เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงความคืบหน้ากรณีการทุจริตการเบิกเงินงบประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หรือคดีเงินทอนวัด โดยปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวนและชี้มูลความผิดไปแล้ว 11 สำนวน รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท และพิจารณาส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแล้ว 24 สำนวน
นายวรวิทย์ ระบุว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนการไต่สวนและชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด เพิ่มเติมจำนวน 3 จังหวัด 5 วัด ได้แก่ จ.อำนาจเจริญ 1 วัด (วัดโคกเลาะ) จ.ตาก 3 วัด (วัดยางโองบน วัดยางโองน้ำ วัดยางโองสันกลาง) และ จ.เพชรบุรี 1 วัด (วัดห้วยตะแกละ) ได้แก่
1. กรณีวัดโคกเลาะ ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ผู้เกี่ยวข้องได้แก่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ นายเฉลิมพล มีศิลารัตน์ นางสาวประนอม คงพิกุล และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์มีมูลเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82 (1) (2) (3) ประกอบมาตรา 85 (1) (7) และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 นอกจากนั้น นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ ยังมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 151 และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ นายเฉลิมพล มีศิลารัตน์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (4) ด้วย
2.กรณีวัดยางโองบน วัดยางโองน้ำ วัดยางโองสันกลาง ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก ผู้เกี่ยวข้องได้แก่ นายพนม ศรศิลป์ นายชยพล พงษ์สีดา นายฉัตรชัย ชูเชื้อ และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ มีมูลความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 และตามมาตรา 123/1 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82 (1) (2) (3) มาตรา 83 (3) ประกอบมาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1) (4) สำหรับนายบรรหาร เมตไตรพันธุ์ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ และพระครูกิตติพัชรคุณ มีมูลความผิดอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว
3.กรณีวัดห้วยตะแกละ ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ นางสาวประนอม คงพิกุล นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ และนายพนม ศรศิลป์ มีมูลความผิดวินัย อย่างร้ายแรงตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 มาตรา 82 (1) , (2) , (3) ประกอบมาตรา 85 (7) และมาตรา 85 (1) , (4) และมีมูลความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 147 มาตรา 151 และมาตรา 157 นอกจากนั้น นางสาวประนอม คงพิกุล และนายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ ยังมีมูลความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 162 (4) ด้วย สำหรับนางสาว รัสริน หรือระวีวรรณ หรือรสธร รวมสิน หรือกิตติธีระสิทธิ์ และนายฐานพัฒน์ ม่วงทอง มีมูลความผิดอาญาฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว
ส่วนมูลค่าความเสียหาย แบ่งเป็น 1.วัดโคกเลาะ ต.หนองแก้ว อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ เสียหาย 8,213,000 บาท 2.วัดยางโองบน วัดยางโองน้ำ วัดยางโองสันกลาง ต.แม่สลิด อ.บ้านตาก จ.ตาก เสียหาย 6 ล้านบาท และ 3.วัดห้วยตะแกละ ต.ท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เสียหาย 12.5 ล้านบาท รวม 5 วัด 3 จังหวัด เสียหายทั้งสิ้น 26,713,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี