เมื่อเวลา 15.30 น. พฤษภาคม 2563 ที่อาคารรัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และคณะ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายเทพไท เสนพงศ์, นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ แถลงขอยื่นเรื่องถึงประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตั้งญัตติ เรื่อง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากการกู้เงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
นายสาทิตย์ เปิดเผยว่า เงินกู้ดังกล่าวมีจำนวน 1 ล้านล้านบาท ถึงแม้จะมีบัญชีแนบท้ายกำหนดกรอบไว้กว้าง ๆ แต่ไม่มีรายละเอียดของโครงการ อีกทั้งเมื่อได้รับฟังการชี้แจงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเพราะเป็นภาวะฉุกเฉินที่จำเป็นเร่งด่วน ต้องใช้จ่ายเงินด้วยความรวดเร็ว จึงมีเวลาในการใชนำเสนอโครงการและระยะเวลากลั่นกรองก่อนพิจารณาอนุมัติน้อย โดยเฉพาะใน 4 ข้อที่แนบท้าย ไม่มีรายละเอียดใดเลย จึงเป็นห่วงว่าการกู้เงินจำนวนมากขนาดนี้ อาจจะนำไปสู่ปัญหาการใช้จ่ายที่ไม่ตรงวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ไม่โปร่งใส มีการรั่วไหล จะยิ่งเป็นการสร้างความเสียหายเสมือนเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชนคนไทยมากยิ่งขึ้น
“เพราะทราบว่า มีการเร่งรัดจัดทำนโยบายโดยให้กระทรวงมหาดไทยสั่งถึงทุกจังหวัดให้เร่งทำโครงการขอเบิกงบเงินกู้จำนวน 4 แสนล้าน จาก 1 ล้านล้านบาท ในพ.ร.ก.ฉบับแรก เนื่องจากยังมีเวลาจำกัดแค่ 30 วัน ที่จะเสนอเรื่องเข้ามาถึงส่วนกลาง ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการฮั้วระหว่างผู้รับเหมา กับผู้มีอำนาจแต่ละจังหวัดจะเกิดขึ้นได้ง่าย แม้จะมีการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องว่าในงบ 4 แสนล้านนี้ อาจจะมีการให้เสนอโครงการมาเป็นรอบๆ โดยรอบหลังๆ จะให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมด้วย แต่ไม่มีรายละเอียดว่าภาคประชาสังคมที่อ้างนั้นเป็นใคร จากไหน ฝ่ายไหน และเสนออะไร เหตุนี้จึงขอให้มีการตั้งคณะกมธ.วิสามัญฯ เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวให้มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และการใช้จ่ายที่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้เกิดการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ จึงขอเสนอญัตตินี้ให้ตั้ง กมธ.ชุดนี้ขึ้น ซึ่งในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ และได้แจ้งต่อประธานวิปรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งเขาขอเวลาที่จะนำเรื่องนี้หารือกับผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้คำตอบในวันที่ 31 พ.ค. จะมีท่าทีที่ชัดเจนขึ้น นายสาทิตย์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากท่าทีของประธานวิปรัฐบาลและฝ่ายบริหารแสดงท่าทีไม่อยากให้ตั้ง กมธ.ชุดนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีการพูดคุยกันแล้ว การใช้เงินกู้จำนวนมหาศาล 4 แสนล้าน หารแล้วเฉลี่ยได้จังหวัดละ 5 พันกว่าล้าน ถือว่าเป็นงบที่สูงมาก จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและที่เสนอก็เมื่อจังหวัดต่างๆ ทำโครงการเข้ามาก็ต้องผ่าน กมธ.เพื่อช่วยตรวจสอบ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ช่วยรัฐบาลในการทำงาน
เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยจะทำอย่างไรต่อไปในการตั้งกมธ.ชุดนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ยังมีเวลาคิดอีก 3-4 วันและส่วนตัวคิดว่าเขาคงจะไม่ปฎิเสธข้อเสนอนี้ในทันที คงไม่มีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อส.ส.ผู้ขอเสนอญัตติมีส.ส.ประชาธิปัตย์ 6 คน นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายประกอบ รัตนพันธ์ นายเทพไท เสนพงศ์ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและมี ส.ส. สนับสนุนอีก 20 คน อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ และนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘สมศักดิ์’ลั่นไม่จำเป็นตั้งกมธ.วิสามัญงบโควิด อ้างสอดคล้องรธน.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :‘สุชาติ’ค้านตั้งกมธ.วิสามัญสอบงบโควิด ชี้สิ้นเปลืองซ้ำซ้อนกมธ.สามัญ35คณะ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี