“วันนอร์” ทิ้งทวนก่อนปิดฉากส.ส.! สับ “บิ๊กตู่” สุดเหลวแก้ศก. สร้างหนี้บานยันลูกหลาน ยก “ป๋าเปรม-จิ๋วหวานเจี๊ยบ” ตัวอย่างหาทางลงสง่างาม จี้ทบทวนลาออกขีดเส้น19 ก.ย.นี้ ก่อนประชาชนไล่
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2563 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ในเรื่องวิกฤตทางเศรษฐกิจและวิกฤตทางการเมือง โดยไม่มีการลงมติ ตามมาตรา 152
ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ได้ลุกขึ้นอภิปรายเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลาออกจากตำแหน่งส.ส.ว่า รัฐบาลบริหารงานมา 5-6 ปี ล้มเหลวด้านเศรษฐกิจ อ้างว่าเพราะสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ทำให้ผู้ประกอบการต้องปิดกิจการ เจ้าของรถตู้ประกาศยกรถให้เพราะไม่มีเงินส่ง โดยเฉพาะร้านข้าวแกงริมทาง ที่คาดว่าต้องปิดกิจการ 70 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่นับคนตกงาน คนว่างงานอีกมาก ที่เกิดจากผู้นำขาดความรู้ความสามารถ ความล้มเหลวนี้จึงไม่ได้เกิดจากโควิด-19หรือเศรษฐกิจตกต่ำ แต่เกิดจากผู้นำชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะอยู่บริหารมาตลอด6 ปี กู้ทุกปี บริหารง่ายๆ คือตั้งงบรายจ่ายไว้สูง แต่ร่ายรับต่ำจึงต้องกู้ รวมแล้ว 3.4 ล้านล้านบาท รวมที่กู้มาแก้วิด-19อีก1.9ล้านล้านบาท แทนที่ชาวบ้านที่ได้รับเงินจะชื่นชม แต่กลับด่าส่ง
"ผมจึงห่วงว่าถ้าอยู่บริหารต่อจะยิ่งกู้ไม่รู้จบ เพราะปี 2564 ตั้งงบไว้ 4.49 ล้านล้านบาท แต่สามารถเก็บรายได้ปี 2563 ยังขาดอีก 4 แสนล้านบาท ก็ต้องกู้มาใช้ เป็นการเอาเงินอนาคตของประเทศมาใช้ล่วงหน้า แต่กู้แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาใช้หนี้วิธีไหน ส่วนใหญ่ใช้แต่ดอกเบี้ย เป็นการบริหารงานที่ไม่คิดถึงอนาคตลูกหลาน เพราะสร้างหนี้สินให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานต้องมาชดใช้แทน เขาจึงไม่เอารัฐบาลนี้ เพราะมีแต่กู้ๆๆ ล้มเหลวเรื่องหนี้สินสาธารณะ ทั้งรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ขณะนี้ยอดกู้สูงถึง 7.2 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับ 46-47 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี และอาจจะขยายสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ที่สุดจะส่งผลกระทบต่อการเงินการคลังของประเทศ และหนี้สินครั้งเรือนสูงถุง 82 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี ง่ายๆ คือ หาเงินมาได้ 100 บาท ต้องใช้หนี้ 80 บาท มีสิทธิ์ใช้กินอยู่ในครอบครัวแค่ 20 บาท เมื่อหนี้สินครัวเรือนสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ก็กระทบ สวนทางกับการส่งออกของสินค้าไทยที่ส่งออกลดน้อยลง และถูกซ้ำเติมจากค่าเงินบาทแข็ง นักธุรกิจบอกว่า ค่าเงินไทยแข็งเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับเงินหยวนของจีน และเงินริงกิตของมาเลเซีย ที่ถูกดกว่าไทย 30 เปอร์เซ็นต์ แน่นอน นักธุรกิจต้องไปซื้อของที่ถูกกว่า แล้วใครจะมาซื้อสินค้าของเรา ค่าเงินบาทไทยน่าจะอยู่ที่ 35-38 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ควรได้กำไร 4-5 บาทต่อเหรียญ แต่กลับตรงกันข้าม ปัญหานี้รัฐบาลรู้ แต่กลับไม่แก้ปัญหา เพราะบางคนที่ใกล้ชิดกับคนในรัฐบาลหรือไม่ ที่ได้ประโยชน์ ยิ่งเมื่อเจอปัญหาการส่งออกตกต่ำและนักท่องเที่ยวเดิมที่เคยเข้าไทยปีละ 40 ล้านคนต่อปี ขณะนี้ 10 ล้านคนยังไม่ถึง รายได้เคยได้ปีละ 3 ล้านล้านบาท ลดลงเหลือ 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลแก้ไขอย่างไร ไม่มีคำตอบ" นายวันนอร์ กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ยังไม่รวมถึงการใช้อำนาจแทรกแซงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้มาตรา 44 สั่งยุบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภาเขตในกทม. ให้สนช.ที่ท่านตั้งออกกฎหมายพรรคการเมืองเอื้อประโยชน์ให้คน ให้พรรคที่สนับสนุนท่านเป็นนายกฯ สั่งยุบพรรคการเมืองที่มีสมาชิกนับล้าน หรือแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญที่มีปัญหา เด็กยังรู้ว่าใช้กฎกติกาที่ฉ้อฉล แล้วท่านจะนำพาบ้านเมืองนี้ไปอย่างไร ขอแนะนำให้เห็นแก่บ้านเมือง เห็นแก่ประชาชน วันนี้หมดเวลาของท่านแล้ว ขอให้ลงจากอำนาจอย่างสง่างาม
“ผมขอยกตัวอย่าง 2 พล.อ.คือ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ที่รู้จักพอ เมื่อลงจากอำนาจก็อยู่ในสังคมไทยอย่างปกติสุข แต่อีก 1 พล.อ. และอีก 1 จอมพล ซึ่งผมไม่ขอเอ่ยนาม กลับต้องหนีไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ คนหนึ่งเสียชีวิตในต่างประเทศ ขณะที่อีกคนกลับมาโดยต้องห่มผ้าเหลือง ทรัพย์สมบัติของครอบครัวถูกยึดทรัพย์ เป็นตัวอย่างให้ท่านดูว่าจะเอาแบบไหน ผมอยากให้ท่านเลือกเส้นทางที่สวยงาม ท่านยังมีเวลาตัดสินใจก่อนวันที่ 19 ก.ย.นี้ ก่อนที่คนส่วนใหญ่จะพูดว่า หมดเวลาของท่านแล้ว” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในวันนี้ จะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายหลังจากนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ประกาศกลางที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคประชาชาติ ที่ จ.ยะลา เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่าจะขอลาออกจากการเป็นส.ส. โดยจะยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 ก.ย.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี