'ปชป.'หักดิบ'พปชร.'! ชิงล่าชื่อส.ส.ชงตั้งกมธฯ ตรวจสอบเงินกู้สู้โควิด-19

'ปชป.'หักดิบ'พปชร.'! ชิงล่าชื่อส.ส.ชงตั้งกมธฯ ตรวจสอบเงินกู้สู้โควิด-19

วันเสาร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 16.43 น.

เมื่อเวลา 15.30 น. พฤษภาคม 2563 ที่อาคารรัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ และคณะ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายเทพไท เสนพงศ์, นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ แถลงขอยื่นเรื่องถึงประธานสภาฯ เพื่อขอให้ตั้งญัตติ เรื่อง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตาม ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจากการกู้เงินตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

นายสาทิตย์ เปิดเผยว่า เงินกู้ดังกล่าวมีจำนวน 1 ล้านล้านบาท ถึงแม้จะมีบัญชีแนบท้ายกำหนดกรอบไว้กว้าง ๆ แต่ไม่มีรายละเอียดของโครงการ อีกทั้งเมื่อได้รับฟังการชี้แจงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเพราะเป็นภาวะฉุกเฉินที่จำเป็นเร่งด่วน ต้องใช้จ่ายเงินด้วยความรวดเร็ว จึงมีเวลาในการใชนำเสนอโครงการและระยะเวลากลั่นกรองก่อนพิจารณาอนุมัติน้อย โดยเฉพาะใน 4 ข้อที่แนบท้าย ไม่มีรายละเอียดใดเลย จึงเป็นห่วงว่าการกู้เงินจำนวนมากขนาดนี้ อาจจะนำไปสู่ปัญหาการใช้จ่ายที่ไม่ตรงวัตถุประสงค์ เป้าหมาย ไม่โปร่งใส มีการรั่วไหล จะยิ่งเป็นการสร้างความเสียหายเสมือนเป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชนคนไทยมากยิ่งขึ้น


“เพราะทราบว่า มีการเร่งรัดจัดทำนโยบายโดยให้กระทรวงมหาดไทยสั่งถึงทุกจังหวัดให้เร่งทำโครงการขอเบิกงบเงินกู้จำนวน 4 แสนล้าน จาก 1 ล้านล้านบาท ในพ.ร.ก.ฉบับแรก เนื่องจากยังมีเวลาจำกัดแค่ 30 วัน ที่จะเสนอเรื่องเข้ามาถึงส่วนกลาง ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดการฮั้วระหว่างผู้รับเหมา กับผู้มีอำนาจแต่ละจังหวัดจะเกิดขึ้นได้ง่าย แม้จะมีการชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องว่าในงบ 4 แสนล้านนี้ อาจจะมีการให้เสนอโครงการมาเป็นรอบๆ โดยรอบหลังๆ จะให้ภาคประชาสังคมมีส่วนร่วมด้วย แต่ไม่มีรายละเอียดว่าภาคประชาสังคมที่อ้างนั้นเป็นใคร จากไหน ฝ่ายไหน และเสนออะไร เหตุนี้จึงขอให้มีการตั้งคณะกมธ.วิสามัญฯ เพื่อตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกู้ดังกล่าวให้มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ และการใช้จ่ายที่บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้เกิดการจ้างงานประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างรายได้ จึงขอเสนอญัตตินี้ให้ตั้ง กมธ.ชุดนี้ขึ้น ซึ่งในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส.ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ และได้แจ้งต่อประธานวิปรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งเขาขอเวลาที่จะนำเรื่องนี้หารือกับผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้คำตอบในวันที่ 31 พ.ค. จะมีท่าทีที่ชัดเจนขึ้น นายสาทิตย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากท่าทีของประธานวิปรัฐบาลและฝ่ายบริหารแสดงท่าทีไม่อยากให้ตั้ง กมธ.ชุดนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีการพูดคุยกันแล้ว การใช้เงินกู้จำนวนมหาศาล 4 แสนล้าน หารแล้วเฉลี่ยได้จังหวัดละ 5 พันกว่าล้าน ถือว่าเป็นงบที่สูงมาก จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและที่เสนอก็เมื่อจังหวัดต่างๆ ทำโครงการเข้ามาก็ต้องผ่าน กมธ.เพื่อช่วยตรวจสอบ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นข้อเสนอที่ช่วยรัฐบาลในการทำงาน

เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยจะทำอย่างไรต่อไปในการตั้งกมธ.ชุดนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ยังมีเวลาคิดอีก 3-4 วันและส่วนตัวคิดว่าเขาคงจะไม่ปฎิเสธข้อเสนอนี้ในทันที คงไม่มีปัญหาอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อส.ส.ผู้ขอเสนอญัตติมีส.ส.ประชาธิปัตย์ 6 คน นำโดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายประกอบ รัตนพันธ์ นายเทพไท เสนพงศ์ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและมี ส.ส. สนับสนุนอีก 20 คน อาทิ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ และนางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘สมศักดิ์’ลั่นไม่จำเป็นตั้งกมธ.วิสามัญงบโควิด อ้างสอดคล้องรธน.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :‘สุชาติ’ค้านตั้งกมธ.วิสามัญสอบงบโควิด ชี้สิ้นเปลืองซ้ำซ้อนกมธ.สามัญ35คณะ

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top