‘บิ๊กตู่’เยือนนสพ.แนวหน้า
ขอให้เชื่อมั่น
นำพาประเทศไทยพ้นภัย
แนวหน้าเสนอทำค่าเงินให้อ่อน
เพื่อส่งผลดีต่อธุรกิจการส่งออก
ผลักดันพรบ.เกษตรกรรมยั่งยืน
ให้ภาคเอกชนขับเคลื่อนได้ทันที
ปรับครม.แน่ แย้มดึงคนนอกร่วม
“บิ๊กตู่” เยือน นสพ.แนวหน้า “ขอให้เชื่อมั่นผม ปรับครม./บริหารประเทศไทย” ด้านแนวหน้า เสนอทำค่าเงินให้อ่อนเพื่อส่งผลดีต่อธุรกิจการส่งออก ผลักดัน พ.ร.บ.เกษตรกรรมยั่งยืน ให้ภาคเอกชนขับเคลื่อนได้ทันที ขณะที่ “บิ๊กป้อม”นั่งประธานประชุมใหญ่พรรคครั้งแรก แต่งตั้ง 10 รองหัวหน้าพรรค ลั่นสละตัวนำทัพ พปชร.เพราะอยากเห็นคนรักสามัคคีกัน จากนี้ต้องหนึ่งเดียว ไร้กลุ่มก๊วน พรรคใหญ่ทะเลาะกันเองเสียหาย ยันรักเท่ากันทุกคน
เมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 10กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานประชุมหารือแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีและนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้ เนื่องจากตนเคยพูดไปแล้วจะต้องทำงานแบบ New Normal จึงจำเป็นที่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกๆฝ่าย และทุกภาคส่วน เพื่อนำมาหารือกัน เพราะตนจะทำงานคนเดียวไม่ไหว ตอนนี้ก็ต้องช่วยกันคิด เพื่อนำข้อมูลไปประกอบให้การทำงานปัจจุบันทันกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไทยได้รับผลกระทบเกือบทั้งหมด
เสนอตั้งศูนย์ฟื้นฟูศก.หลังโควิด
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดภายหลังประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ว่า เป็นการทำงานในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่และมีการหารือทุกภาคส่วนเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยข้อเสนอที่น่าสนใจ คือ การตั้งศูนย์ฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 โดยนายกฯรับข้อเสนอและเตรียมพิจารณาเรื่องข้อกฎหมายว่า จะพิจารณาอย่างไรต่อไปบ้าง พร้อมตั้งทีมรวบรวมข้อมูลเพื่อติดตามปัญหาอย่างรวดเร็ว รวมถึงยังมีมาตรการดูแลเอสเอ็มอี ซึ่งกำลังพิจารณาถึงการขยายเวลาการชำระหนี้ที่จากเดิมจะสิ้นสุดในเดือนตุลาคมนี้และการเพิ่มสภาพคล่องผ่านกองทุนต่างๆ คาดว่าจะใช้เงินงบประมาณจาก พรบ.กู้เงิน 4แสนล้านบาท
‘สมคิด’ชี้2ทีมทำงานร่วมกันได้
ด้าน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายกฯยกเลิกการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจและเรียกประชุมทีมที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจแทน จากนี้ทั้งสองทีมจะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ ว่า ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะว่ารู้จักกันทุกคน ถูกต้องแล้วที่นายกฯจะได้ข้อมูลจากภายนอกให้เพียงพอก่อนที่จะพิจารณาข้อมูลต่างๆซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีและวันนี้ก็มากันครบก็ไปนั่งคุยกัน
‘4กุมาร’ลาออกจากกันด้วยดี
นายสมคิด กล่าวถึงกรณีสี่กุมารลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้มีใครมารายงานอะไร เพราะเป็นเรื่องภายในพรรค ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เท่าที่ฟังจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) ก็เป็นการแถลงที่ดี เป็นมิตรต่อกันและเป็นการจากกันด้วยดี ส่วนการก่อตั้งพรรคขึ้นมาแต่แรกนั้นก็เห็นว่า ตั้งขึ้นมาเพราะมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ตอนนี้เรื่องเหล่านี้ถือว่าบรรลุแล้ว และเชื่อว่าทั้ง 4คน พร้อมทำหน้าที่อื่น เมื่อถามว่า ส่วนภารกิจของตัวเองบรรลุแล้วหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวสั้นๆ ว่า ตอนนี้อยากดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีเท่านั้น
การเมืองดี/ศก.-สังคมก็ดีด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของตำแหน่งรัฐมนตรีจำเป็นต้องเปลี่ยนอย่างไร นายสมคิด ยืนยันว่า เรื่องนี้นายกฯจะพิจารณาแล้วแต่ความเหมาะสม เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา เมื่อถามว่า พร้อมจะรับตำแหน่งอีกไหม รองนายกฯ ตอบแค่ว่า เป็นเรื่องของนายก ส่วนที่ถามว่าเมื่อการเมืองเป็นอย่างนี้จะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจมากแค่ไหน นายสมคิด กล่าวว่า‘หากการเมืองดี เศรษฐกิจและสังคมก็จะดีตามมา ดังนั้นจึงต้องพยายามดูแลการเมืองให้ดีและเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องการเมืองตอนนี้ยังไหวอยู่ใช่ไหม รองนายกฯ กล่าวเพียงว่า ผมไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ค่อยถนัดการเมือง’
ยอมรับถอดใจมาหลายปีแล้ว
เมื่อถามว่า กรณีนายกฯบอกก่อนหน้านี้ว่า รองนายกฯ สมคิดพร้อมทุกอย่างใช่ไหม รองนายกฯ ตอบเสียงดังว่า ผมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว เพราะตอนนี้อายุมากแล้ว ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ที่บอกอายุมากแสดงว่าถอดใจแล้วใช่หรือไม่ นายสมคิด ก้มหน้าตอบว่า ใจผมถอดมาตั้งแต่หลายปีแล้ว เมื่อถามว่า หากมีการปรับครม.แล้วไม่มีรัฐมนตรีที่อยู่ภายใต้ความดูแลอีกจะยังอยู่ใน ครม.ต่อหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะการที่จะตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมา นายกฯต้องดูให้ถ่องแท้ว่า ใครจะทำอะไร เอาบ้านเมืองเป็นหลัก นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ส่วนใครจะมาใครจะไปถือเป็นเรื่องปกติ
‘เสี่ยแฮงค์’ย้ำ4กุมารจากกันด้วยดี
นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมใหญ่สามัญพรรคครั้งที่2 ถึงการลาออกจากสมาชิกพรรคของ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษิณทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและนายกกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง หรือ4กุมาร ว่า เป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีอะไรเพราะทุกคนได้ร่วมทำงานกับพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีทางการเมืองไม่มีอะไรขุ่นข้องหมองใจกัน
ไม่ได้ส่งประวัตินั่งรมต.ให้นายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เตรียมส่งประวัติเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปรับ ครม.หรือยัง นายอนุชา กล่าวว่ายังไม่มีและยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ ไม่เคยพูดเรื่องตำแหน่งในครม.ยืนยันได้และทราบดีอยู่แล้วว่า ทำงานให้พรรค ส่วนตำแหน่งในครม.เป็นเรื่องของนายกฯตัดสินใจเพียงคนเดียว เมื่อถามย้ำว่า พร้อมหรือไม่หากมีชื่อในครม. เลขาฯพรรค กล่าวย้ำว่า ตนเป็นคนทำงานไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะทำประโยชน์เพื่อประชาชนให้มากที่สุด เมื่อถามว่า พร้อมหรือไม่สำหรับตำแหน่งดังกล่าว นายอนุชา กล่าวว่า “ผมพร้อมตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน” เมื่อถามกรณีนายกฯระบุว่า รัฐมนตรีทั้ง 3คนที่ลาออกเป็นโควตาของนายกฯ ในส่วนของพรรคจะมีโควตาเท่าไหร่ นายอนุชา กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่ขอตอบ เพราะเป็นคำพูดของนายกฯ ไม่อาจก้าวล่วงได้ แล้วแต่นายกฯตัดสินใจ เราทำงานเพื่อประชาชนในทุกมิติจะไม่ไปกำหนดกฏเกณฑ์อะไร
‘ชัยวุฒิ’เชื่อ4กุมารเล่นการเมืองต่อ
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.กล่าวถึงการลาออกจากพรรค พปชร. ของ4กุมาร ว่า การลาออกน่าจะมีเหตุปัจจัยหนึ่งว่า จะไปทำงานกับพรรคการเมืองอื่น ตนยืนยันว่ากลุ่ม4กุมารยังไม่หยุดเล่นการเมือง เพราะจากประสบการณ์ตัวเองคนที่ลาออกจากพรรคหนึ่ง มักจะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ หรือไปทำงานกับกลุ่มการเมืองอื่น ซึ่งมีนักการเมืองทำให้เห็นหลายคนแล้ว
3เก้าอี้รมต.ไขก๊อกเป็นของพปชร.
เมื่อถามว่า ตำแหน่งรัฐมนตรี4กุมารเป็นโควตาของพรรค พปชร.หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ ถ้าไม่ใช่โควตาพรรคแล้วจะเป็นโควตาของใคร เพราะตอนที่ไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีก็ส่งไปในนามพรรคโดยส่งชื่อนายอุตตม สาวนายน เพราะเป็นหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นเลขาธิการพรรคและนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรองหัวหน้าพรรค โดยผ่านที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ส่งชื่อในนามพรรคพปชร.เมื่อถามว่า เมื่อ 4กุมารลาออกจากสมาชิกพรรค ควรคืนตำแหน่งรัฐมนตรีให้แก่พรรคใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ทางข้อกฎหมายคงไม่เป็นไรและตนตอบไม่ได้ แต่ในทางการเมืองก็อยู่ที่นายกฯกับผู้ใหญ่ที่จะตัดสินใจต่อไป ทั้งนี้ยอมรับว่า ในทางการเมืองนายกฯมีโควต้าเพื่อเลือกคนที่ไว้วางใจมาทำงานถือป็นเรื่องปกติของทุกรัฐบาล คิดว่า4กุมารไม่ใช่โควตาของท่านนายกฯเพราะเป็นโควตาของพรรค พปชร.เพราะท่านเป็นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคที่เราส่งไปทำงานในนามพรรคเ หมือน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็เป็นรัฐมนตรีในโควตาของพรรคร่วมรัฐบาล
‘บิ๊กป้อม’ร่วมประชุมพรรคครั้งแรก
จากนั้นมีการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่2 โดยมี นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยมี กก.บห.,สส.และตัวแทนสาขาพรรค จำนวน 500คน เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อม ในช่วงต้น นายอนุชา กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพปชร.ติดภารกิจด่วนมาทำหน้าที่ประธานไม่ทัน ตนจึงขอมติที่ประชุมเสนอให้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ ทำหน้าที่ประธานการประชุม แทน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา พล.อ.ประวิตร เดินทางมาถึงที่ทำการพรรค พร้อมขึ้นไปที่ห้องทำงานทันที ถือเป็นการปรากฏตัวในที่ทำการพรรคครั้งแรกของ พล.อ.ประวิตร หลังเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พปชร.อย่างเป็นทางการ
สละตัวนำทัพอยากเห็นรักสามัคคีกัน
เวลา 16.20น.พล.อ.ประวิตร กล่าวตอนหนึ่งกับส.ส.และสมาชิกพรรคในการเป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 2/2563 ว่า เรามาที่นี่เพื่อทำความเข้าใจว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ปรองดอง ตนยอมสละทุกอย่างมาที่นี้ ตนไม่ได้อะไร ไม่ได้เงินเพิ่มแต่เสียสละเวลามาทำเพื่อพวกท่านทุกคน ตนรักพวกท่านทุกคนเท่าๆ กัน อยากให้ทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขอร้องอย่าทะเลาะเบาะแว้งกันเลย ภายในพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่มีข่าวตีกันเอง อย่างนี้มันไม่ไหว การที่ตนต้องลงมาเพราะมีความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ตนเข้าใจพวกท่านทุกคนว่าต้องการความยุติธรรม ความเสมอภาค ต้องลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งหมด ได้อะไรที่เท่าๆ กันและที่ไม่ได้ต้องมีคำตอบเพราะอะไร ขอฝากกับทุกท่านด้วยว่าอยากให้รักกันจริงๆ ให้สามัคคีกันจริงๆเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือแบ่งกลุ่ม ไม่เอาแล้ว ตนขอร้องเลย เรื่องที่แล้วๆ มาไม่เอาแล้วนะ จบไปนะ และตั้งแต่นี้ต่อไปตนเป็นคนรับผิดชอบ
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราเป็นพรรคใหญ่ ถ้ามัวแต่ตีกันจะทำให้เสียหายด้วยความไม่เข้าใจกัน ต้องร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว สามัคคีกัน รักกันไว้ สงสัยอะไรถามกันได้ ไม่ใช่คนนั้นได้ดีกว่าคนนี้ อย่างตนไม่ได้รักใครมากกว่าใคร รักเท่าๆ กันหมด ให้เท่าๆ กันหมด ตนยืนยันอย่างนี้
ตั้ง10รองหน.-ทุกตำแหน่งเปลี่ยนได้
เวลา 16.30น.ที่ประชุมใหญ่สามัญพรรค พปชร.ได้แต่งตั้งรองหัวหน้าพรรค 10 คน ได้แก่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ด้านอำนวยการควบตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ด้านปฏิบัติการ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ด้านสนับสนุน นายณัฐฏพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ด้านแผนพัฒนาบุคลากร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ด้านข้อมูลเทคโนโลยี สารสนเทศ นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ ด้านกิจการงานสภา นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง ด้านเครือข่ายสัมพันธ์ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ ด้านกฎหมาย และนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.ชลบุรี ด้านรับเรื่องราวร้องทุกข์ ส่วนรองเลขาธิการพรรค ได้แก่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี ขณะที่โฆษกพรรค คือ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.รองโฆษกพรรค 3 คน ประกอบด้วย น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เพชรบูรณ์ และนายสันหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช ส่วนรองผู้อำนวยการพรรค 2 คน ได้แก่ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชรและนายภาคิน สมมิตรธนกุล
‘ลุงป้อม’ยันไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
จากนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับคำสั่งแต่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตนมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลง คนไหนทำงานไปแล้ว อยากจะเปลี่ยนแปลงไม่อยากจะอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงกันได้ ก็ขอให้เข้าใจกันว่า ไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชัง ตนได้คุยกับรองหัวหน้าพรรคทั้ง 10 คนไปแล้วว่าใครเหมาะสมยังไง ส่วนการเลือกตั้งซ่อมเขต5 จ.สมุทราปราการ พรรคจะส่ง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก เป็นตัวแทนพรรคลงสมัคร เพราะคราวที่แล้วชนะ พลาดท่านิดหน่อยไม่เป็นไร เลือกใหม่
กกต.เคาะ9ส.ค.เลือกซ่อมสส.เขต5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้นัดประชุมภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรปราการ เขตเลือกตั้งที่5 แทนตำแหน่งที่ว่าง2563และมีมติออกประกาศกกต.กำหนดให้อาทิตย์ที่ 9สิงหาคม เวลา 08.00-17.00น.เป็นวันและเวลาในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต5 จ.สมุทรปราการ แทนตำแหน่งที่ว่างและกำหนดเปิดรับสมัครวันที่ 16-20กรกฎาคม เวลา 08.30-16.30 น.(ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่5 กำหนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี