ฝ่ายค้านโวยวิปรัฐบาลให้เวลาสภาฯแค่ 3 วันพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้าน ยันถ้ารวมพ.ร.บ.โอนงบ’63 ด้วยต้องใช้เวลาถึง 10 วัน อ้างเป็นเงินกู้ที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวถึงการกำหนดการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาทว่า ได้มีการหารือเบื้องต้นแล้ว จะมีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ จำนวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจากการประเมินคิดว่าจะมีผู้อภิปรายเป็ยจำนวนมากจึงจะมีการนำพ.ร.ก.ทั้ง 3 ฉบับ มารวมอภิปรายไปพร้อมกันในคราวเดียวเพื่อความรวดเร็วและกระชับ เพราะถือว่า เป็นเรื่องเดียวกัน
นายอัครเดช กล่าวว่า สำหรับแนวทางการประชุมสภาฯตลอดทั้ง 3 วันนั้น เบื้องต้นคาดว่า จะมีการเริ่มประชุมตั้งแต่เช้าทุกวัน ขณะที่เรื่องการแบ่งเวลาการอภิปรายนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะต้องนำเข้าหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมดของวิปรัฐบาลนำเสนอนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรก่อนที่จะนำเข้าสู่ที่ประชุมวิปสภาผู้แทนราษฎรที่มีตัวแทนของวิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน หาข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนข้อเรียกร้องให้มีการยกเลิกพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น แม้ตนจะยังเห็นด้วยกับการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เพื่อควบคุมสถานการณ์ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่อยากให้มีการพิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวหรือคำสั่งห้ามออกนอกเคหะสถาน แม้วันนี้จะลดเวลาลงไป 1 ชั่วโมง เป็นจาก 23.00-04.00 น. แล้วแต่เราจำเป็นต้องรีสตาร์ทการกอบกู้เศรษฐกิจ สร้างบรรยากาศการใช้ชีวิตของประชาชนให้กับมาเป็นปกติอีกครั้งหนึ่ง เพราะบางธุรกิจจำเป็นต้องทำงานกลางคืนแต่ผลจากมาตรการล็อกดาวน์ได้ทำให้ตอนนี้เกิดเป็นปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ถือเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก
"ขณะนี้เราสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ของไวรัสโควิด-19 ได้ดีพอสมควรแล้ว การยังคงเคอร์ฟิวไว้ทำให้ไม่สามารถการขับเคลื่อนฟื้นฟูทางเศรษฐกิจทำได้เต็มที่ จึงคิดว่า วันนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะมีการพิจารณายกเลิก เพราะถ้าหากช้ากว่านี้อาจส่งผลกระทบกับประชาชนมากขึ้นไปอีกสถานการณ์จากนี้คงไว้เพียงแต่พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับการควบคุมก็น่าจะเพียงพอแล้ว"นายอัครเดช กล่าว
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมพรรคฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนคิดว่า ระยะเวลา 3 วันที่ต้องพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ รวมไปถึง พ.ร.ก.ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ อีก 1 ฉบับด้วยนั้น คงไม่เพียงพอ และที่สำคัญการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ จำเป็นต้องแยกพิจารณารายฉบับ เพราะเนื้อหาแต่ละฉบับมีความเป็นเอกเทศ และมีความสำคัญในตัวเอง จะตีขลุมรวมเป็นก้อนเดียวเพื่อพิจารณาไม่ได้
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่สำคัญที่สุดวงเงินกู้คราวนี้สูงถึง 1.9 ล้านล้านบาท ถือว่า เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงอยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้างเพราะเมื่อการพิจารณาพ.ร.ก.ไม่สามารถตั้งกมธ.ขึ้นมาพิจารณาได้ ก็ให้ควรโอกาสฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เพราะถือเงินจำนวนมาก ประชาชนต้องการเห็นรายละเอียดว่า รัฐบาลจะเอาเงินไปใช้จ่ายทำอะไรบ้าง ซึ่งตนมองว่ากฏหมายที่เกี่ยวกับการแก้ไขโควิด-19 ที่กำลังจะเข้าสภานั้น ทั้งพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ รวมไปถึงร่างพ.ร.บ.โอนเงินประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 นั้น ต้องให้เวลาสภาฯพิจารณารวมกัน 10 วัน
"แม้จะบอกว่า พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ไปแล้ว สภาฯมีหน้าที่อนุมัติเท่านั้น แต่ผมเห็นว่า ยิ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วก็ควรให้เวลากับสภาฯให้มาก และหากมีการใช้โอกาสนี้เสนอให้พิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ แบบสามวาระรวดในวันเดียวจริง ฝ่ายค้านก็จำเป็นต้องคัดค้าน"ส.ส.ฝ่ายค้านผู้นี้ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี