บอร์ดสปส.ฉีกหน้า"หม่อมเต่า" ไม่เพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนจากผลกระทบโควิดเป็น75% แถมยันมติเดิมไม่ลดเก็บเงินสมทบนายจ้างเหลือ1%
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2563 นายทวี ดียิ่ง ประธานสภาองค์การลูกจ้างแรงงานอุตสาหกรรมเอกชน และ 1 ในคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ด สปส.ว่า ที่ประชุมได้ยืนยันมติบอร์ด เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ในการพิจารณาสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเรื่องจากโควิด-19 ที่จะให้สิทธิประโยชน์ทดแทน 50% ระยะเวลา 60 วัน สำหรับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบ แต่ในเรื่องนี้กลับมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 62% จึงเป็นเรื่องที่เราไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ ไม่ต้องพูดถึงการที่จะเพิ่มเป็น 75% ที่ย่อมจะเกิดผลกระทบต่อกองทุนประกันการว่างงาน นอกจากนี้ มติในครั้งนั้นยังเสนอให้มีการลดการเก็บเงินสมทบทั้งนายจ้างลูกจ้าง เพียง 1% โดยจะต้องจ่ายเงินสมทบ 4% และเรื่องนี้ก็มีการดำเนินการที่แตกต่างจากมติของบอร์ด
"แม้บอร์ดมีอำนาจหน้าที่เพียงการเสนอแนะนโยบายแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แต่ที่ผ่านมาทุกยุคทุกสมัยก็ไม่เคยมีรัฐบาลใดดำเนินการไม่เป็นไปตามมติของบอร์ด ดังนั้น เรื่องนี้เรายังไม่รู้ว่าฝ่ายการเมืองจะรับผิดชอบอย่างไร ทั้งนี้ เงินของ สปส.ต่างจากการจ่ายเงินของกระทรวงการคลัง เนื่องจากเงิน ปส.ต้องใช้จ่ายสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณี ให้แก่ผู้ประกันตน" นายทวี กล่าว
ขณะที่ น.ส.อรุณี ศรีโต 1 ในบอร์ดฝ่ายลูกจ้าง กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ที่ไม่เอาด้วย ทั้งเรื่องปรับเพิ่มวงเงินให้ผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจาก 62% ของเงินเดือน และ 75% เพราะเงินกองทุนประกันการว่างงานกว่า 1 แสนล้านบาท เป็นเงินที่มีเจ้าของ หากใช้จนเงินหมดแล้ว ผู้ประกันตนที่ตกงานรุ่นต่อๆ ไปจะทำอย่างไร รัฐบาลจะจ่ายให้หรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมผู้แทนส่วนราชการ เช่น กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ต่างเห็นด้วย
"ถ้าจะใช้อำนาจของรัฐมนตรี ท่านก็ต้องรับผิดชอบของท่านเอง ถ้าจะปรับเพิ่มเป็น 75% รัฐจะต้องเป็นผู้จ่ายเอง เพราะเราต้องการกันเงินไว้สำหรับเจ้าของเงินในอนาคตด้วย ไม่ใช่เทใช้จนหมดเข่ง ถ้ารัฐมนตรียังดึงดันใช้อำนาจ เชื่อว่าเหล่าผู้นำแรงงานเขาไม่ยอมแน่ และต้องมีการออกมาเคลื่อนไหว" น.ส.อรุณี กล่าว
น.ส.อรุณี กล่าวว่า การพยายามผลักดันให้ผู้ประกันตนได้รับความช่วยเหลือ 75% จากมาตรการของรัฐบาลนั้น แท้จริงแล้วกลับยิ่งทำให้ลูกจ้างได้รับเงินช่วยเหลือน้อยกว่าที่ควร เพราะเพดานของเงินเดือนที่จ่ายให้กับประกันสังคมอยู่แค่ 15,000 บาท ไม่ว่าลูกคนนั้นจะมีเงินเดือนกี่หมื่นหรือกี่แสนบาทก็ตาม แต่หากใช้มาตรการของกฎหมายคุ้มครองแรงงานในมาตรา 75 ที่ระบุให้นายจ้างจ่ายเงินให้ 75% ของเงินเดือนในช่วงที่ปิดงานชั่วคราว ก็คิดจากอัตราเงินเดือนที่แท้จริง
น.ส.อรุณี กล่าวว่า ที่ประชุมบอร์ดยังได้หารือถึงกรณีทีระบบคอมพิวเตอร์สารสนเทศของ สปส.ไม่สามารถรองรับการทำงานและช่วยเหลือผู้ประกันตนว่างงานและขอรับการช่วยเหลือเนื่องจากผลกระทบจากโควิดได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเกิดปัญหาที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลให้อดีตผู้บริหารสำนักงานประกันสังคมชดใช้กว่า 500 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าให้เร่งดำเนินการระบบใหม่ที่พิจารรณาให้เร็วขึ้น และให้เร่งการจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนกว่า 8 แสนคน ที่มาลงทะเบียนไว้
อนึ่ง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แถลงข่าวว่า เตรียมเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดจาก 62% เป็น 75% พร้อมทั้งลดการเก็บเงินสมทบจากนายจ้างจาก 4% เหลือ 1% (อ่านข่าวประกอบ : เตรียมเฮ! 'หม่อมเต่า'จ่อชงครม.เพิ่มเงินช่วยเหลือลูกจ้างเป็น75% แถมลดเก็บเงินสมทบนายจ้างเหลือ1%)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี