"ส.ส.โคราช"เสนอของบประมาณดูแลการศึกษาในชนบท โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาที่ยังขาดคุณภาพ และปรับโครงสร้างกระทรวงที่ซ้ำซ้อน
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 นายเกษม ศุภรานนท์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 โดยเฉพาะงบประมาณในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ วงเงิน 350,000 ล้านบาท โดยเน้นไปที่ สพฐ.วงเงิน 270,000 ล้านบาท ว่า จะจัดสรรงบประมาณอย่างไรให้กับเด็ก เพื่อฟูมฟักให้เติบโตมาเป็นคนดีในสังคม
นายเกษม กล่าวว่า ตนมีโอกาสเข้าไปต้อนรับคณะผู้บริหารคณะครูชมรมอนุบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ที่ได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดภาคเรียน และเห็นว่าสามารถบริหารจัดการเรื่องต่างๆให้ดำเนินการเว้นระยะห่างทางสังคมได้เป็นอย่างดี แบ่งวิธีการเรียนการสอนโดยแบ่งครึ่งหนึ่งเรียนที่บ้าน และอีกครึ่งหนึ่งเข้าเรียนที่โรงเรียน โดยได้ทำตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างดี
นายเกษม ยังอภิปรายว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตราที่ 54 ได้ระบุเรื่องการเรียนการสอนไว้ชัดเจนว่า รัฐต้องดำเนินการเรียนการศึกษาเป็นเวลา 12 ปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพ โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดำเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลพัฒนาก่อนเข้ารับการศึกษา โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้กรมการปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะฉะนั้นกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดที่ต้องเคารพและปฏิบัติตาม การเรียนการสอนต้องมีคุณภาพและครอบคลุมพื้นที่ทุกส่วนของประเทศไทย จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่ต้องบริหารจัดการให้มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพและทั่วถึง ทุกคนต้องมีโอกาสได้เรียน
นายเกษม กล่าวว่า เหตุผลที่เน้นในเรื่อง สพฐ.เนื่องจากมีความเป็นห่วงต่อเด็กที่อาศัยอยู่ในชนบท หากสามารถพัฒนาเด็กในชนบทให้มีคุณภาพและความพร้อม จะเป็นการพัฒนาประเทศไปในตัว ดังที่กล่าวเสมอว่า บวร วัด บ้าน โรงเรียน เป็นสิ่งที่สำคัญมาก จะทำอย่างไรให้เด็กในชนบทได้มีโอกาสทางการศึกษา ให้มีความพร้อมและความสุขในการเรียนการสอน โดยมั่นใจว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปได้อีกไกล
นายเกษม ยังเสนอแนวทางการแก้ไข โดยให้กระจายไปสู่เมือง และอำเภอ ให้มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ และที่สำคัญถ้ากระจายไปสู่ระดับตำบลได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาเรียนในอำเภอหรือจังหวัด แต่หากสามารถลงไปถึงระดับหมู่บ้านได้ ก็จะมีคุณภาพมากขึ้น โดยมั่นใจว่ารัฐบาลสามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้นอกจากนี้ยังมองว่า โครงสร้างทางการศึกษามีโครงสร้างที่ซ้ำซ้อน มีผู้บังคับบัญชามาก ส่งผลให้การบริหารในอำเภอและจังหวัดไม่คล่องตัว จึงอยากเรียนฝากไปยังรัฐมนตรี จะมีวิธีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เพราะหากสามารถปรับปรุงโครงสร้างให้เป็นหนึ่งเดียว การศึกษาในประเทศไทยจะไปได้ไกลมากขึ้น
นายเกษม ยังอภิปรายถึงงบประมาณค่าใช้จ่ายรายหัวของเด็กอนุบาล และเด็กประถม โดยขอให้พิจารณาว่าเป็นจำนวนเงินที่น้อยไปหรือไม่สำหรับวางรากฐาน ดังนั้นหากมีการปรับงบประมาณอย่างเพียงพอ จะทำให้การเรียนการสอนหรือกระบวนการในการศึกษาเป็นไปได้ด้วยดี
ส่วนโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา โดยหลังจบชั้นประถมศึกษาที่ 6 จะต้องเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษาต่อ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีเงินจะเรียนต่อในตัวเมือง มีครูไม่เพียงพอ งบประมาณไม่เพียงพอ ห้องเรียนพิเศษต่างๆ ไม่เพียงพอ ซึ่งโรงเรียนขยายโอกาสมีปัญหามาก โดยปัญหาต่างๆ ดังนั้น จึงขอฝากไปยังรัฐบาลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ทั้งเรื่องงบประมาณสำหรับการศึกษาในชนบท โครงสร้างกระทรวงที่ซ้ำซ้อน และโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาที่ยังขาดคุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี