วันอาทิตย์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ศาลฎีกานักการเมือง  สั่งจำคุก‘ทักษิณ’5ปี  แปลงสัมปทานชินฯ  ทำรัฐเสียหาย6หมื่นล.

ศาลฎีกานักการเมือง สั่งจำคุก‘ทักษิณ’5ปี แปลงสัมปทานชินฯ ทำรัฐเสียหาย6หมื่นล.

วันศุกร์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :
  •  

ศาลฎีกานักการเมือง สั่งจำคุก“ทักษิณ” อีก 5 ปี คดีแปลงสัมปทานชินคอร์ปรัฐเสียหายกว่า 6 หมื่นล้าน เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง ศาลได้อ่านคำพิพากษาคดีแปลงสัมปทานหุ้นชินคอร์ป หมายเลขดำที่ อม.9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย เรื่อง ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม โดยอัยการสูงสุด โจทก์ได้ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 11ก.ค. 2551 สรุปความผิดว่า เมื่อระหว่างวันที่ 9 ก.พ. 2544 - 19ก.ย. 2549 ขณะจำเลยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใน 2วาระติดต่อกัน จำเลยกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 100 ว่าด้วยการเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือบริษัทชินคอร์ปซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐโดยให้บุคคลอื่นมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทน และกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152และ157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นในกิจการโทรคมนาคม ทำให้กรมสรรพสามิตได้รับความเสียหาย6.6หมื่นล้านบาท

คดีนี้ระหว่างพิจารณา จำเลยหลบหนี ศาลสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราว ต่อมามีการประกาศใช้ พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูว่าด้วยวิธีพิจรณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีอำนาจพิจารณาคดีได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย ศาลจึงยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ต่อไป และอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยได้ โดยศาลฎีกาฯวินิจฉัยในสาระสำคัญว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542มาตรา 10(2)ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ขณะจำเลยดำรงตำแหน่งนายกรัฐนตรีใน2วาระ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่จำเลยยังคงเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชินคอร์ปซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ โดยให้บุคคลอื่นมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นแทน


อันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม และฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพรบ.ดังกล่ว จำเลยให้บุคคลอื่นเป็นผู้ถือหุ้นแทนจำเลยต่อเนื่องมาโดยตลอด เพียงแต่ในช่วงเวลาดังกล่าวจำเลยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใน2วาระติดต่อกันเท่านั้น ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาเดียวกระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา19(2) การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดกรรมเดียว มิใช่2กรรมตามที่โจทก์ฟ้องโดยจำเลยเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ได้มอบนโยบายและสั่งการให้ตราพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพรบ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 และพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพรบ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527 เพื่อจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งได้รับสัมปทานจากรัฐ โดยคณะรัฐมนตรีที่จำเลยเป็นหัวหน้ารัฐบาลมีมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราภาษีและยกเว้นภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ 68) ให้ลดพิกัดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากอัตราร้อยละ10 และมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11ก.พ.2546 เห็นชอบแนวทางให้คู่สัญญาภาคเอกชน กับกรมสรรพสามิตมาหักออกจากส่วนแบ่งรายได้หรือค่าสัมปทานที่คู่สัญญาภาคเอกชนจะต้องนำส่งให้ภาครัฐได้ โดยจำเลยได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เชอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือไอเอส ซึ่งได้รับสัมปทานดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย(ทศท.)และบริษัทดิจิตอลโฟน จำกัดหรือบริษัทดีพีซี ซึ่งได้รับสัมปทานดำเนินกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่จากการสื่อสารแห่งประเทศไทย หรือกสท.โดยทั้ง2 บริษัทเป็นบริษัทในเครือของบริษัทชินคอร์ปซึ่งจำเลยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทำให้ทั้ง2บริษัทได้รับคืนงินภาษีสรรพสมิตที่ชำระแล้ว โดยมีสิทธินำไปหักออกจากค่าสัมปทานที่นำส่งให้ ทศท.และกสท.เป็นผลให้ ทศท.และกสท.ได้รับความเสียหายมูลค่า 6.6หมื่นล้านบาท

ดังนั้นการกระทำของจำเลยจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการโทรคมนาคมและเป็นผลให้บริษัทที่จำเลยเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ได้รับประโยชย์ จากการปฏิบัติหรือละเว้นกาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตของจำเลย เมื่อเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา15 (เดิม) ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้ว จึงไม่ต้องปรับบททั่วไปตามมาตรา 157 อีก พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ

ทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา100 วรรคหนึ่ง(2)และมาตรา122วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา15 (เดิม) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม

ประมวลกฎหมายอญา มาตรา90 องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติเสียงข้างมากให้ลงโทษจำเลยฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ จำคุก 2 ปื ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น จำคุกอีก 3ปี รวมจำคุก 5ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยคดีหมายเลขแดงที่ อม.4/2551 (คดีเอ็กซิมแบงก์) และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่1ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 (คดีหวยบนดิน) ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้อหาและคำขออื่นให้ยก อนึ่ง วันนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกหมายจับจำเลยมาเพื่อบังคับตามคำพิพากษาแล้ว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • พท.มั่นใจ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน ปราบ\'อาชญากรรม-ยาเสพติด\' พท.มั่นใจ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน ปราบ'อาชญากรรม-ยาเสพติด'
  • \'นักการเมือง\'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย 'นักการเมือง'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย
  • เชื่อไม่เกิดสุญญากาศ! แม้ปัญหารุมเร้าทำรบ.เปราะบาง \'สุทิน\'ย้ำต้องให้กำลังใจเร่งสร้างเชื่อมั่น เชื่อไม่เกิดสุญญากาศ! แม้ปัญหารุมเร้าทำรบ.เปราะบาง 'สุทิน'ย้ำต้องให้กำลังใจเร่งสร้างเชื่อมั่น
  • เลขาฯเพื่อไทยแย้มโควตา ‘รองปธ.สภาฯ’คนที่ 2 อาจเป็นของ‘รทสช.’ เลขาฯเพื่อไทยแย้มโควตา ‘รองปธ.สภาฯ’คนที่ 2 อาจเป็นของ‘รทสช.’
  • โพลชี้คนอุตสาหกรรมเชื่อมั่น 4 ผู้นำพรรคเล็ก–ตั้งใหม่ เปิดโอกาสขับเคลื่อนประเทศ โพลชี้คนอุตสาหกรรมเชื่อมั่น 4 ผู้นำพรรคเล็ก–ตั้งใหม่ เปิดโอกาสขับเคลื่อนประเทศ
  • ‘สวนดุสิตโพล’กว่า50%ไม่เชื่อมั่นครม.ใหม่ จี้เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ มองรบ.ไม่น่าแก้ภาษีทรัมป์ได้ ‘สวนดุสิตโพล’กว่า50%ไม่เชื่อมั่นครม.ใหม่ จี้เร่งแก้ปัญหาค่าครองชีพ มองรบ.ไม่น่าแก้ภาษีทรัมป์ได้
  •  

Breaking News

พท.มั่นใจ 3 เดือนเห็นผลชัดเจน ปราบ'อาชญากรรม-ยาเสพติด'

'นักการเมือง'ครอบงำ?! ความล้มเหลวของระบอบประชาธิปไตย

'ดิว อริสรา'ลุยหาเงินใช้หนี้ เปิดไลฟ์ขายของ 2 วันยอดทะลุ 2 ล้าน

(คลิป) อดีตฝ่ายแค้น'พรรคส้ม'ร้อนรน! เมื่อคนรุ่นใหม่เริ่มตาสว่าง! ตัวปัญหาคือ'ทักษิณ'ไม่ใช่'ทหาร'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved