‘บิ๊กตู่’เรตติ้งพุ่ง
ชาวบ้านชอบแก้วิกฤติไวรัส
ทั้งถูกใจในมาตรการ
ลดราคาสินค้าจำเป็น
พปชร.ยันทุกอย่างสงบ
พร้อมร่วมมือกันทำงาน
“ซูเปอร์โพล” เผยเสียงหนุนรัฐบาล “บิ๊กตู่”เพิ่มมากขึ้น หลังยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ลดลง ทั้งยังพบว่า คนมีสุขใจมาตรการลดราคาสินค้าจำเป็น แนะรัฐออกมาตรการ “ฟรีสร้างอาชีพ” สิ่งจำเป็นในการทำมาหากิน ไม่ใช่ให้รอแบมือขอเงินจากรัฐ “ธนากร”ระบุเรื่องในพปชร.ยุติแล้ว ทุกฝ่ายต่างเร่งทำงาน ทั้งถ.
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL)เปิดเผยผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง ความสุขประชาชน กับ เสียงหนุน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินการเก็บข้อมูลแบบผสมผสาน (Mixed Method) ทั้งการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ การลงพื้นที่ และการเก็บข้อมูลในโลกโซเชียลทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,105 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 5–8 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
กลัวติดเชื้อน้อยลง/มีสุขใจลดสินค้า
พบว่าร้อยละ 50.8 กังวลน้อยลงที่ตัวเองจะติดเชื้อโควิด-19 ร้อยละ 39.6 กังวลเหมือนเดิมและร้อยละ 9.6 กังวลมากขึ้น เมื่อถามถึง ความสุขประชาชน ช่วงโควิด-19พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้อยละ 97.4 สุขในครอบครัว เมื่อเห็นทุกคนในครอบครัวรักกัน ดูแลกัน สุขทุกข์ร่วมกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 94.1 สุขในชุมชน เมื่อเห็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ดูแลกันของคนในชุมชน ร้อยละ92.3 สุขเมื่อเห็นพลเมืองดี มีทัศนคติที่ดี มีวินัย ร้อยละ 91.4 สุขในสถาบัน เมื่อเห็นการช่วยเหลือดูแลประชาชนและเห็นคนไทยปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ และร้อยละ 87.6 สุขเมื่อได้ทำงานที่มั่นคง มีช่องทางทำมาหากิน ไม่ขัดสน
นอกจากนี้ มาตรการที่จะทำให้สุขใจสุขกายของประชาชน ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโควิด-19 พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.9 ระบุ มาตรการลดราคาสินค้าจำเป็น ของกิน ของใช้ รองลงมาคือ ร้อยละ 90.3 ระบุ มาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนลงอีก เพราะประชาชนทำตามมาตรการ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ และร้อยละ 90.1 ระบุ มาตรการสร้างงาน หนุนอาชีพให้คนทำมาหากินได้ ไม่ขัดสน
เชียร์ลุงตู่เพิ่มขึ้นมาก/คนชังลดฮวบ
ที่น่าสนใจคือ แนวโน้มฐานสนับสนุนของประชาชนจากจุดยืนทางการเมืองต่อรัฐบาลล่าสุด หลัง ตัวเลขผู้ติดเชื้อลด ผลสำรวจพบว่า คนสนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36.2 ช่วงขอมหาเศรษฐีช่วย มาอยู่ที่ร้อยละ 46.9 หลังยอดผู้ติดเชื้อลดลง ในขณะที่กลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาล ลดลงจาก ร้อยละ 26.6 มาอยู่ที่ร้อยละ 22.0 และกลุ่มพลังเงียบ อยู่ที่ร้อยละ 31.1ซึ่งกลุ่มพลังเงียบ ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน
แนะรัฐออกมาตรการ’ฟรีสร้างอาชีพ’
ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวเสนอแนะให้รัฐบาลออกมาตรการใหม่ชื่อ “ฟรีสร้างอาชีพ” ทำคนไทยมีเบ็ดตกปลามากกว่าเอาปลามาให้ทานอย่างเดียวจึงเสนอให้ฟรีทุกอย่างที่จำเป็นต่อการทำมาหากิน เช่น ฟรีอินเทอร์เน็ตไฮสปีด ฟรีโปรแกรมทำธุรกิจ ฟรีที่ปรึกษา ฟรีเรียนออนไลน์ ฟรีพลังงานแสงอาทิตย์ ฟรีการตลาด และอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในทางเศรษฐศาสตร์ ไม่มีของฟรีในโลก ทุกอย่างมีคนแบกภาระค่าใช้จ่ายในทุกกิจกรรม แต่ฟรีเหล่านี้เป็นตัวอย่างให้รัฐบาลคิด เข้าถึงหัวใจของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ต้องการแบมือขอเงินจากรัฐบาลอย่างเดียว พวกเขามีศักดิ์ศรีเกียรติภูมิแห่งตนเช่นกัน โดยสรุปรัฐบาลน่าจะฟรีทุกอย่างที่ทำให้ประชาชนประกอบสัมมาอาชีพ ไม่เป็นพิษต่อสังคมและตนเอง
รบ.ปลื้มสื่อญี่ปุ่นชื่นชมแก้โควิด
ด้าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์ฟูจิทีวี ประเทศญี่ปุ่น นำเสนอรายงานรัฐบาลไทยได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและไทยเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการลดจำนวนผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องว่าเป็นเพราะนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดที่ถูกทาง มีการวางมาตรการต่างๆตั้งแต่เริ่มรู้ว่าจะมีการระบาดของเชื้อ ทั้งด้านสาธารณสุข การให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบต่างๆจนสามารถนำไปสู่การผ่อนปรนมาตรการระยะที่1และกำลังพิจารณาจะผ่อนปรนมาตรการระยะที่2ในวันที่17พ.ค.นี้เพิ่มเติมอีกขั้นหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนได้ผ่อนคลายในวิถีชีวิตและเริ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ
ขอทุกคนร่วมมือ-อดทนอีกไม่นาน
“แต่ทั้งนี้รัฐบาล ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเพียงฝ่ายเดียวได้ เพราะสถานการณ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้ เกิดจากร่วมมือร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วน และจากพี่น้องประชาชนที่สามัคคีช่วยกันเป็นอย่างดีที่ได้พร้อมใจปฏิบัติตัวตามมาตรการของรัฐอย่างเคร่งครัดทั้งการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือบ่อย ๆ การรักษาระยะห่างทางสังคม รวมถึงการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” นายสุภรณ์ กล่าว
นายสุภรณ์ กล่าวว่านอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาของรัฐบาล แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง แต่นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้ปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นอีก และไม่กลับมาระบาดอีก เมื่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเกิดความมั่นใจว่าเชื้อไวรัสโควิดไม่มีการแพร่ระบาด จนมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว รัฐบาล ก็จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อย่างแน่นอน ขอทุกคนอดทนอีกไม่นาน ให้ปรับวิถีชีวิตไปกับการสู้โรคร้ายไวรัสนี้ไปด้วยกันอีกสักระยะ ในที่สุดประเทศไทยจะชนะอย่างเบ็ดเสร็จ และพี่น้องประชาชนชาวไทยจะกลับมามีชีวิตอย่างปกติสุขเช่นเดิม
พปชร.ปัดแกนนำรบ.พูดขัดแย้งกันเอง
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม เรียกนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐเข้าพบเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโดยนายอุตตมระบุว่าเพื่อหารือเรื่องมาตรการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19รวมทั้งนายกฯได้ให้กำลังใจและชี้แนะว่าเรื่องของพรรคน่าจะเรียบร้อยได้ด้วยการหารือ ส่วนงานที่ทำอยู่ขณะนี้ให้ทำต่อไปทำด้านไหนอยู่ก็ทำด้านนั้นต่อไปทั้งในรัฐบาลและในพรรค
แต่ที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกลับให้สัมภาษณ์ว่านายกฯไม่ได้พูดหรือหารือเรื่องการเมืองแต่อย่างใดว่าตนได้สอบถามนายอุตตมแล้วซึ่งโดยนายอุตตมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านเคยให้สัมภาษณ์ไป หากไม่เชื่อคำให้สัมภาษณ์ของนายอุตตมที่เป็นคนที่นั่งหารือร่วมกับนายกฯ แล้วจะให้เชื่อคำพูดของใคร นายอุตตมเป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมาไม่ใช่นักการเมืองอาชีพ แต่เป็นนักการเมืองด้วยจิตวิญญาณแห่งการรับใช้ประชาชนเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองและมีความน่าเชื่อถือ ที่ผ่านมามุ่งทำงานอย่างหนักเคียงข้างนายกฯในการช่วยเหลือประชาชนคนไทยมาตลอด
ยันในพรรคจบแล้ว-ขอลุยแก้ปัญหา
นายธนกรกล่าวต่อว่า หากฟังการให้สัมภาษณ์ของนางนฤมลให้ดี จะพบว่านางนฤมลระบุเพียงว่าได้สอบถาม นายกฯถึงการหารือดังกล่าวว่าเป็นการสอบถามถึงเรื่องการเยียวยาของกระทรวงการคลังและ เรื่องการปรับลดค่าไฟฟ้าในส่วนของกระทรวงพลังงาน เพื่อลดภาระของประชาชนในช่วงวิกฤติโควิด-19 และนายกฯจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่มีคำพูดไหนเลยที่ นางนฤมล ระบุว่าไม่ได้มีการหารือกันเรื่องการเมือง จึงน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนมากกว่า ไม่ใช่การพูดไม่ตรงกัน หรือว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโกหก”
“จริงๆแล้วเรื่องนี้มันจบไปหลายวันแล้ว คำพูดที่นายอุตตมพูดก็ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ต้องแปลอะไรอีก เพราะท่านนายกฯให้กำลังใจและบอกว่า อะไรที่ทำอยู่ตอนนี้ก็ให้ทำต่อไป ทั้งเรื่องในรัฐบาลและเรื่องในพรรค เพราะฉะนั้นทุกอย่างจึงจบแล้ว นอกจากนี้ เมื่อนายกฯ ชี้แนะว่าเรื่องของพรรคน่าจะเรียบร้อยได้ด้วยการหารือกันอย่างใกล้ชิดนั้น เชื่อว่าปัญหาความสับสนเรื่องการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็คงจะยุติลงได้แล้ว เพราะผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคเอง ก็มีการปรึกษาหารือกันเป็นระยะๆอยู่แล้วอีกทั้ง ขณะนี้ทุกฝ่ายพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตโควิด-19 รัฐบาลมีปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่รอให้เร่งเข้าไปดำเนินการแก้ไขอยู่ ขณะที่นายอุตตม เองก็เร่งทำงานเพื่อช่วยเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักอยู่ทุกวันตามที่นายกฯมอบหมายให้”นายธนกร ย้ำ
เทพไทแจงไม่ลงชื่อเปิดสภาวิสามัญ
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ facebook live ที่ศูนย์เรียนรู้ประชาธิปไตย บ้านสำนักขัน อ.จุฬาภรณ์ กล่าวแนะนำเพื่อนสส.ได้ทำหน้าที่ ลงพื้นที่ ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และรวบรวมข้อมูลทั้งหมด มาประกอบการอภิปราย พ.ร.ก.เงินกู้ของรัฐบาล ที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรทันที เมื่อเปิดสมัยประชุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งยืนยันว่า มีความพร้อมในการอภิปรายแสดงความเห็นและข้อเสนอแนะต่อ พ.ร.ก.เงินกู้ของรัฐบาลทั้ง 3 ฉบับ และเห็นว่าการใช้เวทีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร แก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน เป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกฝ่ายควรให้การสนับสนุน และให้ความสำคัญ เพื่อไม่ให้การเมืองไทยเดินเข้าสู่ทางตัน หรือไม่มีทางออก หรือใช้เวทีชุมนุมตามท้องถนนเพื่อเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อาจจะทำให้อำนาจนอกระบบ ฉวยโอกาสเข้าแทรกแซง ทำลายประชาธิปไตยของประเทศได้จึงอยากจะให้ทุกฝ่ายได้เห็นความสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย และเชื่อมั่นระบบรัฐสภาในการแก้ปัญหาประชาชนและประเทศชาติให้มากที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี