เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ที่รัฐสภา นายวรพล แกมขุนทด นายกสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ พร้อมตัวแทนจากสมาคมวิชาชีพผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่ ยื่นหนังสือต่อ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ในฐานะตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อร้องเรียนขอรับการช่วยเหลือ
โดย นายวรพล กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ และผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะแท็กซี่เป็นจำนวนมาก และประสบปัญหาไม่ได้รับการดูแล และสนับสนุนจากภาครัฐเท่าที่ควร ดังนั้น เราจึงมายื่นข้อเรียกร้องผ่านฝ่ายค้าน เพื่อขอรับการช่วยเหลือ และขอทราบแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง โดยมีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.ต่ออายุรถแท็กซี่ จาก 9 ปี เป็น 12 ปี เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการที่ผ่อนรถยนต์แท็กซี่กับบริษัทไฟแนนท์ต่างๆ หากว่ารถแท็กซี่ได้ขยายอายุจาก 9 ปี เป็น 12 ปี ทางแท็กซี่เองก็จะมีกำไรในช่วงอีก 3 ปีสุดท้าย เพื่อที่จะได้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป 2.ให้ยกเลิกระบบแท็กซี่โอเค และอุปกรณ์ของแท็กซี่โอเค ที่ไม่เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการ และยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 3.ให้ยกเลิกการประกาศใช้กฎหมายให้รถป้ายดำ หรือรถยนต์ส่วนบุคคล มาวิ่งรับจ้างแข่งขันกับรถแท็กซี่ป้ายเหลือง
4.ให้กระทรวงพลังงานออกบัตรส่วนลดให้กับคนขับแท็กซี่เพิ่มเติม โดยเฉพาะราคาก๊าซ และ 5.ให้ปรับราคาค่าโดยสารเพื่อให้สะท้อนต้นทุนของคนขับแท็กซี่ในปัจจุบัน เพราะราคามิเตอร์ที่ใช้ในปัจจุบัน เป็นการกำหนดราคาที่ใช้มายาวนาน ซึ่งในช่วงที่กำหนดราคานั้น ต้นทุนเชื้อเพลิง และค่าครองชีพมีราคาต่ำกว่าปัจจุบันมาก นอกจากนี้ ราคาที่กำหนดไม่สะท้อนต่อรายได้และรายจ่ายที่เปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทำให้ผู้ประกอบการมีรายได้รวมต่ำกว่ารายได้ขั้นต่ำที่รัฐบาลกำหนด
ด้าน นายจิรายุ กล่าวว่า ตนจะนำเรื่องนี้ไปอภิปราย และนำเสนอนายกฯ ในช่วงเย็นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี