‘ดร.นิว’เชียร์‘พิธา’ปลดแอกเผด็จการธุรกิจการเมือง สลัดทิ้งร่างทรงคณะก้าวหน้า

10 กรกฎาคม 2563 ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ “ดร.นิว” นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ประเทศสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก  Suphanat Aphinyan หัวข้อ “#พิธาเลือกได้ก้าวไกลหรือก้าวสั้น” มีเนื้อหาดังนี้

#พิธาเลือกได้ก้าวไกลหรือก้าวสั้น

แม้พรรคอนาคตใหม่จะถูกยุบอันเนื่องมาจากการทำผิดกฎหมายการเงินของพรรคการเมือง และได้แตกออกเป็นพรรคก้าวไกลที่เคลื่อนไหวอยู่ในรัฐสภากับคณะก้าวหน้าที่เคลื่อนไหวคู่ขนานกันอยู่นอกรัฐสภา แต่ดูเหมือนว่าความสำคัญและกระแสของการเคลื่อนไหวหลักยังคงอยู่กับคณะก้าวหน้าที่เหล่าแกนนำถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้ว แถมยังมีคดีอาญาอันเนื่องมาจากการยุบพรรครออยู่อีก

จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งที่คุณพิธาผู้เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล และได้ทำหน้าที่ของฝ่ายค้านตลอดจนนำเสนอสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์กับสังคมผ่านรัฐสภา กลับดูเป็นรองคุณธนาธรอย่างเทียบไม่ติดเห็นได้จากการโปรโมทที่สู้คุณธนาธรไม่ได้เลย

ล่าสุดแค่คุณธนาธรกลืนน้ำลายตัวเองเดินกลับเข้ามาปรากฏตัวในรัฐสภาก็ยังทำให้คุณพิธาที่ทำงานอยู่ในรัฐสภาดูไม่มีตัวตนไปเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น กระแสของคุณพิธาที่ผ่านๆมาก็ยังดูเงียบจนสู้กระแสของคุณปิยบุตรกับคุณช่อไม่ได้อีกเสียด้วย หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวของ ส.ส.ในพรรคก้าวไกลบางคนที่ดูสนิทสนมกับคุณธนาธรยังทำให้ความสำคัญของคุณพิธาดูเป็นรองไปเลยทีเดียว

ไม่เพียงแค่คุณพิธาเท่านั้น ยังมีคนอื่นๆอีก เช่น คุณไหม ศิริกัญญา ที่มีความรู้ความสามารถ และมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำการเมืองใหม่ที่สร้างสรรค์ยิ่งกว่าคณะก้าวหน้าเป็นไหนๆ แต่ทุกคนกลับไม่มีโอกาสในการแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่ ยังทำการเมืองภายใต้บรรยากาศของความขัดแย้งไม่ต่างจากสมัยที่อยู่พรรคอนาคตใหม่ และดูเหมือนว่าจะอยู่ภายใต้เงาของคณะก้าวหน้าที่ทำอะไรก็ดูเหนือชั้นในแง่ของกระแสมากยิ่งกว่า

แต่มันก็คงเป็นเรื่องปกติ เพราะการเมืองไทยทุกวันนี้ยังคงอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการที่อำนาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของปวงชน การเมืองไทยยังคงเป็นธุรกิจการเมืองที่ผู้แทนในรัฐสภาไม่ใช่ผู้แทนของประชาชน หากแต่เป็นร่างทรงและหุ่นเชิดของนายทุนพรรคการเมือง จึงไม่แปลกที่ประชาชนทั้งประเทศได้แต่นั่งตาปริบๆ ดูพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเองมีปัญหากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างในการแบ่งผลปันประโยชน์ทางการเมืองระหว่างกัน

หรือในขณะเดียวกันที่คนรวยที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ยังสามารถควบคุมพรรคฝ่ายค้านในรัฐสภาพร้อมๆกับการเคลื่อนไหวนอกรัฐสภาได้อย่างหน้าตาเฉย โดยที่ประชาชนทั่วไปไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงในการช่วยกันกำหนดชะตาของประเทศชาติอย่างดีที่สุดร่วมกัน ดังนั้นการเมืองไทยจึงยังคงเป็นการเมืองในรูปแบบเก่าๆไม่ต่างจากการพายเรือในอ่างของคนสองกลุ่มที่ทะเลาะกันไปมา ฝ่ายหนึ่งก็อ้างการเลือกตั้งมาจากประชาชน อีกฝ่ายก็อ้างความเป็นตัวแทนของประชาชน แต่ต่างก็เป็นเผด็จการในรูปแบบของธุรกิจการเมืองกันทั้งคู่

ดังนั้นถ้าหากคุณพิธาและคนอื่นๆซึ่งเป็นคณะทำงานที่มีคุณภาพและศักยภาพในคณะก้าวไกล ไม่ใช่คณะเลียธนาธรให้ได้ดีไปวันๆ ยังพอมีอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่อาสาก้าวเข้ามาทำงานรับใช้ประชาชนอย่างจริงจัง ก็ควรที่จะเล็งเห็นถึงปัญหาของธุรกิจการเมืองที่เป็นระบอบเผด็จการตัวจริงครอบงำการเมืองไทยมาช้านาน เริ่มต้นจากการไม่ทำตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งของระบอบเผด็จการธุรกิจการเมืองนี้เสียเอง หันมาช่วยกันยุติระบอบเผด็จการธุรกิจการเมือง ปฏิเสธแนวทางประชาธิปไตยจอมปลอมหัวรุนแรงของคณะก้าวหน้าที่จะนำพาสังคมไทยไปสู่ความขัดแย้งและความแตกแยกในอนาคต แล้วช่วยกันส่งเสริมประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์อย่างสันติ และผลักดันการเมืองใหม่ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ก้าวไกล หรือ ก้าวสั้น

คุณพิธาเลือกได้ครับ...