‘ศอปส.’ เปิดหน้าชน! ประกาศล็อกเป้าพวกจาบจ้วง เริ่มจากใช้วิธีการเจรจาชี้แจงให้เข้าใจ ใช้มาตรการทางสังคมจัดการเปิดตัวบุคคลที่มีพฤติกรรมชังชาติต่อเพื่อนบ้าน ครู อาจารย์ แต่ถ้าเจอซึ่งหน้าเตือนแล้วไม่ฟังก็ขอจัดการเองแบบไม่เกรงใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น ยื่น‘ปธ.สภา’ บี้สอบลงโทษมี ‘นักการเมือง’เอี่ยวอยู่เบื้องหลังปลุกปั่นดึงเยาวชนหลงผิด-แบ่งแยกวาทกรรม พร้อมผุดเครือข่าย ศอปส.ทั่วประเทศ
10 ส.ค.2563 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. กลุ่มศูนย์กลางประสานงานนักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันฯ (ศอปส.) ประมาณ 70 คน นำโดยนายสุเมธ ตระกูลวุ้นหนู อดีตหัวหน้าการ์ด กปปส. ในฐานะผู้ประสานงาน ศอปส. ได้นัดรวมตัวแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติ โดยเริ่มตั้งขบวนกันที่บริเวณข้างรัฐสภา เกียกกายฝั่งวัดแก้วฟ้าจุฬามณี พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างกระทรวงดิจิทัลฯ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ และกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการกับกลุ่ม หรือบุคลที่ก้าวล่วงสถาบัน หรือมีสิ่งที่ไม่บังควร โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์
จากนั้นเวลา 10.10 น.เคลื่อนขบวนด้วยการเดินเท้ามายังบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา เพื่ออ่านแถลงการณ์ และยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฏร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดแนวถนนเกียกกาย โดยได้มีการนำแผงเหล็กมากั้นขวางให้ทางกลุ่มปักหลักอยู่ตรงบริเวณป้ายรถเมล์ก่อนถึงรัฐสภา เพื่อป้องกันความปลอดภัย รวมถึงลดการเผชิญหน้ากับกลุ่มคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญ(ครช.) ที่มาทำกิจกรรมบริเวณหน้ารัฐสภาเช่นกัน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ระอุ! ม็อบ'ครช.'บุกจี้เขียนรธน.ใหม่ทั้งฉบับ เล่นละครเงียบโชว์เผากงเต๊กหน้ารัฐสภา (ประมวลภาพ)
ต่อมาเวลา 10.30 น. นายสุเมธ ได้นำอ่านแถลงการณ์ ศอปส. ฉบับที่ 1. ระบุว่า เนี่องจากห้วงระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลและประชาชนชาวไทยกำลังเผชิญภัยคุกคามจากโรคโควิด-19 และปัญหาทางเศรษฐกิจที่จะติดตามมาอีก ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่คนไทยทั้งหมดต้องรู้รักสามัครีเพื่อนำพาประทศชาติให้พ้นภัยร้ายเหล่านี้ แตกลับมีบุคคลกลุ่มหนึ่งยุยงให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะออกมาคลื่อนไหวโจมตีทหารและรัฐบาล โดยนำสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย การกระทำแบบนี้นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น ถึงขนาดจะล้มล้างระบอบการปกครอง และล้มล้างวัฒนธรรม ยุยงให้เกิดความแตกแยกขึ้นระหว่างเยาวชนกับพ่อแม่ และครูบาอาจารย์
พฤติกรรมเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยกิดขึ้นมาก่อนในสังคมชาวไทย
แถลงการณ์ฯ ระบุต่อว่า กลุ่มนักเรียนอาชีวะทั้งที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจุบันและที่สำเสร็จการศึกษาไปแล้วรวมทั้งนิสิตนักศึกษา ประชาชน ที่จงรักภักดีต่อสถาบันฯ และรักขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เห็นว่า ถึงเวลาที่จำป็นต้องรวมตัวกันออกมาทักทวงบุคคลเหล่านั้น ให้ยุติการกระทำที่ใช้เยาวชนป็นเครื่องมือทำลายชาติ ก่อนที่จะเกิดการแตกแยกภายในสถาบันครอบครัวระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ เด็กกับครูอาจารย์ จะแพร่กระจายไปมากขึ้นจนส่งผลระทบต่อความมั่นคงของชาติ จึงรวมตัวกันจัดตั้ง ศอปส. ขึ้น เพื่อดำเนินการท้วงติงให้ สติต่อทั้งกลุ่มเยาวชน พ่อแม่ ครู อาจารย์ เจ้าหน้าที่รัฐทั้งหลายให้ตระหนักถึงภัยคุกคามของชาติจากบุคคลกลุ่มหนึ่งที่พยายามยั่วยุให้เยาวชนของเรากลายเป็นคนไม่มีศาสนา คลั่งไคล้อารยธรรมตะวันตกและยาเสพติด เกลียดชังพ่อแม่ ครูอาจารย์
“ศอปส. จัดตั้งขึ้นทุกจังหวัด เพื่อสนับสนุนให้นักศึกษา ประชาชน ทุกสาขาอาชีพได้รวมตัวกันเพื่อมีจุดประสงคนที่จะแจ้งเตือนถึงภัยดังกล่าวด้วยสันติวิธี โดยจะใช้การต่อต้านทางสังคม แทนการใช้ความรุนแรง เริ่มจากการเปิดเผยตัวบุคคลที่ชังชาติต่อเพื่อนบ้าน ครู อาจารย์ของเยาวชนเหล่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ และประชาชนให้ทราบเป็นอันดับแรก รวมถึงการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่หมิ่นสถาบันอย่างชัดเจน และพร้อมที่จะเผชิญหน้าพูดคุยกับกลุ่มบุคคลที่หลงผิด หลอกลวงของผู้ชังชาติตลอดเวลาทุกสถานที่”
จากนั้นทาง ศอปส. ได้ยื่นหนังต่อประธานสภา เพื่อขอให้รัฐสภาปกป้องระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงป็นประมุข โดยมีนายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานประธานสภาฯ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ โดยเนื้อหาในหนังสือระบุโดยสรุปว่า เจตนาของกลุ่มผู้มาชุมนุม โจมตีรัฐบาล และมีการกล่าวร้ายต่อสถาบันนั้น มีกลุ่มการเมืองที่มีเจตนาไม่ดีต่อสถาบัน อยู่เบื้องหลังการชุมนุม มีการส่งชุดความคิดที่ไม่ถูกต้องแก่เยาวชน ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง กลุ่มการเมืองพยายามสร้างวาทกรรมแบ่งแยกเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายเผด็จการ ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด รวมถึงแบ่งแยกประชาธิปไตยออกจากสถาบัน
ขณะเดียวกันทาง ศปอส. ได้เสนอให้รัฐสภาเร่งดำเนินการควบคุมกลุ่มการเมืองที่ปลุกปั่น อย่าให้ดำเนินการเช่นนี้อีก และตรวจสอบจริยธรรมของนักการเมืองเหล่านี้พร้อมลงโทษตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชน ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยืนยันว่าประชาธิปไตยไทยต้องมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขเท่านั้น ประชาธิปไตยที่แท้จริงจะไม่อยู่ใต้วาทกรรม แต่อยู่ได้ด้วยความอยู่เย็นเป็นสุขของประเทศอย่างยาวนาน
นายสุเมธ กล่าวด้วยว่า เรารับไม่ได้ และอยู่เฉยต่อเรื่องนี้ไม่ได้ เราจะจับตาทุกคนที่จาบจ้วง จะล็อคเป้าทุกคน แต่จะใช้วิธีการเจรจาให้รู้ว่าแผ่นดินนี้อยู่รอดปลอดภัยเพราะสถาบัน ยืนยันว่าเราจะใช้วิธีอหิงสา และเราไม่นิยมใช้ความรุนแรง แต่ถ้ามีภัยมาถึงตามสัญชาตญาณมนุษย์ก็จะต้องมีการป้องกันตัว
ขณะที่ตัวแทนอาชีวะรายหนึ่ง กล่าวว่า ตนจบอาชีวะสาขาด้านก่อสร้าง คำพูดพวกตนไม่สวยหรู แต่มาจากใจไม่มีบทสคริปต์ ไม่เหมือนกับทนายชั่วบางคน ยืนยันว่าหากพบบุคคลใดที่จาบจ้วงไม่ว่าจะที่ใดทุกที่ พวกตนจะไม่เกรงใจ และไม่ไว้หน้าต่อไป ในเมื่อถ้าเจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการ พวกตนก็จำเป็นต้องดำเนินการ
ด้านนายแทนคุณ กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้เสนอต่อประธานสภาฯต่อไป ยืนยันว่าเราจะพิจารณาข้อเสนอของทุกฝ่ายไม่มีการแบ่งแยก ซึ่งตนต้องขอบคุณทางกลุ่ม ศอปส. ที่เคลื่อนไหวชุมนุมครั้งนี้แบบสงบ สันติวิธี และแสดงออกถึงบุคคลที่กระทำผิดกฎหมาย ทางสภาฯจะใช้กลไกให้เกิดประโยชน์สูงสุด
จากนั้นในเวลาประมาณ 11.05 น. ทางกลุ่ม ศอปส. ได้รวมตัวกันร้องเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี