“บิ๊กตู่” ย้ำ ต่อพรก.ฉุกเฉินไม่ได้ใช้อำนาจปิดกั้นประชาชน ลั่น ใครอยากชุมนุม ต้องขออนุญาต ตามพรบ.ชุมนุมฯ ชี้ตัวเองไม่เดินนอกกฎหมาย เตือนเจ้าของอ่าง ระวัง อย่าแอบค้าประเวณี ลั่นหากพบต้องถูกลงโทษ ยัน รัฐบาลไม่แช่แข็งเศรษฐกิจประเทศ อ้างทั่วโลกวิกฤติเหมือนกัน เตือนคนไทยอย่าประมาท หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อย บอกทั่วโลกยังวิกฤติ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกรณีการออกมาคัดค้านที่รัฐบาลขยายเวลาการประกาศใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พรก.ฉุกเฉิน) เพื่อคุมสถานการณ์โควิด-19 ว่า ตนไม่ขอตอบ เพราะมีเหตุผลความจำเป็นอยู่แล้ว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ปิดกั้นประชาชนเลย ประชาชนจะชุมนุมก็ไปขออนุญาตชุมนุมตาม พ.ร.บ.การชุมนุม ในส่วนตรงนี้ ไม่ต้องการให้คนไปรวมกลุ่มกันจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด ซึ่งก็แล้วแต่พวกท่าน จะกลัวหรือไม่กลัวก็ไม่รู้ ตนไม่ได้ไปขู่อะไรอยู่แล้ว ขอให้เข้าใจถึงเจตนารมณ์ของการใช้กฎหมายด้วย ตนพร้อมรับฟังทุกเรื่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี การผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5 ที่อนุญาตให้ เปิดกิจการอาบ อบ นวด ได้แต่ห้ามค้าประเวณี มีการตั้งข้อสังเกต ว่าจะสามารถปฏิบัติได้จริงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตรงนี้ต้องคำนึงถึงว่าจะสร้างความสมดุลได้อย่างไร กับภาคเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ ผู้รับบริการ และผู้ที่อยู่ในห่วงโซ่อาชีพเหล่านี้ ส่วนเรื่องการห้ามค้าประเวณี ที่สังคมมีการตั้งข้อสังเกตว่าจะปฏิบัติได้จริงหรือไม่นั้น คงต้องไปตรวจบ้าง ในสถานที่ก็ขอให้ระมัดระวังก็แล้วกัน ถ้าถูกจับได้ก็ต้องถูกลงโทษ เพราะถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการ และกฎหมายการห้ามค้าประเวณีมีอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่คนปฏิบัติทั้งสิ้น กฎหมายมีทุกตัวแล้วทำไมต้องเพิ่มภาระเจ้าหน้าที่ให้ไปตรวจอีก ถ้าเรารู้จักว่าจะต้องทำตัวอย่างไรในช่วงนี้ก็ต้องระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด เพราะการผ่อนคลายระยะที่ 5 เป็นความเสี่ยงสูง รัฐบาลยอมรับความเสี่ยงเหล่านี้ ซึ่งเราต้องเตรียมตัวให้พร้อมในการรับสถานการณ์ไว้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสาธารณสุข ด้านการบริการ ตรวจโรค รักษาโรค ทั้งหมดได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว เราถึงกล้าที่จะผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 5
“อยู่ที่คนเราทุกคน รู้อยู่แล้วว่าอะไรคือความเสี่ยง อะไรคืออันตราย อย่าไปเผลอลืมตัว เมื่อดื่มสุราไปแล้วก็มักจะไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้เป็นอันตรายของพวกเรา ผมเป็นห่วงทุกคน มาตรการอาจจะเยอะไปบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เป็นเพียงการเริ่มต้น ถ้ามันดี ก็จะสามารถผ่อนคลายอย่างอื่นได้อีก แต่กฎหมายปกติยังคงต้องใช้อยู่ เหมือนกับ พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งสามารถให้เจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกันได้ เพราะบางทีเป็นกฎหมายเฉพาะกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เจ้าหน้าที่ส่วนที่ทำ ไม่พอ ก็ต้องบูรณาการคนเข้าไปทำงาน ซึ่งต้องใช้กฎหมายร่วม นั่นคือ พรก.ฉุกเฉินเพื่อให้เกิดมาตรฐานเดียวกัน หลายพื้นที่อาจมองว่าตรงจุดนี้ไม่ติดเชื้อ แพร่ระบาดน้อย ไม่ควรใช้ พรก.ฉุกเฉิน แต่โอกาสจะแพร่ไปที่อื่นมันมีหรือไม่ ที่จะไปรับมาจากพื้นที่อื่น จึงต้องมีมาตรการกลางเอาไว้ ไม่ให้ก้าวล่วงซึ่งกันและกัน”
เมื่อถามว่า มองว่าการต่อ พรก.ฉุกเฉิน จะเป็นการแช่แข็งเศรษฐกิจของประเทศหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เอาอะไรมาพูดว่าเป็นการแช่แข็ง พูดอย่างนั้นคงไม่ถูกต้องมากนัก เพราะวันนี้ มีสถานการณ์โควิด-19 เป็นหลักอยู่ แล้วเสริมเพิ่มเติมจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งตนได้ดูในต่างประเทศ ว่ามีมาตรการอะไรรองรับบ้าง กับสถานการณ์โควิด ที่เกิดขึ้นทั้งการปรับลดดอกเบี้ย ลดดอกเบี้ยธนาคารกลาง เพิ่มเงินทุนหมุนเวียน ตนก็ทำแบบที่เขาทำ ไม่ได้ผิดแบบไปจากเขาเลย มีแต่รายละเอียดยิบย่อยที่เราต้องทำเพิ่มเติม หลักการสำคัญ เราทำเหมือนกับคนอื่นเขาหมด ทั้งนี้ ต้องดูพื้นฐานของเราว่าเข้มแข็งพอหรือยัง ซึ่งต้องมาจาก รวมไทยสร้างชาติ ทุกคนต้องร่วมมือกัน ช่วยกันแสดงความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์
“ผมตำหนิใครไม่ได้อยู่แล้ว ต้องรับฟังจากทุกคน ขอบคุณหลายคนที่ตั้งใจดีอยู่แล้ว แต่บางทีไม่เข้าใจกัน ก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป จนทำให้ ประเด็นสำคัญหายไปหมด หลายเรื่องด้วยความไม่เข้าใจแล้วไปพูดกันต่อ เลยทำให้วุ่นวายไปหมด หลายอย่างเราทำตามต่างประเทศไม่ได้ทั้งหมดเพราะบางประเทศมี 4-5 ล้านคน ขณะที่ของเรามี 60 กว่าล้านคน มีปาก 60 ล้านปาก นายกฯมีปากเดียว เสียงสู้ไม่ไหว”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้สถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศยังรุนแรงอยู่ ตัวเลขติดเชื้อปาเข้าไป 10 ล้านคน ตายกว่า 500,000 คน อย่าประมาท ประเทศไทยแม้ว่าจะติดเชื้อยอดรวม 3,000 กว่า ดูมันน้อย แต่หากมีการแพร่ระบาด จะทำอย่างไร ซึ่งวันนี้การตรวจสอบที่พบอยู่ในสถานที่กักกันของรัฐ แต่ก่อน 3 วัน 7 วันเจอ ตอนนี้ เข้าไปเจอในวันที่ 11 อะไรทำนองนี้ ทุกอย่างประมาทไม่ได้ ทั้งการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง การมั่วสุม ใกล้ชิดกัน หรือใช้แก้วน้ำเดียวกัน
สำหรับมาตรการที่จะออกมาหลังต่อ พรก.ฉุกเฉินในรอบนี้นั้น จะเป็นข้อกำหนดที่สอดคล้องกับกิจกรรม กิจการที่ผ่อนคลาย ข้อกำหนดบางอันยกเลิกไปและมีการเพิ่มบางส่วนเข้ามา เพื่อสุขภาพของพวกเราเองทุกคน ไม่ใช่เพื่ออำนาจตน ทุกคนมองแต่อำนาจๆๆ มันอยู่กับเราไม่นาน ถ้าเราไม่มีวิธีการทำอย่างโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งตนพยายามทำตามกฎหมาย ไม่ใช้วิธีนอกกฎหมายอยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี