เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัยกรณีก่อนและหลังประกาศผลการเลือกตั้งระบุว่า ได้รับคำร้องว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กระทำการอันฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98(3) และพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42(3) โดยเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน เข้าข่ายรู้อยู่แล้วว่าตนมีลักษณะต้องห้ามใช้สิทธิสมัคร แต่ยังลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.และยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งกกต.ได้พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้ความว่าในประเด็นที่ 1 และ 2 นายธนาธรถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในบริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด
ส่วนประเด็นที่ 3 ถูกกล่าวหาว่า เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้น 13 บริษัทในเครือไทยซัมมิท ประกอบด้วย บริษัทไทยซัมมิท โอโตโมทีฟ จำกัด บริษัทไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด บริษัทไทยซัมมิท พลาสเทค จำกัด บริษัทจึงพัฒนาโฮลดิ้ง จำกัด บริษัทไทยซัมมิท เชป คอร์ป จำกัด บริษัทไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด(มหาชน) บริษัทไทยซัมมิท บ้านโพธิ์ จำกัด บริษัทไทยซัมมิท โกลด์ เพรส จำกัด บริษัทไทยซัมมิท โอโต เพรส จำกัด บริษัทไทยซัมมิท พีเค ระยอง โอโคพาร์ท อินดัสตรี จำกัด บริษัทไทยซัมมิท พีเค คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทไทยซัมมิท พีเคเค จำกัด และบริษัทไทยซัมมิท พีเคเค เอนจิเนียริง จำกัด จึงเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.
ทั้งนี้ ระหว่างไต่สวน ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า นายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชนอยู่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ มีผลให้สมาชิกภาพส.ส.ของนายธนาธรสิ้นสุดลง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่านายธนาธรทราบอยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ได้สมัครรับเลือกตั้ง หรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อของตนเองเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา 151ประกอบมาตรา 42(3) ตามคำร้อง จึงสั่งให้ยุติการไต่สวนและให้ดำเนินคดีอาญาต่อนายธนาธร ตามพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส. พ.ศ.2560 มาตรา 151 ประกอบมาตรา 42(3) ในประเด็นที่ 1 และ 2 ส่วนประเด็นที่ 3 ที่ถูกกกล่าวหาเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นใน 13 บริษัทเครือไทยซัมมิทให้รอผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี