ชุมนุมเสี่ยงโควิดลามรอบ2
‘บิ๊กตู่’วิงวอน
เตือนม็อบทำเศรษฐกิจทรุดหนัก
ถ้าระบาดอีกหวั่นรับมือไม่ไหว
รู้สึกเจ็บปวด-นอนไม่หลับ
มธ.ประกาศปิด19-20กันยาฯ
กทม.ลั่นห้ามใช้สนามหลวง
นายกฯกำชับจนท.ปฏิบัติอย่างนุ่มนวล เลี่ยงปะทะม็อบ ย้ำปท.ต้องอยู่ด้วยกฎหมาย คนเดิมชักใยชุมนุมลั่นจะอดทนทำเพื่อคนไทย 67 ล้าน“บิ๊กป้อม”ลั่นคุมม็อบอยู่ ไม่ให้มีการปะทะ ช่วงเย็นนายกฯแถลงการณ์ปรามการชุมนุม ชี้เสี่ยงทำโควิดระบาดระลอกใหม่สร้างความเสียหายหนัก กระทบคนนับสิบล้าน ศก.เลวร้ายทวีคูณ ย้ำรู้ถึงความคับข้องใจทางการเมือง-ไม่พอใจรธน.วอนแก้ปัญหา ศก. บรรเทาความเดือดร้อนก่อน “ธรรมศาสตร์”
ประกาศงดเรียน-สอน19-20กย.ปิดประตูหนีม็อบ ด้านผอ.เขตพระนครย้ำชัด ห้ามชุมนุมในสนามหลวง ส่วนสตช.ระดมตร.ทั่วประเทศจัดกำลัง14จุดดูแลความสงบ
เมื่อเวลา 09.30น.วันที่ 17 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมใหญ่วันที่ 19ก.ย.ว่าตนได้มอบหมายให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลในภาพรวม
นายกฯย้ำปฏิบัตินุ่มนวลเลี่ยงปะทะ
ส่วนของเจ้าหน้าที่ ก็ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองไป เน้นย้ำเพียงว่า ขอให้ปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล เพราะเป็นเด็กเป็นลูกหลานทั้งนั้น ตรงนี้ขอร้องว่า อะไรที่ไม่ควร ไม่ถูก สถานที่ราชการต่างๆเหล่านี้ ที่มีกติกา กฎหมายอยู่แล้ว ก็ไม่ควรปฏิบัติให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งระหว่างกันและได้ย้ำเจ้าหน้าที่ขอให้ดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุดเพราะอาจจะมีหลายคน หลายฝ่าย ที่พยายามให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่ความบานปลาย รัฐบาลจำเป็นจะต้องไม่ให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย
ช่วงที่ผ่านมาทุกคนทราบดี คนทั้งประเทศทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้นและกฎหมายคืออะไร รัฐธรรมนูญ คือรัฐธรรมนูญ ขณะที่รัฐธรรมนูญ มีกฎหมายลูกอีกหลายร้อยกฎหมาย ถ้าเรามัวแต่อ้างเรื่องธรรมนูญเพียงอย่างเดียว มันเป็นกฎหมายกรอบใหญ่ แต่ในทางปฏิบัติ มัน เป็นกฎหมายลูกซึ่งทุกคนต้องระมัดระวังด้วย
ลั่นประเทศต้องอยู่ด้วยกฎหมาย
“ผมไม่ได้ขู่ใคร แต่ประเทศชาติ อยู่ด้วยกฎหมาย อยู่ด้วยหลักการและเหตุผลของกฎหมายแต่ละฉบับ ถ้าทุกคนตั้งใจจะฝ่าฝืนกฎหมาย ผมคิดว่าคนอื่นคนทั้งประเทศเขาจะยินยอมหรือไม่ เพราะจะเกิดผลกระทบกับคนอื่นเขาด้วย ในช่วงนี้ ผมไม่ได้ไปขัดแย้งกับท่าน ท่านจะชุมนุม ที่อ้างตามรัฐธรรมนูญก็อ้างไป แต่ในส่วนที่จะทำให้ชาติบ้านเมืองเสียหาย เดือดร้อน ขอให้มีจิตสำนึกตัวเองด้วย เพราะท่านคือคนไทย หากประเทศไทยเกิดปัญหาขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจ มีปัญหา ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ คงไม่ใช่นายกฯหรือรัฐบาลแต่เพียงผู้เดียวขอให้เข้าใจหลักการและเหตุผลตรงนี้ด้วย”นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าส่วนแนวทางการขับเคลื่อนอะไรต่างๆ ตนทราบอยู่แล้ว เขาจะทำอะไรบ้าง ไปที่ไหนอย่างไรเพียงแต่ว่าขอให้ระมัดระวังที่สุด อะไรที่ไม่สมควร ก็อย่าไปกระทำ ตนอยากจะอดทนอย่างยิ่งยวดอยู่แล้วและจะเห็นได้ว่าระยะเวลาที่ผ่านมา ตนพยายามอดทนหาวิธีการแก้ปัญหาที่เหมาะสมและทำอย่างไรให้ประเทศชาติ เดินไปข้างหน้าได้เพราะหลายคนหลายส่วนยังเดือดร้อน ในเรื่องของเศรษฐกิจ ธุรกิจต่างๆ ถ้ามีอะไรที่วุ่นวายเกิดขึ้นแล้ว จะดีขึ้นได้หรือไม่ ถ้ามันไม่ได้ ใครจะช่วยกันดูแลต่อไป ใครจะรับผิดชอบ สิ่งเหล่านี้ อยากให้ทุกคนคิดให้ครบถ้วนกระบวนความ
“โอเค จะชุมนุม จะอะไรก็แล้ว แต่ก็เป็นสิทธิของท่านก็ว่ากันไปแต่สิทธิของคนอื่นจะว่าอย่างไร ในเรื่องของสถานที่ราชการจะว่าอย่างไร สิ่งเหล่านี้เป็นกติกาของประเทศ เป็นกฎหมายของประเทศที่ทุกคนจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์จากการกระทำ อย่างที่เขาพูดว่า”You gat wath you pay”ภาษาฝรั่ง เขาพูดอย่างนี้ ท่านทำอะไรท่านได้อย่างนั้น ตัวเองไม่ได้เดือดร้อน แต่ประเทศชาติเดือดร้อนคนอื่นเดือดร้อน สิ่งเหล่านี้ในเมื่อทุกคนบอกรักชาติ รักประเทศ ต้องการจะแก้ไขประเทศก็ต้องเริ่มจากการแก้ไขตัวเองเสียก่อน ถ้าเริ่มต้นในสิ่งที่ขัดแย้งกันตลอด ก็ไปไม่ได้ทั้งหมด วันนี้เราต้องมองไปข้างหน้าโดยสืบสานตั้งแต่วันนี้ ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนปุ๊บเลยทีเดียวแล้วเป็นแบบนั้นเลยลองไปดูว่าทำได้หรือไม่”
ดักคอซัดคนเดิมชักใยเด็กชุมนุม
“หลายคนก็พูดออกมา แล้วทำให้เกิดความเชื่อมั่น เชื่อถือโดยที่ไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่พูดมาแล้วนั้นเป็นอันตราย หรือทำได้หรือไม่ได้ แต่ทุกคนก็พูดให้เพื่อเป็นการปลุกเร้าคนเหล่านี้ซึ่งผมคิดว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด เราผ่านบทเรียนมามากพอสมควรแล้ว ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดมาหลายครั้งแล้วและบางครั้งคนเดิมๆเขาอยู่และวันนี้ก็ยังทำเช่นนั้นอยู่ ทุกคนทราบดี ผมคงไม่ไปเอ่ยถึงใครให้มีปัญหากันอีก แต่ทุกคนต้องมีจิตสำนึก ตราบใดที่ทุกคนยืนในประเทศไทย ก็ต้องคิดร่วมกันทำให้ประเทศชาติ ประชาชนปลอดภัย การพัฒนาประเทศเดินไปข้างหน้า”
ลั่นทำเพื่อคนไทยลูกหลาน67ล้าน
พล.อ.ประยุทธ์ยังระบุว่าหลายส่วนหลายอย่างทุกคนต้องยอมรับว่ามีความก้าวหน้า บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างไม่ได้ก็ต้องแก้กันต่อไป คิดว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่นำทุกอย่างมาแก้ไข ปัญหา อุปสรรคในอดีตที่ผ่านมา และเดินหน้าประเทศได้หลายมิติ ขอให้ความเป็นธรรมด้วยจากการทำงานของรัฐบาล ไม่ว่าตนจะมาอย่างไรก็ตามแต่คิดว่าตนได้ทำหลายอย่างให้กับประเทศไทย เป็นการทำงานตามหน้าที่ เมื่อเป็นนายกฯก็ต้องทำหน้าที่และไม่ต้องการให้ใครมาชื่นชม ผมภูมิใจตัวเองว่าทำสิ่งเหล่านี้เพื่อใคร ก็ทำเพื่อคนไทย เพื่อลูกเพื่อหลาน67ล้านคนในปัจจุบัน ขอให้นึกถึงคนอีก60กว่าล้านคน เขาจะลำบากหรือไม่ เขาจะเดือดร้อนไหม ถ้าประเทศชาติเกิดความวุ่นวาย และต่างชาติจะเป็นอย่างไร วันนี้เราได้เตรียมการท่องเที่ยวในการนำคนเข้ามาเพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
วอนทุกฝ่ายช่วยเหลือบ้านเมือง
นายกฯยังฝากถามว่าถ้าทุกอย่างหยุดวันนี้แล้วใครจะทำแล้วจะทำได้หรือไม่ ลองมองและสื่อสารทั้ง2ทางแล้วมาวิเคราะห์ใคร่ครวญดูว่าจะทำอย่างไร ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของคนไทยทุกคน บ้านเมือง ก็มีปัญหาเยอะอยู่พอสมควรแล้ว ตนก็พยายามแก้ให้มากที่สุด ถ้าเรามัวแต่ขัดแย้งกันไปมาหรือทำงานเริ่มต้นด้วยความขัดแย้งก็ไปไม่ได้ทั้งหมดไม่ว่าใครจะมาหรือจะไป ก็ทะเลาะกันอยู่แบบนี้แล้ว ประเทศชาติจะอยู่ได้ไหม ที่เราเรียกว่าศักยภาพของประเทศไทยมีมากมายทุกคนรู้ดี หลายคนอาจไม่เข้าใจ จะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ จะทำลายศักยภาพและโอกาสของประเทศไทยในเวทีโลกสิ่งที่อยากจะฝากไปยังประชาชนพ่อแม่ พี่น้องทุกคนนอกเหนือจากกลุ่มที่ชุมนุมเหล่านี้ได้เข้าใจว่าจะช่วยเหลือบ้านเมืองกันได้อย่างไรในเวลานี้
เมื่อถามว่าหากการชุนนุมเคลื่อนมาใกล้เขตพระราชฐาน นายกฯจะให้ข้อคิดอย่างไรบ้างนายกฯกล่าวว่า”กฎหมาย คือ กฎหมาย”
เผยตุลาชัดเจน‘ขุนคลัง’คนใหม่
ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการทาบทามคนนอกเป็นรมว.คลัง คนใหม่ว่า ขณะนี้มีกรอบเวลาอยู่ภายในเดือนหน้า เมื่อถามถึงรายชื่อที่มีการเผยแพร่ทางสื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า“นายกฯเสนอหรือเปล่า ทั้ง3คน นายกฯยังไม่ได้พูดอะไรเลย มาจากไหน ใครเสนอ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ทุกคนมีความคุณสมบัติหมด แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯและความสมัครใจด้วย”เมื่อถามว่าได้มีการทาบทามแล้วใช่หรือไม่ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“ก็มีการทาบทามมาตลอดW เมื่อถามย้ำว่าแต่ขณะนี้ยังไม่มีการตอบกลับมาใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า“ก็เดี๋ยวคอยต.ค.”
เพจลุงตู่ตูนโพสต์คลิปซึ้งวอนทุกฝ่าย
แฟนเพจเฟซบุ๊ก“ลุงตู่ตูน”ที่สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โพสต์ข้อความว่า“นายกฯลุงตู่ ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของนักเรียน-นักศึกษาเพราะทุกคนคือลูกหลานคนไทยด้วยกัน”พร้อม แนบคลิปวิดีโอ ความยาว 3 นาทีเศษ มีภาพภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ที่ร่วมกิจกรรมกับเด็ก เยาวชนในหลายวาระอย่างเป็นกันเองรวมทั้งยังแทรกคำให้สัมภาษณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ หลังประชุมครม.เมื่อวันที่15 ก.ย.ที่แสดงความเป็นห่วงการชุมนุมที่มีการชักชวนเด็กและเยาวชนเข้าร่วม“ท่านรักลูกของท่าน ผมก็รักลูกของผม แต่ผมก็รักลูกของท่านไปด้วยเพราะผมเป็นนายกรัฐมนตรีนั่นคือสิ่งที่ผมต้องดูแลและขอให้ทุกคนช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ช่วงนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ
สำหรับคลิปวิดีโอยังได้นำเพลง“กอด”ของศิลปิน“วงทีโบน”เวอร์ชั่นที่มีศิลปิน“ลุลา”ร่วมร้อง เนื้อร้องช่วงหนึ่งว่า“โลกเราวันนี้สับสนเหลือเกิน ฉันเลยเป็นห่วง เห็นเธอเหนื่อยล้า เลยคิดว่าดีหากเรากอดกัน จับมือกอดกันไว้ ร้อยดวงใจของเราสองคน กอดโลกใหญ่ใบกลม กอดให้ทุกคนได้เป็นสุขใจ...”มาบรรเลงประกอบด้วย และช่วงท้ายคลิปได้ขึ้นข้อความอีกว่า“นายกฯลุงตู่ รักและห่วงใยลูกหลานไทยทุกคน แล้วเราจะเดินหน้านำประเทศสู่ความเจริญด้วยกัน”
บิ๊กป้อมลั่นคุมม็อบอยู่-ไม่ให้มีปะทะ
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงที่ได้รับมอบหมายจากนายกฯให้ติดตามความเคลื่อนไหวการชุมนุมในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดูแลกันอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง ยืนยันว่าเราจะไม่ให้มีการปะทะกันส่วนฝ่ายความมั่นคง ก็ยังไม่มีการแจ้งเรื่องจำนวนของผู้เข้าชุมนุม เมื่อถามว่านายกฯกำชับให้ดูแลอย่างนุ่มนวล แต่ต้องให้เป็นไปตามกฎหมาย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่าต้องนุ่มนวล ไม่ให้มีการปะทะกัน ในส่วนของทำเนียบฯมีระเบียบอยู่แล้วว่าไม่ให้เข้าใกล้เกิน 50เมตรเมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า จะไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาปิดล้อมทำเนียบฯได้ รองนายกฯตอบว่า“จะมั่นใจหรือ ไม่มั่นใจ ส่วนผมต้องดูแลของผมไม่ดูได้อย่างไร ผมต้องดูแลความสงบ’
ห้ามจอดรถทำเนียบ-ไว้รับจนท.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่าสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีหนังสือถึงหน่วยงานภายในทำเนียบรัฐบาลในช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยมีเนื้อหาว่าด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีภารกิจสำคัญและมีความจำเป็นจะต้องใช้พื้นที่ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ระหว่างวันที่18-20กันยายนนี้ กองสถานที่ ยานพาหนะและรักษาความปลอดภัย จึงออกเอกสารประชาสัมพันธ์แจ้งข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล ขอความร่วมมือห้ามจอดรถยนต์ชั่วคราวในวันศุกร์ที่ 18กันยายน ตั้งแต่เวลา16.30น.ไปจนถึงวันอาทิตย์ที่ 20กันยายนนี้ ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องเข้ามาปฎิบัติภารกิจช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่อนุญาตให้นำรถยนต์เข้ามาแต่สามารถเดินเข้ามาได้เพียงประตูสะพานอรทัยและเข้าทางประตู 8 ได้เพียงประตูเดียว
มีรายงานข่าวด้วยว่า การประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือดังกล่าว เพื่อเป็นการจัดเตรียมสถานที่ อำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้ามาดูแลความปลอดภัยและรักษาความสงบเรียบร้อยช่วงการชุมนุมวันที่19กันยายนและการประกาศเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายนด้วย
ย้ำจนท.ต้องพร้อมหลังเย็น18ก.ย.
ด้านพ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3รับผิดชอบทำเนียบรัฐบาลเผยว่ากำลังตำรวจที่จะเข้ามาปฏิบัติงานภายในทำเนียบรัฐบาล แบ่งเป็นตำรวจนครบาล1กองร้อย และ ตำรวจสันติบาลอีก 1กองร้อย ยังไม่กำหนดวันเวลาเข้าพื้นที่ แต่หลังช่วงเย็นวันที่ 18 ก.ย.ทุกฝ่ายจะต้องมีความพร้อมทั้งหมด และยืนยันว่าไม่มีการประสานนำกำลังทหารเข้ามาประจำการอยู่ในทำเนียบแต่อย่างใด
จัดตร.14จุดทั่วกรุงคุมม็อบ19 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)มีหนังสือถึงผบช.น.,ภาค1-8 และ ตชด.ขอรับการสนับสนุนกองร้อยควบคุมฝูงชน 57กองร้อยจากตำรวจเพื่อปฎิบัติภารกิจการรักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ในวันที่ 19 กันยายน
โดยรายงานว่ามีการจัดกำลังในการรักษาความสงบเรียบร้อย ในวันที่19กันยายน ไปตามจุดต่างๆ ดังนี้ 1.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ รวม 3 กองร้อย แบ่งเป็น บก.1,ภ.จว.ตราด 1 และ ภ.จว.ชลบุรี 2.พระบรมมหาราชวัง 4 กองร้อย แบ่งเป็น บก.น.5 บก.น.6 และ บก.น.3 ภ.จว.มหาสารคามอย่างละ 1กองร้อย 3.อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 3 กองร้อย ภ.จว.ชัยภูมิ, ภ.จว.ปทุมธานีและภ.จว.สมุทรปราการ 4.แยก จปร. 3 กองร้อย จากบก.น.1 ภ.จว.ชลบุรี และ ภ.จว.ตราด 5.แยกสะพานมัฆวาน 3 กองร้อย จากกก.ตชด.11 กก.ตชด.12 ภ.จว.สระแก้ว 6.แยกสะพานวิศสุกรรมนฤมาณ ภ.จว.นครปฐม 1 กองร้อย 7.แยกสะพานเทเวศนฤมิตร ภ.จว.สุพรรณี 1กองร้อย 8.แยกสวนมิสกวัน ภ.จว.กำแพงเพชร 1 กองร้อย 9.แยกอู่ทองนอก ภ.จว.ลพบุรี 1กองร้อย 10.สถานีดับเพลิงวชิระ ภ.จว.สิงหบุรี 1กองร้อย 11.แยกเทวกรรม ภ.จว.กาญจบุรี 1 กองร้อย 12.แยกพาณิชยกรรม 2 กองร้อย จาก กก.ตชด.13 ภ.จว.ชัยนาท 13.แยกเสาวนี ภ.จว.เพชรบุรี 1กองร้อย 14.แยกอุภัยเจษฎุทิศ ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์1 กองร้อย
มธ.ปิดประตูกันม็อบ19-20กย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.มุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ลงนามในบันทึกข้อความ ส่วนราชการ งานธุรการ เรื่อง งดการเรียนการสอน และงดการติดต่อในวันที่19-20 กันยายน 2563 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
เนื่องจากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และคณะประชาชนปลดแอก จะจัดการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 19กันยายน 2563 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จึงขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ให้งดการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและงดการติดต่อ ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2563 และให้มหาวิทยาลัยปิดประตูทางเข้า – ออกด้านสนามหลวง และด้านท่าพระจันทร์ โดยให้เข้า – ออกประตูด้านพระอาทิตย์เพียงประตูเดียว และจะต้องแสดงบัตรประจำตัวพนักงานมหาวิทยาลัย หรือบัตรประจำตัวประชาชน โดยแจ้งเหตุผลว่าจำเป็นแก่เจ้าหน้าที่
งดกิจกรรมการเรียน-สอน
เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของฝ่ายความมั่นคงและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดังที่กล่าวมาข้างต้น คณะนิติศาสตร์จึงงดการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และงดการติดต่อที่ท่าพระจันทร์ ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2563 และคณะนิติศาสตร์ มีความจำเป็นต้องปิดประตูทางเข้า-ออก ทุกจุดภายในอาคารคณะนิติศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จึงขอความร่วมมือคณะอาจารย์ และเจ้าหน้าที่ งดเว้นการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว หากท่านมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเข้ามาที่คณะนิติศาสตร์ ขอให้ท่านแจ้งให้ หัวหน้างานธุรการ (ท่าพระจันทร์) ทราบ เพื่อดำเนินการประสานงานไปที่เจ้าหน้าที่ส่วนกลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ในวันดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับท่าน
กทม.แจงข้อปฎิบัติใช้สนามหลวง
ด้านนายสุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร กรุงเทพมหานครกล่าวถึงมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์ว่าได้มีการปลดป้ายเขตพระราชฐานออกแล้วอนุญาตให้ประชาชนเดินผ่านท้องสนามหลวงได้อีกครั้งว่า เรื่องการปลดป้าย ไม่ทราบข้อเท็จจริงแต่เมื่อ2-3วัน กทม.โดยทางเขตพระนครในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่ได้ให้เจ้าหน้าที่นำป้ายอนุญาตการเข้าใช้พื้นที่ของประชาชนตั้งแต่เวลา 05.00-22.00น.ซึ่งเป็นการดำเนินการตามประกาศ กทม.เมื่อปี2555 ที่อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจหรือมีกิจกรรมสันทนาการนับตั้งแต่บัดนี้ประชาชนสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ในสนามหลวงเพื่อออกกำลังกาย พักผ่อน สันทนาการได้ตามเวลาที่กำหนด
ลั่นห้ามชุมนุมสนามหลวง-ผิดกติกา
“แต่หากจะเข้าไปจัดกิจกรรมใดๆที่เป็นการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ยังจำเป็นต้องขออนุญาตจาก กทม.ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวอนุญาตให้จัดกิจกรรมได้เพียง4กรณีคือ1.จัดงานพระราชพิธี 2.จัดงานพิธี 3.จัดงานประจำปีและ4.จัดงานหรือกิจกรรมของหน่วยงานราชการ”นายสุรเดชย้ำและเมื่อถามว่าวันที่19 ก.ย.ประชาชนจะสามารถเข้าไปชุมนุมทางการเมืองได้หรือไม่ ผอ.เขตพระนครกล่าวว่าถ้ายึดตามประกาศดังกล่าว ยังไม่สามารถกระทำได้จนกว่าจะยื่นขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากกทม.แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีขอเข้ามา ถ้าขอมา กทม.ก็อนุญาตไม่ได้ เพราะผิดกติกา
ยันฝ่าฝืนเข้าชุมนุมผิดพรบ.ชุมนุม
เมื่อถามว่าหากประชาชนฝ่าฝืนประกาศ เช่นเข้าไปใช้พื้นที่เกินเวลาที่กำหนดหรือมีการชุมนุมทางการเมืองกทม.จะดำเนินการอย่างไรนายสุรเดชกล่าวว่า ในกรณีเข้าไปออกกำลังกายหรือพักผ่อน สันทนาการเกินเวลา22.00น.เจ้าหน้าที่สามารถทำได้เพียงการตักเตือน แต่เอาผิดไม่ได้ ส่วนการชุมนุมนั้น ในประเด็นนี้ ยังมีกฎหมายอื่นๆ ที่ตำรวจนำเข้ามาบังคับใช้ด้วย เช่น พ.ร.บ.การชุมนุมฯ ที่กำหนดว่าต้องห่างจากเขตพระบรมมหาราชวังราชวัง หรือ เขตพระราชฐาน ไม่ต่ำกว่า150เมตรเป็นต้น
บิ๊กตู่ชี้ทำลายปชช.นับสิบล้านคน
เย็นวันเดียวกัน พล.อ.ประยุททธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แถลงการณ์ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ช่วงหนึ่งถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมว่าขอใช้โอกาสนี้พูดกับคนกลุ่มต่างๆที่อยากจะออกมารวมตัวกันประท้วงด้วยเหตุผลต่างๆของท่าน เมื่อเวลาที่มารวมตัวกันนั้นท่านกำลังเพิ่มความเสี่ยงอย่างมหาศาล ที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ในประเทศไทย ขณะเดียวกันท่านกำลังเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำลายการทำมาหากินของคนไทยด้วยกันอีกสิบๆล้านคน การจุดชนวนการแพร่ระบาดโควิดให้เสี่ยงที่จะลุกโชนขึ้นมาอีก นั่นจะส่งผลกระทบที่เลวร้ายและทวีคูณปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยไปสู่ระดับที่เรายังไม่เคยเจอมาก่อนผม ขอให้ทุกท่านคำนึงถึงเรื่องนี้ให้มาก
ซัดม็อบทำศก.ฟื้นช้า-ลดเชื่อมั่น
“ผมขอบอกทุกคนที่อยากจะออกมาชุมนุมชัดๆว่า ผมได้ยินสิ่งที่ท่านพูด ผมรับทราบความคับข้องใจของพวกท่านในเรื่องการเมืองและความไม่พอใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ผมเคารพความคิดเห็นและความรู้สึกของท่าน แต่วันนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความเจ็บปวดเร่งด่วน ที่เราจำเป็นต้องจัดการก่อน นั่นคือการบรรเทาความเสียหายทางเศรษฐกิจที่โควิดได้ก่อให้เกิดขึ้นไปทั่วโลก เราไม่ควรทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งไปกว่านี้ การชุมนุมจะทำให้การฟื้นเศรษฐกิจเกิดการล่าช้า เพราะจะทำลายความเชื่อมั่นของนักธุรกิจและสร้างความลังเลใจให้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาเมืองไทย เมื่อถึงเวลาที่เราพร้อมจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง การชุมนุมจะสร้างความวุ่นวายในประเทศและทำลายสมาธิการทำงานของภาครัฐ ในการจัดการกับโควิดและปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า
ปกป้องชีวิตปชช.-ฟื้นศก.คือหน้าที่
“สิ่งที่ผมสั่งการไปคือ ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับผู้ชุมนุมด้วยความนิ่มนวล เพราะผมยังเชื่อว่า ผู้ที่จะออกมาประท้วง จะมีความตระหนักรู้ ถึงสิ่งที่ควรต้องระมัดระวัง และอยู่ในขอบเขต แต่ผมก็ขอฝากไปถึงทุกคนที่จะออกมารวมตัวกันว่า ขอให้นึกถึงพี่น้องคนไทยด้วยกันให้มากๆ คนไทยอีกเป็นสิบๆ ล้านคน ที่จะได้รับผลกระทบ จากการที่ท่านกำลังเพิ่มความเสี่ยงในการเจ็บป่วยจากโควิด และเพิ่มความเสี่ยงให้เราต้องกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง ภารกิจของผมชัดเจนคือผมต้องปกป้องคนไทยไม่ให้เกิดการสูญเสียในชีวิต เป็นหมื่นๆชีวิต เหมือนในประเทศอื่นและป้องกันหายนะทางเศรษฐกิจที่จะตามมาจากการเสียชีวิตของผู้คน และหายนะที่จะตามมาจากการล็อกดาวน์ ฉะนั้นเราต้องระมัดระวังในการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามา เพราะมีความเสี่ยงในการนำเชื้อโควิดเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับเราทุกคน แต่ขณะที่ทำอย่างนั้น ผมก็รู้ถึงความเจ็บปวดของทุกคนที่อยู่ในภาคการท่องเที่ยว หลายครั้งผมนอนไม่หลับนะครับ เมื่อคิดถึงจำนวนคนที่ต้องตกงาน และจำนวนธุรกิจที่ต้องปิดกิจการลง”
ชี้ระบาดรอบ2ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก
“เรากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากไม่มีทางออกไหนที่ไม่มีความเจ็บปวดรออยู่ การเปิดประตูประเทศอาจจะทำให้มีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในระดับหนึ่ง แต่เราก็รู้ว่าจะมีโควิดเข้าประเทศมาด้วยแน่นอน แม้จะตรวจเช็คขนาดไหนก็ตาม สิ่งที่ผมกังวลคือหากเกิดการระบาดใหญ่เป็นวงกว้างในประเทศ เราอาจจะไม่สามารถรับมือได้ ถ้าเกิดขึ้นแบบนั้น ความเดือดร้อนในเรื่องของเศรษฐกิจปากท้องจะยิ่งรุนแรงกว่าที่เป็นอยู่จะไม่ได้ส่งผลเฉพาะกับภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่จะส่งผลกับทุกภาคส่วนในสังคม เรากำลังเดินเข้าสู่ช่วงเวลาที่จะยิ่งยากลำบากมากขึ้น เราจึงควรวางเรื่องการเมืองเอาไว้ก่อน แล้วจับมือร่วมแรงร่วมใจกันผ่านพ้นความยากลำบากที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลกไปให้ได้ ผมขอให้ทุกคนยกการ์ดตัวเองให้สูงอีกครั้ง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่างทางสังคมและโชว์สปิริตของความเป็นไทยต่อไป ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันเอาชนะโควิดให้ได้”พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี