1.เวลาที่ข้าราชการพลเรือนสามัญกระทำผิดทางวินัย จะต้องรับโทษทางวินัยเมื่อการกระทำผิดนั้นได้กระทำในขณะมีสถานภาพเป็นข้าราชการและต้องสั่งลงโทษในขณะที่รับราชการอยู่ด้วยนะ จึงจะทำให้การดำเนินการทางวินัยมีผลสมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมาย

2.มีเรื่องที่ควรรู้จะนำมาบอกกล่าวกันลืมอีกเรื่องหนึ่ง กรณีเป็นเรื่องนายชาติหน้าเป็นข้าราชการพลเรือนได้กระทำความผิดอาญาและได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ต่อมานายชาติหน้าได้รับการบรรจุเข้ารับราชการในอีกกรมหนึ่ง ขณะเดียวกันส่วนราชการเดิมก็มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีอาญาในกรณีกระทำผิดอาญาในคราวก่อนด้วย จนกระทั่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกมีกำหนด 2 ปีขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา เช่นนี้ ส่วนราชการใหม่จะพิจารณาดำเนินการและวินัยแก่นายชาติหน้าได้หรือไม่ประการใด

3.ประเด็นนี้เป็นกรณีคล้ายกับการดำเนินการทางวินัยผู้ที่ย้ายโอนไปบรรจุที่ส่วนราชการใหม่ แต่ไม่เหมือนเพราะว่าเวลารับราชการไม่ต่อเนื่องกัน สำหรับกรณีนี้สำนักงานก.พ.ได้พิจารณาข้อหารือแล้วมีความเห็นโดยสรุป

1) การที่ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุจะพิจารณาดำเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาได้นั้น ต้องปรากฏว่าผู้นั้นมีการ
กระทำที่เป็นความผิดเกิดขึ้นในขณะที่มีสภาพเป็นข้าราชการและได้มีการลงโทษในขณะที่ผู้นั้นยังรับราชการอยู่เว้นแต่จะเข้าข้อยกเว้นตามมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้นี้ได้กระทำผิดในขณะที่รับราชการอยู่ที่กรมหนึ่งและได้รับอนุญาตลาออกจากราชการแล้ว ต่อมาผู้นี้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการใหม่ของอีกกรมหนึ่ง เช่นนี้ กรมภายหลังที่รับบรรจุผู้นี้เป็นข้าราชการใหม่จึงไม่อาจนำการกระทำดังกล่าวมาดำเนินการทางวินัยแก่นายชาติหน้าได้และไม่อาจนำกรณีดังกล่าวมาพิจารณาให้ออกตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกันได้

2) อย่างไรก็ตาม ก.พ.ได้เคยพิจารณาและมีความเห็นโดยสรุปว่า ความผิดวินัยตามมาตรา 98 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535(มาตรา 85 (2) แห่งพ.ร.บ.ฯ (2551) ฐานกระทำความผิดอาญาจนได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดนั้น ไม่ได้ตั้งฐานจากการกระทำเดิมของผู้กระทำผิดแต่เป็นความผิดใหม่เพราะถูกจำคุก เดิมจะกระทำผิดกรณีใดมิใช่สาระสำคัญแต่ภายหลังถูกศาลพิพากษาจำคุกก็ต้องลงโทษในความผิดฐานนี้ ดังนั้น กรณีส่วนราชการใหม่จึงสามารถที่จะดำเนินการทางวินัยแก่ผู้นี้ได้ เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกผู้นี้แล้ว (หนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร 1011/ล.240ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2554)