น-‘บิ๊กตู่’นั่งอมยิ้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่น.อ.อนุดิษฐ์เรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ประกาศยุบสภานั้น บรรดาส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านพร้อมใจกันเปิดไฟฉายจากโทรศัพท์มือถือแล้วชูขึ้น ขณะที่ส.ส.บางส่วนส่งเสียงหัวเราะลั่นห้องประชุม ด้านพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งนั่งฟังการอภิปราย ได้แต่ยิ้มมุมปาก พร้อมส่ายหัวเล็กน้อย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี