"นายกฯ"ขอบคุณทุกภาคส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ ที่ทุ่มเทร่วมแก้ปัญหาโควิด-19 “ย้ำ”ไม่ขยายเวลาเคอร์ฟิว
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ผ่าน ระบบ Video Conference ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกภาคส่วน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ทุ่มเทเสียสละ อดทนเพื่อการทำงานสำคัญครั้งนี้
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ ให้กำลังใจและเข้าใจดีว่าการทำงานเพื่อประชาชนส่วนใหญ่ ประชาชนทั้งประเทศ ย่อมมีความยากลำบาก และเต็มไปด้วยอุปสรรค อาจจะมีทั้งผู้ที่มีเจตนาบริสุทธ์ ทั้งดี และไม่ดี จึงขอให้ทุกคนอดทน สร้างความเข้าใจชี้แจงประชาชนอย่างต่อเนื่อง ก่อนมีมาตรการใดๆ ออกมา
นายกฯ กล่าวต่อว่า ขอให้หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการแต่ละด้านได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงนำนโยบายไปช่วยปฏิบัติ ทั้งนี้ย้ำว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ลดทอนอำนาจรัฐมนตรี เพียงแต่ต้องการให้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน และขอควบคุมภาพรวมการทำงานอย่างใกล้ชิดโดยการแก้ปัญหาประเด็นนี้ประกอบด้วยข้อมูลที่มีจำนวนมาก ขอให้กระชับ ผ่านการบริหารจัดการข้อมูล บูรณาการข้อมูล ที่ ศบค. เพื่อการวิเคราะห์ตัดสินใจนำมาใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้ทันที
ในส่วนของ การเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย ที่ประชุมได้รับรายงานว่า มีความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ผ่านระบบการกักตัวทั้ง State Quarantine และ Home Quarantine เป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมจัดการ เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ และให้ความร่วมมือการคัดกรอง โดยกักกันต้องเข้มงวด ต้องมีความพร้อม ทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย ด้านการประกาศเคอร์ฟิว ยังไม่ปรับอะไรเพิ่มเติม ขอดำเนินการตามมาตรการที่ได้ประกาศไปก่อน
“เมื่อวานนี้ได้ไปเยี่ยมผู้กักตัวตามมาตรการ State Quarantine ที่โรงแรมเดอะภัทรา ซึ่งขอชื่นชม ขอบคุณเจ้าของโรงแรม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ ศบค. พิจารณาอย่างใกล้ชิด เพื่อดูแลประชาชนที่อยู่ในการคัดกรอง และกำลังจะกลับมาเพิ่มเติม ให้เรียบร้อย ถูกต้องตามมาตรฐานการคัดกรอง ทั้งนี้ การประกาศเคอร์ฟิวจึงเป็นไปตามประกาศเดิม คือระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. และมีข้อยกเว้นตาม พ.ร.ก. กำหนด ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานเพื่อแจ้งให้ประชาชนที่เกี่ยวข้องทราบ”นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเด็นที่เกี่ยวกับหน้ากากอนามัย ซึ่งปัจจุบันหน้ากากอนามัยแบบปกติ ผลิตได้เพิ่มเป็น 2 ล้านชิ้นต่อวัน และคิดว่าด้วยจำนวนการผลิตเท่านี้จะลดปัญหาขาดแคลนได้บ้าง ส่วนหน้ากาก N95 และชุด PPE ยังมีปัญหาต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ดี การผลิต N95 มีมาตรฐานการผลิตที่อาศัยหลายปัจจัย และต้องผลิตให้ได้มาตรฐาน
ด้านมาตรการทางเศรษฐกิจ นายกฯขอบคุณทุกหน่วยงานที่ทำงานอย่างหนัก และทำให้เกิดผลในการช่วยเหลือประชาชน อย่างไรก็ดี การดำเนินการต้องผ่านมาตรการที่ถูกต้องตามระเบียบ หากไม่ถูกต้องจะต้องส่งเงินคืน และมีมาตรการลงโทษตามกฎหมาย และหากกฏหมายตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่เพียงพอที่จะใช้ลงโทษต้องปรับเพิ่ม ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ศึกษาวงเงินที่ใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั่วโลก ให้พิจารณาตั้งคณะทำงานอย่างละเอียดรอบคอบ
ด้านการแพทย์ นายกฯ ได้สั่งการให้สาธารณสุขพิจารณาดูมาตรการต่างๆ การดูแล ติดตามเพื่อตรวจสอบ รวมทั้งสาเหตุที่มีการติดเชื้อ ตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด และจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งในประเทศ และต่างประเทศ แหล่งที่มาของเชื้อต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตรวจสอบการคัดกรอง และรักษาในโรงพยาบาลทั้งเอกชน และโดยเฉพาะในภาคใต้ยังมีตัวเลขการแพร่ระบาด
ในที่ประชุมฯ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า แบ่งการดูแล ดังนี้ 1. PUI ผู้ป่วยแล้ว ดูแล 2 .ผู้สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ทำการสอบสวน 3 .ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยที่ภูเก็ตทำไปกว่า 1500 ราย 4 .ดูแลการเฝ้าระวัง กำหนดเป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิต 1.26% อิตาลี 12.63% อังกฤษ 11.03% ถือว่าประเทศไทยดำเนินการได้ดี ทั้งนี้นายกฯได้สั่งการขอให้มีการควบคุมการดำเนินการให้ดียิ่งขึ้น ให้จำนวนลดลงได้
ส่วนด้านจัดการคัดกรองและระบบกักตัวเพื่อเฝ้าระวัง นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานจัดการไม่ให้มีปัญหา โดยผ่านการบริหารแบบบูรณาการที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงให้ทยอยเดินทางกลับเพื่อรัฐบาลจะได้จัดระบบที่เหมาะสมรองรับ โดยพิจารณาการ State Quarantine สำหรับผู้ที่เดินทางมาทางอากาศ และดำเนินการ Local Quarantine ให้กับกลุ่มคนที่เดินทางผ่านด่านชายแดนทางบก
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีให้พิจารณาแบ่งการเดินทางเข้าประเทศไทยเป็น 2 ประเภทคือคนไทยที่จะเดินทางจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเสี่ยง เพื่อกลับประเทศ และชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มต้องผ่านกระบวนการ State Quarantine ที่เหมาะสม ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการดูแลคนไทยที่พักอาศัยในต่างประเทศแม้ว่าไม่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศก็ต้องดูแลให้ดี
"นายกฯ ได้สั่งการให้ กระทรวงกลาโหมและมหาดไทยพิจารณาเตรียมการร่วมกันด้านการจัดการ State Quarantine โดยให้พิจารณาให้ละเอียด เพียงพอ ทั้งอุปกรณ์ บุคลากร ให้พร้อมใช้ และเป็นประโยชน์ โดยในสถานที่บางแห่งซึ่งได้ปรับเปลี่ยนใช้เป็นโรงพยาบาลในการรองรับผู้ป่วย ขอให้บันทึกแนวทางการรักษา การเตรียมรับมือสถานการณ์ ในรูปแบบต่างๆ ไว้ เพื่อเป็นประวัติศาสตร์และเป็นแนวทาง หากเกิดโรคระบาดใหม่ สิ่งที่บันทึกจะเป็นเสมือนคู่มือในการดำเนินการ รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณ หลักเกณฑ์การเบิกจ่าย ข้อยกเว้นตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. โรคระบาด"
ทั้งนี้ นายกฯสั่งการให้ประชาสัมพันธ์ชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนไม่ให้เกิดข้อสงสัย หน้ากากอนามัยแต่ละชนิดผลิตได้มากแค่ไหน ต้องการใช้จำนวนเท่าใด หน้ากากอนามัย N95 หน้ากากผ้า ตลอดจนให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักในการให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับความพร้อมเรื่องยารักษาโรคว่ามีเพียงพอ
ในตอนท้าย นายกฯ กล่าวขอบคุณทุกคน ทุกฝ่าย ในทุกระดับ ที่มีส่วนร่วมมือสานต่อการทำงานอย่างเรียบร้อย ในแต่ละด้าน สิ่งสำคัญคือ อย่าให้สิ่งที่มีการสื่อสารตีความผิดพลาดถูกนำออกไปเป็นประเด็นทางการเมือง ให้เจ้าหน้าที่ทุกคน ทุกหน่วยงานมีความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย และให้โฆษกกระทรวงต่างๆ ชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเอง ควบคู่ไปกับการแถลงสถานการณ์ของโฆษก ศบค. ในแต่ละวัน
เวลา 12.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามพล.อ.ประยุทธ์ว่า จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะมีการขยายเวลาประกาศเคอร์ฟิว จากเดิมช่วงเวลา 22.00 - 04.00 น. ออกไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "ยังๆ"ก่อนชูมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ให้สื่อมวลชน และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี