1.ในราชการพลเรือนตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 มาตรา 57 บัญญัติเกี่ยวกับผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งไว้โดยเฉพาะมาตรา 57(9)(10)และ(11) โดยสรุปว่า

(1) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษและตำแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ เป็นอำนาจของอธิบดีผู้บังคับบัญชาโดยความเห็นชอบของปลัดกระทรวง

(2) การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ ชำนาญ ตำแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงาน  ชำนาญงานและอาวุโสเป็นอำนาจของอธิบดีผู้บังคับบัญชา

(3) การบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 53 และการย้ายตามมาตรา 63 ให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 57(9) ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษและตำแหน่งตามมาตรา 57(10) ในราชการส่วนภูมิภาค เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับบัญชา

2.ประเด็นนี้ ส่วนราชการได้หารือมายังสำนักงาน ก.พ.ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 57(11) จะมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดราชการบริหารส่วนภูมิภาค ในตำแหน่งประเภทใดและระดับใด

3.ปัญหาประเด็นนี้มีคำตอบจาก ก.พ.โดยสรุปว่าโดยที่บทบัญญัติมาตรา 57(11) ดังกล่าวนั้นหมายความว่าในราชการบริหารส่วนภูมิภาค ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจึงเป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการชำนาญการ รวมถึงตำแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงาน ชำนาญงานอาวุโสและย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษตามมาตรา 63 ได้แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากอธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเคียงคู่กัน อธิบดีผู้บังคับบัญชาจึงสามารถย้ายข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษที่สังกัดกรมนั้นในจังหวัดได้เช่นเดียวกัน (มติอ.ก.พ.วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายครั้งที่ 1/2555 วันที่ 23 มกราคม 2555)

4.ต้องเป็นที่เข้าใจกันนะครับว่า อธิบดีมีกรอบอำนาจทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่สังกัดกรมแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจเฉพาะในจังหวัดที่เป็นผู้บังคับบัญชาเท่านั้น