"บิ๊กตู่" ยันนักศึกษาจัดกิจกรรมได้ อยู่ในกรอบกฎหมาย ขออย่าหมิ่นสถาบัน ห่วงอนาคตชาติต้องเสียไปเพราะคดีอาญา ยัน ครม.ที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้หมอตรวจโควิด-19 แล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันที่ 4 ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ได้หารือถึงสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ในส่วนของคณะรัฐมนตรีและข้าราชการที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนั้น ได้รับการตรวจสอบที่โรงพยาบาลบําราศนราดูร และได้รับผลการตรวจสอบและยืนยันว่าไม่มีอาการแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ให้ระวังรักษาสุขภาพและแพทย์ก็ได้นัดตรวจเป็นระยะในช่วงฟักตัว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หากมาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมานั้นได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี ส่วนการเดินทางไปราชการและดูงานต่างประเทศ ได้ให้แนวทางเบื้องต้นไปแล้วและเตรียมจะสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยจะเน้นให้ดูงานในประเทศเป็นหลักเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศต่อไป
ต่อมา นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นหารือในที่ประชุมถึงประเด็นการชุมชนของศึกษา ว่า เรื่องนี้สำคัญมากควรจะเป็นเรื่องด่วน ตนเป็นครูอาจารย์มาเกี่ยวข้องกับสถาบันการศึกษา ตั้งแต่ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ตนเป็นนักการเมือง ไม่อยากให้มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น เนื่องจากเวลานี้สิ่งที่ปรากฎหลายคนได้ติดตามการชุมนุมของนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ และขยายไปถึงโรงเรียนมัธยม ตนอยู่ในประเทศนี้มานาน ตั้งแต่อายุ 22 ปีได้พบกับวันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม 2516 เป็นเหตุการณ์ สำคัญทางการเมืองระหว่างเผด็จการและประชาธิปไตย เหมือนวันนี้ ต่อมาอีก 19 ปี เจอกับเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ
“ด้วยประสบการณ์ขอผม ผมคิดว่าเหตุการณ์ถ้าฝ่ายบ้านเมืองหรือฝ่ายมีอำนาจซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่ดูแลทหารและตำรวจอยู่ เวลานี้มีสิทธิ์มีเสียงร้องว่าบางมหาวิทยาลัยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไป โดยไม่ควรจะเข้าไป สิ่งนี้คิดว่าจะเกิดมากขึ้น และฝากเตือนไปยังพล.อ.ประยุทธ์ อย่าประมาท ฝากอย่าให้เหตุการณ์เจ้าหน้าที่ปะทะกับนักศึกษาและประชาชนได้นำไปสู่เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ ฝากไว้ว่าท่านนายกฯต้องสัญญาจะไม่เกิดการเข่นฆ่าขึ้นในประเทศนี้อี ” นายขจิตร กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวชี้แจงว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นตามสถาบันการศึกษาว่า "ผมเข้าใจถึงความหวังดีของท่านทุกคนและสิ่งที่เราพยายามทำเต็มที่ คือ การทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ ดังนั้นการดำเนินการต่างๆจะเป็นไปตามกฎหมาย บางครั้งเรายังไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายด้วยซ้ำไป ผมเป็นกังวลกับเด็กเหล่านี้อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจถูกชักชวน อาจถูกปลุกมาโดยฟังความข้างเดียว ผมขอให้นักศึกษาทุกคนที่ชุมนุมเวลานี้ช่วยฟังข้อมูลของรัฐบาลที่ได้แถลงออกไปและเลือกฟังดูว่าจะเชื่อทางไหนอย่างไร ผมไม่ต้องการให้ไปทางใดทางหนึ่งทั้งสิ้นเว้นเสียแต่ว่ามีบางฝ่ายต้องการให้ไปทางใดทางหนึ่ง"
"สิ่งที่เป็นกังวล คือ กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์นะครับ ไม่ว่าวันนี้วันหน้า ผมไม่ได้ขู่นะครับ หลายๆอย่างถูกดำเนินการอยู่ในคดีความทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเมื่อปี 2553 2557 ยังเป็นคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะสีไหนก็ตาม ที่ผ่านมาปี 14 ปี 16 มันก็อีกกรณีหนึ่ง ซึ่งวันนี้เราไม่ได้ทำแบบนั้นที่จะทำให้เกิดเงื่อนไข วันนี้มีเรื่องเดียวที่เกิดเหตุการณ์ในปี 2557 ก่อนหน้านั้นพวกท่านก็ทราบดีว่าปี 2553 ก็รู้อยู่ว่าคนที่ออกมาจำนวนมาก คือ ใคร ทำเพื่ออะไร ปลุกระดมกันอย่างไร สิ่งที่ผมห่วง คือ ห่วงอนาคตของคนเหล่านี้มากกว่า ผมไม่ได้โกรธเด็กๆ หลานๆ ลูกๆเลยเพราะเขาเป็นผู้ที่มีแรงกระตุ้นพอสมควร เด็กรุ่นใหม่เราต้องทำให้เขาเกิดประโยชน์สูงสุด ผมไม่ได้เคยสั่งการว่าจะต้องไปปะทะ ไม่เคยสั่งการอย่างนั้นเลย เว้นแต่เป็นการป้องกันตัวเอง โดยจะต้องใช้มาตรการที่เบาที่สุด ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ ถ้าเขาไม่ทำเขาก็มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่" นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ต้องช่วยกันคิดทั้งสองทาง ตนไม่โทษนักศึกษาแต่ตนอาจจะต้องกล่าวถึงคนที่ไปนำสิ่งเหล่านี้ออกมา ตนคิดว่าอันตรายที่สุดเลยนะ แล้วอนาคตเขาจะหมดไปในวันหน้าด้วยคดีอาญา ตนไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกจริงๆ ปี 14 ปี 16 ก็เป็นตัวอย่างแล้วมา 2553 ก็เป็นตัวอย่างใหญ่โต หลายคนก็เข้าไปเกี่ยวข้องอีก ปี 2557 เช่นกัน
"ผมต้องเตือนว่าขณะนี้ได้มีการนำเรื่องหมิ่นสถาบันเข้ามาไปขับเคลื่อนด้วย ยอมไหมละครับ ถ้าท่านยอมผมก็โอเคหละ ถ้าท่านเห็นว่าถูกต้องผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน จำเป็นต้องว่าไปตามกฎหมาย อย่าไปทำอย่างนั้นนะครับ ผมขอโดยเด็ดขาด ผมคิดว่าสภาแห่งนี้เป็นสภาที่เคารพสถาบัน ผมเชื่อมั่นอย่างนั้นนะครับ อย่าทำโดยเด็ดขาด ถ้าไปสู่ตรงนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นอย่างที่ท่านว่าเมื่อตะกี้นี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี