เบรกรื้อรธน.
สว.ออกโรงขวางตั้งส.ส.ร.
แนะแก้ไขรายมาตรา
ฝ่ายค้านชิงเสนอญัตติ
หวังปลดล็อกประเทศ
จี้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ
“สว.สมชาย แสวงการ” ขวางตั้ง ส.ส.ร.รื้อรัฐธรรมนูญทั้งเล่มหนุนแก้เป็นรายมาตรา ระบุสภาสูงยังไม่หารือกัน “ฝ่ายค้าน”สบช่องเตรียมยื่นญัตติแก้ไขกฎหมายสูงสุดของประเทศในสัปดาห์หน้า ชี้จะแก้สำเร็จ รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพ“แรมโบ้” ยืนยันนายกฯไม่คิดนำม็อบชนม็อบ จนนำไปสู่การทำรัฐประหาร
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มี ส.ว.บางส่วนเห็นด้วยให้แก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ว่า เป็นเพียงความเห็นของแต่ละบุคคล ซึ่งเรื่องนี้ในส่วนของ สว.ยังไม่มีการคุยกัน เพราะเรื่องนี้ยังอีกไกลและคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นประธาน ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร.หรือจะออกมาในลักษณะใด
“ส่วนตัวเห็นว่า โครงของรัฐธรรมนูญปี 2560 มาจาก รัฐธรรมนูญปี 2550 และปี 2540 หากจะแก้ไข ต้องไปดูรายประเด็น จะทำได้ง่ายและรวดเร็วกว่า โดยเฉพาะประเด็นที่สังคมเห็นว่า ต้องเปลี่ยนแปลง หรือ กฎหมายตัวใดที่ใช้แล้วมีความติดขัด แต่ต้องไม่ลืมว่าก่อนจะมีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ได้ผ่านการทำประชามติมาแล้ว ดังนั้น ประเด็นที่เป็นโครงใหญ่ของรัฐธรรมนูญ ควรคงอยู่ในหลักการ อีกทั้งประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงอยู่ในขณะนี้คือประเด็น ส.ส. สว. และการทำงานขององค์อิสระ หากเห็นมีประเด็นเพียงเท่านี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีการตั้ง สสร.”นายสมชาย กล่าว
ชี้เห็นต่างไม่นำสู่ความขัดแย้ง
ส่วนหากไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำไปสู่ความขัดแย้งหรือไม่นั้นนายสมชาย กล่าวว่าตนไม่ห่วงเรื่องข้อเสนอ หรือ วิธีคิดของกลุ่มนิสิต นักศึกษา เพราะเป็นข้อเสนอที่เป็นประชาธิปไตย สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ แต่จะตรงกับความต้องการหรือไม่ ต้องมาพูดคุยกัน และไม่คิดว่า จะเป็นประเด็นที่นำไปสู่ความขัดแย้ง ความวุ่นวาย หากไม่มีปัจจัยอื่น หรือไปกระทบกับสิ่งที่เป็นอันตราย
พร้อมกันนี้ นายสมชาย ได้ขอฝากไปถึงแกนนำ กลุ่มนิสิต นักศึกษา ระวังบุคคล ที่เข้าไปแอบอ้าง ไม่ว่าจะเป็นทางโซเชียล หรือ ถือป้ายถ่ายรูป ในจุดชุมนุม ที่พยายาม จะสร้างให้เกิดสถานการณ์ความรุนแรง เหมือนในอดีต เชื่อว่าปัญหาทางความคิด จะสามารถแลกเปลี่ยนความคิดกันได้ และอยากเห็นเวทีการรับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา ตัวแทนของรัฐบาล ฝ่ายค้าน สว. มาร่วมมือพูดคุยกัน
ฝ่ายค้านดันแก้รธน.ก่อนเลือกตั้ง
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยว่า แม้คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เผยว่าที่ประชุมมีมติเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพื่อเปิดทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้ง่ายขึ้น ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ควรที่จะแก้ไข ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ เพราะหากแก้ไขรัฐธรรมนูญหลังการเลือกตั้ง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ชี้แก้รธน.สำเร็จ รบ.เป็นเจ้าภาพ
นายสมคิดกล่าวด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะสำเร็จได้ รัฐบาลต้อง เป็นเจ้าภาพและให้นักการเมืองทั้งสภาร่วมมือกันจึงจะแก้ได้ ทั้งนี้ดูจากข้อเรียกร้องของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน ก็จะทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาแน่นอน เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ควรนิ่งดูดาย เพราะรัฐธรรมนูญ มีปัญหา ที่มาของและอำนาจของสมาชิกวุฒิสภามากเกินไป และ สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 2 ครั้ง คือ 8 ปี นอกจากนี้ การกำหนดให้มียุทธศาสตร์ชาติ เป็นอันตราย และล็อคตายการพัฒนาประเทศ เห็นได้จากการจัดทำงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์ประเทศไทย
จ่อยื่นญัตติแก้ รธน.สัปดาห์หน้า
“พล.อ.ประยุทธ์ ลอยตัวเหนือปัญหา ไม่รับรู้ข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชน ทั้งๆที่ พล.อ.ประยุทธ์รู้ว่าตัวเองไปไม่ได้แล้ว แต่ไม่ยอมรับความจริง คาดว่าในสัปดาห์หน้า พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นญัตติด่วนต่อรัฐสภาเพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากสมาชิกเห็นด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะเร็วและเป็นสามารถชี้แจงต่อสังคมได้” นายสมคิด ย้ำ
เทพไทชี้มติกมธ.ตอบโจทย์ทุกฝ่าย
ขณะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)กล่าวถึงผลการประชุมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560ว่าได้มีข้อสรุปถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ชัดเจน ที่ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องควรให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256และเพิ่มหมวดการจัดตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.)เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งเป็นข้อสรุปที่สังคมมีความคาดหวังและเป็นการตอบโจทย์ข้อเรียกร้องของนักศึกษา 3ข้อ คือ 1.แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2.ยุบสภา 3.หยุดคุกคามประชาชน
แก้ในสภาปลดล็อคประเทศ
นายเทพไท กล่าวว่าเมื่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มีผลสรุปของการศึกษาแล้ว จะนำเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมนี้ และมอบหมายให้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ประธานคณะกรรมาธิการฯ นำผลการศึกษาเสนอต่อรัฐบาล เพื่อให้มีการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร จนถึงบัดนี้รัฐบาลบริหารประเทศ มาเกือบ2ปีแล้ว เป็นเวลาที่เหมาะสมในการผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จเพราะเป็นการปลดล็อกการชุมนุมรายวันของกลุ่มนักศึกษาด้วย
หนุนรบ.รับเป็นเจ้าภาพแก้รธน.
“ขอเสนอให้รัฐบาลรับเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ ด้วยการส่งสัญญาณถึงสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 คน เพื่อขอความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 เปิดทางให้มีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ปัญหาการเมืองของประเทศในขณะนี้ และเชื่อว่าถ้ารัฐบาลรับเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสียเอง จะเป็นการสนองตอบข้อเรียกร้องการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาด้วย เมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็เป็นโอกาสที่รัฐบาลจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน เพื่อให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ต่อไป”นายเทพไท กล่าว
ยันนายกฯไม่คิดนำม็อบชนม็อบ
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พูดในระหว่างจัดรายการ ก้าวหน้าTalkอย่าให้ใครอ้างชื่ออาชีวะไปจัดตั้งก่อม็อบชนม็อบ เป็นสถานการณ์ที่ฝ่ายที่ครองอำนาจอยู่ต้องการเพื่อจะมีเงื่อนไขก่อรัฐประหาร ว่า หากนายธนาธรคิดเช่นนั้น ถือว่ามีแนวคิดในแง่ลบมาก หากนายธนาธรที่พูดถึงผู้มีอำนาจ หมายถึง นายกฯนั้น ยืนยันว่านายกฯไม่มีแนวความคิดที่จะทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน เพราะไม่เกิดประโยชน์กับชาติบ้านเมืองเลย และขณะนี้
“นายกฯคิดถึงแต่ประเทศชาติ ประชาชนโดยต้องเร่งฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศซึ่งต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายและนายกฯพูดอยู่บ่อยๆว่าไม่ต้องการให้มีการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวบนท้องถนนของกลุ่มไหนทั้งสิ้นและยังห่วงอนาคตของนิสิต นักศึกษาไม่อยากให้ทำผิดกฎหมาย แต่นายธนาธร กลับออกมาพูดในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและอาจทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้น”
สวนทำไมไม่ห้ามนศ.เคลื่อนไหว
นายสุภรณ์ ตั้งข้อสังเกตว่าก่อนหน้านี้ที่นิสิต นักศึกษา ออกมาเคลื่อนไหว นายธนาธรก็ออกมา สนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่เมื่อมาถึงวันนี้กลับมองว่าจะเกิดม็อบชนม็อบจนนำไปสู่การทำรัฐประหาร ซึ่งหากนายธนาธรกลัวว่าจะเกิดการรัฐประหารนั้นก็น่าจะต้องพูดในลักษณะที่ให้นิสิต นักศึกษา หรือสถาบันอาชีวะ ยุติความเคลื่อนไหวในขณะนี้ เรื่องแบบนี้ มีแต่คนที่มีแนวความคิดเป็นลบเท่านั้นที่คิดได้ซึ่งนายธนาธรควรเอาเวลาไปทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติประชาชนมากกว่า หรือถ้าไม่อยากทำก็ขอให้ช่วยอยู่เฉยๆโดยไม่ควรที่จะออกมาพูดว่าความเคลื่อนไหวของนิสิต นักศึกษา หรือกลุ่มอาชีวะ อาจลุกลามไปจนถึงการเกิดรัฐประหาร ทำไมนายธนาธรไม่ช่วยห้ามการชุมนุม บ้านเมือง จะได้สงบสุข
“เพราะการสนับสนุนยั่วยุการชุมนุมจะทำให้ประเทศชาติเสียหายพังพินาศ หรือ อาจเป็นเพราะเหตุแกงค์ของกลุ่มก้าวหน้า เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลังการชุมชุมที่หวังผลจะล้มรัฐบาลใช่ไหม พูดอะไรคิดอะไรทำอะไร อย่าคิดว่าคนไทยส่วนใหญ่โง่ คนไทยส่วนใหญ่รู้ดีว่ากลุ่มก้าวหน้าคิดอะไรอยู่ หวังยั่วยุปลุกระดมเพื่อประโยชน์ของกลุ่มประโยชน์ของตนเองอย่างไร นายธนาธรฯและคณะก้าวหน้า อ้าปากพูดอะไรออกมา คนไทยก็เห็นลิ้นไก่แล้ว ช่วยคิดให้เป็นบวกเพื่อประเทศชาติประชาชนบ้างสักนิดได้ไหม แค่นายธนาธรฯไม่ต้องแสดงความเห็นอะไรบ้างสักเรื่อง ก็ถือว่าได้ช่วยทำประโยชน์ให้บ้านเมืองแล้ว”นายสุภรณ์ ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี