จากกรณีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับ คำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองยื่นคำร้องกรณีมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคก้าวไกลมี พฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเข้าลักษณะการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นเหตุแห่งแห่งการยุบพรรคก้าวไกลตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 มาตรา 92 และขอให้เพิกถอนสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรคห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรม การบริหารพรรคการเมืองที่จดทะเบียนขึ้นใหม่ด้วยเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยศาลให้พรรคก้าวไกลยื่น คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันได้รับสำเนาคำร้องนั้น
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2567 นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย ได้แสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า เมื่อ 2 วันก่อน (วันพฤหัสบดี) จากการได้ฟังการอภิปรายจากพรรคก้าวไกลทั้งในส่วนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล แล้วตนรู้สึกชื่นชมและเสียดายถ้าหากพรรคก้าวไกลจะต้องถูกยุบ ซึ่งก็จะทำให้คนเก่งอย่างนายพิธา รวมทั้งนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะต้องถูกเว้นวรรคทางการเมือง รวมทั้ง สส. 44 คน ซึ่งจะส่งผลให้การเมืองบ้านเราสะดุด และก็เคยสะดุดมาแล้วเป็นเวลานานถึง 10 ปี
"ดังนั้น จึงฝากไปถึง กกต.และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า สส.ของพรรคก้าวไกลทำผิดเช่นนั้นจริงหรือ จนเป็นเหตุให้ถูกตัดสินเว้นวรรคทางการเมือง ซึ่งจากมุมมองของตนในฐานะที่ตนเป็นนักการเมืองและนักนิติศาสตร์ ยังมองไม่เห็นช่องในการที่จะทำให้ผลการตัดสินออกมาเช่นนั้น ดังนั้นจึงขอฝากให้คิดดีๆว่า บ้านเมืองเราย่ำอยู่กับที่มานานแล้ว และควรจะทำให้บ้านเมืองเดินไปในทิศทางใด"นายอุเทน กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสชี้แจงข้อกล่าวหาต่อศาล รธน. 15 วันนั้น นายอุเทน กล่าวว่า ไม่ใช่สาระ เพราะขึ้นอยู่กับว่ามีการถกประเด็นกฎหมายกันนานแค่ไหน ซึ่งเวลาเพียง 15 วันไม่สามารถที่จะขยายประเด็นความจริงให้เป็นที่ยุติได้
ทั้งนี้ ตนขอวอนทุกฝ่ายให้หยุดทำร้ายทำลายกันและทำลายบ้านเมืองโดยตั้งธงด้วยการอ้างกฎหมาย อ้างรัฐธรรมนูญในขณะที่ศาลเองยังไม่ได้บอกว่าเกิดการทำลายสถาบันแล้ว ซึ่งศาลก็บอกว่าหากปล่อยต่อไปจะเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ย่อมหมายถึงว่าผลยังไม่เกิดขึ้น นอกจากนี้ สส.ของพรรคก้าวไกลทั้ง 44 คน ก็มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญสามารถที่จะลงชื่อกันไม่ต่ำกว่า 25 คน เพื่อขอแก้ไขกฎหมาย
นายอุเทน ยืนยันว่าการแสดงความเห็นของตนต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ กกต.เพื่อให้มีคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลนั้น ตนไม่ได้แสดงความคิดเห็นชี้นำศาลแต่อย่างใด ก็ขอศาลอย่าได้ทำตามกระแสที่ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าจะต้องมีการยุบพรรคก้าวไกล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี