‘เกียรติ’ชี้โควิดมหาวิกฤติ100ปี กังวลพรก.กู้เยอะ ไม่แจงที่มา ย้ำกระสุนจำกัด ทุกนัดต้องเข้าเป้า
28 พฤษภาคม 2563 ที่รัฐสภา นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย พ.ร.ก. 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ.2563 , พ.ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 และ พ.ร.ก.การรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. 2563 ว่า พ.ร.ก. ทั้ง 3 ฉบับออกแบบมาแก้วิกฤติผลกระทบโควิดที่รุนแรงที่สุด ถือเป็นมหาวิกฤติ ในรอบ 100 ปี โจทย์สำคัญคือทำให้คนไทยไม่สิ้นหวัง เศรษฐกิจพลิกฟื้นเร็วที่สุด โดยองค์การการค้าโลก ประเมินว่า ประเทศพัฒนาแล้ว เศรษฐกิจเฉลี่ย ติดลบ 15% ส่วนประเทศกำลังพัฒนาจะติดลบ 8-10% แต่ไทยจะหนักกว่า เพราะเราพึ่งการส่งออกไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ไทยเราคงจะหนักกว่าประเทศกำลังพัฒนาทั่วไป
นายเกียรติ อภิปรายอีกว่า ส่วนการออก พ.ร.ก. และวงเงินเห็นด้วยว่าจำเป็น และมองว่าอาจจะไม่พอ อีกทั้งมีข้อกังวล คือ กู้เยอะ รายละเอียดน้อย ปัญหาเยอะ รัฐบาลไม่ได้ชี้แจงแหล่งที่มาเงินกู้ตามที่ พ.ร.ก.กำหนดว่าต้องบอกให้ชัด ส่วน พ.ร.ก.ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย 2 ฉบับ รวม 9 แสนล้าน ที่บอกว่าใช้สภาพคล่องในระบบ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าใช้วิธีไหน ถ้าจะใช้ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศก็ต้องไปทำให้ถูกกฎหมาย หรือใช้สภาพคล่องที่อยู่ในสถาบันการเงิน คือ การช่วยธนาคารด้วยการดูดเงินของธนาคารมารับผิดชอบแล้วเอากลับปล่อยให้ธนาคารไปดูแลลูกหนี้ธนาคารผู้ออกพันธบัตรหรือไม่
ส่วนเงินฟื้นฟู 4 แสนล้านก็ไม่มีรายละเอียด จนเมื่อวานมีการมีการพูดถึง โครงการเกษตรสร้างสรรค์, เกษตรกรอัจฉริยะ, การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ พวกนี้ควรสนับสนุนโดยใช้งบประมาณปกติไม่ใช่ พ.ร.ก.ฉบับนี้ ความเข้าใจของภาคเอกชนคือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เพิ่งเยียวยาและออกจากโคม่า ต้องช่วยทำให้เข้าแข็งแรง ซึ่งตนขอประเมินธุรกิจว่ามี 3 แบบ ตามระยะเวลาฟื้นตัว คือ 1. กลุ่มฟื้นแบบ V - Shape ฟื้นตัวเร็วภายใน 3 เดือน จ้างงานคนรวม 4.8 ล้านคน เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โรงพยาบาล คลินิก 2.กลุ่มฟื้นแบบ U - Shape ฟื้นตัวในช่วง 3-6 เดือน จ้างงานคนรวม 6.4 ล้านคน เช่น การบริหารธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง, เครื่องจักรกล 3.กลุ่มฟื้นแบบ L - Shape ใช้เวลามากกว่า 6 เดือน จ้างงานคนรวม 5 ล้านคน เช่น ร้านอาหาร, ยานยนต์และชิ้นส่วน, อสังหาริมทรัพย์, สินค้าแฟชั่น, โรงแรม, ธุรกิจบันเทิงและการกีฬา กลุ่มแรกเยียวยาแล้วคงอยู่ได้ ส่วน 2 กลุ่มหลัง ทุกคนคาดหวังว่า 4 แสนล้านอย่างน้อยที่สุดจะดูแล 2 กลุ่มหลังนี้ แต่ที่อธิบายมากลับเป็นเรื่องอื่นทำให้ตนกังวลเป็นพิเศษ
นายเกียรติ กล่าวถึง การประเมินเศรฐกิจไทยในปีนี้ ทุกสำนักของไทยยังคิดบวกเกินไปจากการประเมินว่า เศรษฐกิจจะติดลบ 8-10% ส่วนกระทรวงการคลัง แจ้งมาเฉยเลยว่างดแถลงจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ จะหยุดทำงานอีก 2 ปีเลยหรือ ดังนั้น ถ้าประเมินจากคาดการณ์ปริมาณการซื้อขายสินค้าทั่วโลก ถ้ามองลบจะติดลบ 30% ถ้ามองบวกจะติดลบ 10% ถ้าจะคิดไว้ว่าติดลบ 20% ได้ไหม เพราะถ้าคิดบวกเกินไปเงินเราจะไม่พอ การคาดหวังว่า นักท่องเที่ยวจีนจะกลับมา มีการประเมินว่าปีหน้าจะกลับมาอย่างมากแค่ 30% สงครามการค้าจะรุนแรงมากขึ้นก็ยังไม่ได้รวมในสมมติฐานของรัฐบาล
“ในฐานะที่ผ่านวิกฤติมาทั้ง 2 ครั้ง ทั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและเป็นประธานผู้แทนการค้าไทย ตนถือกฎเหล็ก แก้วิกฤติต้องคิดลบ พร้อมสยบทุกปัญหา, กระสุนมีจำกัด ทุกทุกนัดต้องเข้าเป้า, คอร์รัปชั่นต้องป้องกัน ไม่ใช่ลั่นว่าไม่มีการทุจริต” นายเกียรติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี