นายกฯถกครั้งแรกหลังใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” สู้โควิด-19 ชี้จำเป็นต้องเข้มงวด กำชับผู้รับผิดชอบเดินหน้าจัดทำแผน แม้เหน็ดเหนื่อย แต่ขอให้ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นทางการแพทย์ เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ ลดข่าวปลอม สั่ง “พาณิชย์” เร่งแก้ปัญหาเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นขาดแคลน
26 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล หลังการประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วราชอาณาจักร (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1 /2563 โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี , นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี , นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯรัฐมนตรี , นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย , นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รวมถึงปลัดกระทรวงและผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่เป็นผู้รับผิดชอบงานในแต่ละด้าน รวมถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า ขณะนี้การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ในสถานการณ์ระดับที่รัฐบาลต้องใช้ การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมอำนาจการบริหาร ออกข้อกำหนดกฎเกณฑ์เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสังคมและประชาชน ในช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะสามารถ แก้ไขปัญหาลดการแพร่ระบาดได้ จึงจำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด พร้อมกันนี้ได้มอบแนวทางการปฏิบัติ เพื่อขับเคลื่อนการทำงาน โดยสั่งการให้ผู้รับผิดชอบตามภาระหน้าที่จัดทำแผนดำเนินงานให้เรียบร้อย พร้อมเดินหน้าบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งรวมถึงนักวิชาการและภาคประชาชนด้วย ขณะที่เจ้าพนักงานผู้ปฏิบัติหน้าที่ ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน จะต้องเหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้น
“ขอให้ช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นทางการแพทย์ของไทย เผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อลดข่าวปลอม ทั้งให้กระทรวงพาณิชย์ เข้าไปดูแลและแก้ไขปัญหา เรื่องอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น เพื่อใช้ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะเรื่องการนำเข้าจากต่างประเทศ” นายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งมีอายุเกิน 70 ปี และรัฐมนตรีคนอื่นที่อายุเกิน 70ปี และเข้าร่วมการประชุมในวันนี้นั้น ไม่ถือว่าขัดข้อกำหนดที่ออกมา เพราะเป็นเพียงข้อแนะนำให้คนอายุเกิน 70 ปี อยู่ที่บ้าน อย่าออกจากบ้าน และมีข้อยกเว้น โดยรวมถึงการเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศหรือคำสั่งต่างของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็น ซึ่งกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ยกเลิกวาระการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ไม่เกี่ยวกับข้อกำหนดดังกล่าว แต่ติดภารกิจมาร่วมประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี