เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้เป็นประธานการประชุมที่ทำการพรรค พร้อมมีแกนนำคนสำคัญเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตร ซึ่งคาดว่า ที่ประชุมมีการหารือ รับทราบรายงานการประชุมในสัปดาห์ก่อน และ ประเด็นทางการเมือง เช่น ทิศทางของพรรคหลังกลุ่ม 4 กุมาร ออกจากพรรค และสัดส่วนคณะรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งเป็นไปตาม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เคยให้สัมภาษณ์ว่า ต้องฟังความเห็นจากพรรคเป็นหลัก
หลังจากนั้น เวลา 16.30 น. พล.อ.ประวิตร เข้าประชุมร่วมกับ ส.ส.ของพรรค พร้อมกล่าวกับ ส.ส.ว่า เราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ ทำแล้วเลิก เราต้องการทำงานการเมืองให้เข้มแข็ง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง โดยเชื่อว่า หากทุกคนร่วมมือกันทำงาน จะสามารถทำให้พรรคเข้มแข็งเป็นหนึ่งเดียว
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังระบุอีกว่า วันที่ 10 ก.ค.ได้เซนต์แต่งตั้ง 10 รองหัวหน้าพรรค เพื่อแบ่งตามภาค สร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิก นอกจากนั้น ยังมีมติส่ง นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก เป็นผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 5 สมุทรปราการ
นอกจากนี้ ภายหลังการประชุม พล.อ.ประวิตร เปิดเผยอีกว่า วันนี้หารือกันปกติ ให้ทุกคนในพรรครักสามัคคีกลมเกลียวกัน ให้ทำการเมืองเข้มแข็ง ประเทศชาติเข้มแข็งอยู่ดีกินดี
เมื่อถามว่า ได้หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐ แล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า เรื่องการปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี