วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง เขียนบทความ "พรก.ฉุกเฉิน มีได้-มีเสีย" เผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว แสดงความเป็นห่วงว่าแม้รัฐบาลจะทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่ในความเป็นจริงสถานที่หลายแห่ง เช่น ห้างสรรพสินค้า แทบไม่มีคนไปใช้บริการ ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะเพิ่มจำนวนคนตกงาน ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หามาตรการเรียกความเชื่อมั่นให้ผู้คนกล้าออกมาใช้จ่ายเพื่อพยุงเศรษฐกิจไว้ ดังนี้..
รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือน ไปถึงสิ้น มิ.ย. นั้น นับว่ามีได้-มีเสีย ได้วันนี้-เสียวันหน้า
ประเทศส่วนใหญ่เอาชนะการแพร่เชื้อโควิดด้วยมาตรการล็อคดาวน์ เข้มบ้างอ่อนบ้าง แล้วชดเชยเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในช่วงล็อคดาวน์
บัดนี้ ประเทศในซีกโลกด้านเหนือกำลังทยอยออกจากล็อคดาวน์ เข้าสู่สังคมชีวิตเศรษฐกิจ new normal แต่กำลังเผชิญกับปัญหาวิกฤตอีกด้านหนึ่ง คือด้านเศรษฐกิจ
ทั่วโลกจับตาจีน เพราะเป็นประเทศแรกที่คลายล็อคดาวน์
จีนพบว่าบางกิจกรรมกลับไปได้เพียง 40-50% เช่น การเดินห้าง การพักโรงแรม ส่วนการบินกลับไปเพียง 20%
นักวิเคราะห์เรียกสภาวะนี้โดยรวมว่า 90% economy
แต่หลายประเทศพบว่า 90% economy ก่อปัญหาบางอย่างมากกว่าที่คิด
จำนวนลูกค้าที่เดินห้างซื้อสินค้าจริงน้อยมาก และการจับจ่ายใช้สอยกินอาหารและท่องเที่ยวชะลอตัวลง
หลายร้านค้าปลีกเล็กๆ ที่เปิดกิจการภายหลังจากล็อคดาวน์ จะพบว่ายอดขายต่ำ ไม่พอค่าใช้จ่าย และถ้าเป็นเช่นนี้ไปอีก 2-3 เดือน เงินสำรองก็จะหมด จะต้องปิดกิจการ
คลิปที่ส่งมาตามไลน์ระบุว่าจำนวนลูกค้าที่เดินเข้ามาบุญครอง ลดลง 90% (แต่สัดส่วนสูงผิดปกติเพราะเป็นจุดที่อาศัยนักท่องเที่ยวเป็นหลัก)
และเมื่อร้านค้าปลีกเล็กๆ ปิดกิจการจำนวนมาก พนักงานและลูกจ้างที่เดิมเข้าใจว่าการล็อคดาวน์เป็นเรื่องชั่วคราว ก็จะตระหนักว่าเป็นตกงานถาวรไปเสียแล้ว
ผลสำรวจของทีดีอาร์ไอในลิงค์ข้างล่าง แสดงชัดเจนว่าประชาชนยังกังวลเรื่องอนาคต และร้านค้าปลีกที่ปิดตัว จะส่งผลกระทบออกไปเป็นลูกโซ่
ทั้งนี้ ผมได้ฟังพลเอกประยุทธ์แถลงขอให้ทุกฝ่ายยุติเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยท่านเน้นว่า ก็รัฐบาลพยายามช่วยอยู่แล้ว ด้วยการแจกเงิน 5,000 บาท
แต่ไม่มีรัฐบาลใดที่สามารถเลี้ยงประชาชนไปได้เรื่อยๆ โดยไม่ล้มละลาย
ทุกรัฐบาลจะต้องเร่งเปิดช่องทางให้ประชาชนหารายได้เลี้ยงตัวเองเป็นสำคัญ
วิธีทำให้ 90% economy กระทบการจ้างงานน้อยที่สุด คือรัฐควรจะสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย
ควรจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า ตราบใดที่การ์ดไม่ตก และตราบใดที่ยึด social distancing ระบบสาธารณสุขของไทยรับมือได้
รัฐควรกระตุ้นให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิต 90% normal กล้าเดินห้าง กล้านั่งในร้านอาหาร กล้าเที่ยวในไทย กล้าใช้เงินเพื่อให้หมุนเวียน ทำให้ค่าใช้จ่ายของคนหนึ่ง หมุนเวียนไปเป็นรายได้ของอีกคนหนึ่ง
พรก.ฉุกเฉินฯ แทนที่จะทำให้เกิดความกล้าใช้เงิน หรือเที่ยวไทย กลับทำให้คนเกร็ง
ดังนั้น ในวันนี้ ถึงแม้อาจจะมีผลได้ในเชิงป้องกันการแพร่ระบาด และผลได้ในทางการเมือง สามารถป้องปราม flash mob ได้ด้วย
แต่ในวันหน้า จะมีคนจำนวนมากตกงานอย่างถาวร ทั้งระดับแรงงาน ระดับออฟฟิซ ระดับเจ้าของร้าน คนรุ่นใหม่ที่เรียนจบหางานไม่ได้ คนที่เพิ่มเริ่มตั้งครอบครัวจะไม่สามารถผ่อนรถผ่อนบ้าน
เมื่อถึงวันนั้น คนจะกลับไปนึกถึง การที่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์กอด พรก.ฉุกเฉินเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ซึ่งน่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกกระมัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี