ห้ามล้ำเส้นลานพระบรมรูป
บิ๊กป้อมเตือนม็อบ
ตร.จัดกำลังหมื่นนายดูแล
สั่งงัดแผน‘ชุมนุม63’รับมือ
แฉระดมคนตจว.เข้าสมทบ
ยังไม่พบมือที่สามจ้องป่วน
บก.ทบ.ตรึงทหารสกัดจู่โจม
“บิ๊กตู่” กล่อมนักเรียน “ลุงเคยอายุเท่าหลานๆ รับรู้ความต้องการทุกคนดี” ยันจะทำให้ดีขึ้นตามลำดับ ไม่ได้ยกโควิดระบาดรอบ 2 ขู่ แต่เป็นห่วงด้วยใจจริงด้าน “บิ๊กป้อม” ฮึ่มห้ามล้ำเส้น เข้าลานพระบรมรูปทรงม้า แฉระดมพลหลายจว.สมทบ ไม่ห่วง 19 กันยายน ยันเอาอยู่ ขณะที่ “ผบ.ทบ”หวั่นม็อบบุก สั่งตรึงกำลังป้องกัน “บก.ทบ.” เตรียมรถฉีดน้ำ-ทหารจิตวิทยา เข้าทำความเข้าใจ เน้นการไม่เผชิญหน้าตำรวจงัดแผนใหม่’ชุมนุม63’ใช้กับม็อบ19ก.ย.ครั้งแรก ส่งกำลังกว่า1หมื่นนาย เข้าพื้นที่ตั้งแต่18กันยายนนี้
เมื่อวันที่ 18กันยายน ที่ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดและปิดการฝึกซ้อมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัย ประจำปี 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ทักทายและถือโอกาสพูดคุยกับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มาร่วมในงานตอนหนึ่งว่า เด็กเหล่านี้คืออนาคตของชาติ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นต้องแก้ปัญหาที่ระบบการศึกษาของเรา โดยต้องปรับให้ทันสถานการณ์และโลกปัจจุบัน
‘บิ๊กตู่’เข้าใจเยาวชนต้องการอะไร
“ลุงก็เคยอายุเท่าหลานๆ แต่ชีวิตผ่านมา50-60ปีแล้ว เคยรู้เคยมีประสบการณ์และรู้ถึงความต้องการของเด็กๆและอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ขอยืนยันว่าสิ่งที่ลุงและรัฐบาลทำจะดีขึ้นตามลำดับ วันข้างหน้าก็จะทำต่อไปและจะดีขึ้นอีก เราต้องทำงานไปด้วยกัน พร้อมสานต่อสิ่งที่ดีงาม สร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันและในทุกๆเรื่อง ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ไม่ว่าจะวงเล็ก หรือวงใหญ่ และแม้จะเป็นเด็กทุกคนก็มีความคิด วันนี้ลุงก็รับฟังทั้งหมด วันนี้หน้าที่ของพวกเราคือ การเรียนหนังสือและเรียนให้มาก อนาคตเราต้องเตรียมตัวให้พร้อม ส่วนอย่างอื่นก็มีหลายฝ่ายพร้อมที่จะทำให้ แต่เราต้องกำหนดอนาคตตัวเอง เราต้องตั้งความหวังและเดินไปถึงความหวังตรงนั้นให้ได้ ราต้องไปด้วยกันให้ได้ แต่อย่าให้ใครมากำหนดชีวิตเรา วันนี้รัฐบาลเตรียมนโยบายและมาตรการต่างๆไว้สำหรับทุกคน’
อยากเป็นครูต้องทันสถานการณ์
จากนั้น นายกฯได้สอบถามเด็กๆว่า โตขึ้นอยากประกอบอาชีพอะไร พร้อมแนะนำว่าถ้าไม่อยากเรียนสายสามัญก็ให้เรียนสายอาชีวะรับรองมีงานทำแน่ และแนะนำให้เด็กๆ หันมาออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยทั้งในเรื่องของสมองและสุขภาพ อีกทั้งต้องระมัดระวังตัวเอง โดยเฉพาะขณะนี้ที่ยังมีการแพร่ระบาดกับโควิด-19 ส่วนเด็กคนไหนมีความฝันอยากเป็นครู ถือเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะครูคือผู้อบรมสั่งสอนเด็กๆ ทุกคน โดยเฉพาะการเป็นครูสมัยใหม่จะต้องสอนและถ่ายทอดในสิ่งที่ถูกต้อง การเป็นครูปัจจุบันจะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องเข้าใจนักเรียนและเข้าใจสิ่งแวดล้อม ถ้ายังเป็นครูแบบเดิมก็ไปไม่ได้
ห่วงม็อบติดโควิด-รับมือไม่ไหว
พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อห่วงใยการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง ว่า ‘แล้วเป็นห่วงหรือไม่ ก็เป็นห่วงใช่หรือไม่ ตนห่วงทุกเรื่อง ไม่ใช่ห่วงตรงนี้เพื่อไปกดดันตรงนู้น ขอให้มองเจตนารมณ์ของคนเป็นนายกฯ นายกฯมีแต่ความห่วงใย ที่พูดไปเมื่อวานห่วงใยจริงๆ ผมไม่ต้องการจะไปข่มขู่ใครทั้งสิ้น แต่มันเป็นเรื่องจริง ฉะนั้นผู้ใหญ่ทุกคนจะต้องเข้าใจตรงนี้ ต้องห่วงใยลูกหลานของท่าน ถ้ามันเป็นอะไรกันขึ้นมา จะรับมือกันไหวหรือเปล่า แค่นั้นที่เป็นห่วง เพราะคนมันจำนวนมาก แม้จะมีความพร้อมอยู่ก็ตาม ฉะนั้นอะไรก็ตามที่จะลดภาระให้กับเจ้าหน้าที่ได้บ้าง ซึ่งต้องมาตรากตรำหลายเรื่อง ทั้งโควิดด้วย อะไรด้วย หลายอย่าง เจ้าหน้าที่เขาก็เหน็ดเหนื่อย’
‘บิ๊กป้อม’ฮึ่มอย่าลุยไปลานพระรูป
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการดูแลสถานที่สำคัญและสถานที่ราชการในวันที่ 19-20กันยายน ว่า ไม่ต้องห่วง ตนทำไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่า หากผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบฯและเดินต่อไปยังลานพระบรมรูปทรงม้าจะดูแลอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องป้องกัน เขามีทางอื่นก็เลี่ยงไปที่อื่น อย่าไปลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อถามต่อว่า ทางการข่าวมีการรายงานว่ามีอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี
รู้แล้วระดมตจว.เข้าร่วมสมทบ
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีการระดมพลมาจากหลายจังหวัดและมีการปล่อยคลิปต่างๆ มีการประชุมการวางแผนกัน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า“ผมรู้ ผมรู้ ผมรู้ รู้หมดแหล่ะ ไม่เป็นอะไรก็ปล่อยให้เขาว่ากันไป”เมื่อถามอีกว่าดูเหมือนท่านไม่กังวลเรื่องนี้เท่าไหร่ แสดงว่ามั่นใจว่า จะดูแลได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ส่ายศีรษะพร้อมกล่าวว่า ไม่กังวล ดูแลได้อยู่แล้ว
‘บิ๊กแดง’สั่งตรึงกำลัง’บก.ทบ.’
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน แหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เพื่อประเมินการชุมนุมในวันที่ 19กันยายน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าการเคลื่อนขบวนของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ประกาศจะเดินทางมาทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องนั้น เส้นทางของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ต้องผ่านมาบริเวณหน้า บก.ทบ.ผ่านไปยังทำเนียบรัฐบาล โดย พล.อ.อภิรัชต์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนตั้งรับป้องกันสถานที่ราชการโดยเฉพาะพื้นที่ภายในบก.ทบ.ซึ่งถือเป็นสถานที่สำคัญล่อแหลมต่อการบุกรุก
ทั้งนี้ ภายใน บก.ทบ.มีการนำรถประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการด้านจิตวิทยามวลชนติดโทรโข่ง พร้อมรถบรรทุกฉีดน้ำและกำลังเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการจิตวิทยาเหมือนในอดีตซึ่งเคยมีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.พังประตูบุกเข้ามาในบก.ทบ.โดยการป้องกันพื้นที่ครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จมาแล้วแต่ก็มีความจำเป็นต้องป้องกันการบุกรุกสถานที่ราชการ เพราะถือว่า ผิดกฎหมาย หากครั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะใช้พลังมวลชนบุกเข้ามาในพื้นที่บก.ทบ.ก็จะมีเจ้าหน้าที่ใช้โทรโข่งชี้แจงให้เกิดความเข้าใจในเบื้องต้น โดยปฏิบัติการนี้จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ บริเวณประตูด้านหน้าและด้านหลังบก.ทบ.ได้ติดตั้งเแบริเออร์ป้องกันรถบุกเข้ามา พร้อมติดตั้งลวดหนามรอบพื้นที่ด้วย
ตร.ใช้แผนใหม่’ชุมนุม63’รับมือ
พ.ต.อ.กกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษกตร.) กล่าวว่า สํานักงานตํารวจแห่งชาติจะใช้แผน’รักษาความสงบชุมนุมสาธารณะหรือแผนชุมนุม63 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” กำกับดูแลการชุมนุมวันที่ 19กันยายนและการชุมนุมจากนี้ตลอดไปแทนแผนกรกฎ52 ที่ใช้มานานกว่า10ปี ซึ่งไม่ทันสมัย เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงและจากการระบาดเชื้อโควิด ผบ.ตร.จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาปรับปรุงแผนขึ้นมาใหม่ ให้มีความทันสมัย เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและรองรับ พรบ.ชุมนุมสาธารณะที่บังคับใช้เมื่อปี2558ซึ่งแผนได้ทำเสร็จและผบ.ตร.ลงนามบังคับใช้เมื่อวันที่ 15กันยายนที่ผ่านมา วันที่ 19กันยายน จึงเป็นครั้งแรกที่จะนำแผนชุมนุม63มาใช้กับสถานการณ์ชุมนุมจริง
สำหรับแผนชุมนุม63 ยังยึดแนวทางปฏิบัติกับผู้ชุมนุมจากมาตรการเบาไปหาหนักเหมือนแผนกรกฎ52และไม่มุ่งเน้นใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ แต่เน้นเรื่องเข้าปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในการดูแลการชุมนุม เช่น รอให้การชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย กำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบรวมทั้งตำรวจหญิงรวมกว่า 1หมื่นนาย จะเริ่มเข้าพื้นที่ประจำจุดรักษาความปลอดภัยตั้งแต่คืนวันที่ 18กันยายน ยืนยันการข่าวยังไม่พบการพยายามสร้างสถานการณ์ของมือที่สาม โดยมีรายงานว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในวันที่ 19กันยายน มีคำสั่งห้ามพกพาอาวุธอย่างเด็ดขาด
แนะเส้นทางจราจรเลี่ยงกลุ่มม็อบ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.คมศักดิ์ สุมังเกษตร ผบก.จร.ร่วมแถลงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับทราบ เนื่องจากในวันที่ 19-20กันยายน จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมมาจัดกิจกรรมทางการเมืองที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์และอาจมีการเคลื่อนขบวนไปยังทําเนียบรัฐบาล
พล.ต.ต.จิรสันต์ ได้แนะประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรระหว่างวันที่ 19-20กันยายน2563 เนื่องจากจะมีการชุมนุมใหญ่ของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมและคณะประชาชนปลดแอก บริเวณ มธ. ท่าพระจันทร์และอาจมีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดย 9เส้นทาง 2สะพาน เส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน ถนนหลานหลวง ถนนราชดำเนินกลาง ถนนดินสอ ถนนราชดำเนินนอก ถนนตะนาว ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า สะพานพระราม8 ถนนวิสุทธิกษัตริย์และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนจักรพรรดิพงษ์ เส้นทางที่แนะนำให้ใช้หลีกเลี่ยงผลกระทบด้านการจราจร ได้แก่ เส้นทางจากฝั่งพระนคร ไปฝั่งธนบุรี หากลงจากทางด่วนยมราช สามารถเลี่ยงเส้นทางไปใช้ถนนสวรรคโลก เข้าถนนราชวิถี ข้ามสะพานกรุงธนบุรี หรือสะพานซังฮี้ หากมาจากทางถนนพระราม6 สามารถเลี่ยงเข้าทางถนนพระราม 1 ไปทางถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม เข้าถนนเยาวราช-ถนนจักรวรรดิ์ ไปขึ้นสะพานพระปกเกล้า หากมาทางถนนพระราม4 สามารถเข้าทางถนนเยาวราชไปถนนจักรวรรดิ์เพื่อข้ามสะพานพระปกเกล้า หรือไปทางถนนสาทรใต้ ข้ามสะพานตากสิน ข้ามไปฝั่งธนบุรีได้เช่นกัน
ส่วนเส้นทางที่จะมาจากฝั่งธนบุรี ข้ามไปฝั่งพระนคร หากใช้เส้นคู่ขนานลอยฟ้า สามารถเข้าทางด่วนศรีรัช-ไปแจ้งวัฒนะ หรือ จตุจักร หรือลงถนนสิรินธร ข้ามสะพานกรุงธน หรือสะพานซังฮี้ เพื่อเข้าถนนพระราม6 หากมาจากทางสะพานพระปกเกล้า สามารถเข้าทางถนนจักรเพชร ไปทางถนนมหาไชย ผ่านแยกสามยอด เข้าถนนเจริญกรุง เพื่อออกไปยังถนนพระราม 4 หรือจากแยกสามยอด เข้าถนนเจริญกรุง ไปทางแยกเอสเอบี ผ่านถนนวรจักร ถนนบำรุงมือง เพื่อเข้าถนนพระราม 1 และหากมาทางสะพานพุทธยอดฟ้า ก็สามารถเข้าถนนจักรเพชร ถนนอัษฎางค์ – ถนนบำรุงเมือง ไปถนนพระราม1
ไม่ปิดถนน-‘ดาวกระจาย’พร้อมดูแล
รอง ผบช.น.กล่าวว่า เบื้องต้นจะยังไม่ปิดจราจร ยกเว้นกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่และลงมายังพื้นผิวการจราจรก็จะเสนอให้ปิดการจราจรในจุดนั้น ส่วนกรณีมีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล อาจจะพิจารณาปิดการจราจรชั่วคราวบางจุด ซึ่งตำรวจเตรียม 2เส้น คือ ถนนราชดำเนินนอก และถนนนครสวรค์ ส่วนกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนแบบดาวกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ และอาจมีการเคลื่อนขบวนในเวลากลางคืนนั้น ตำรวจวางมาตรการไว้ตลอด 24ชั่วโมง ไม่ว่าจะดาวกระจายไปจุดไหนสามารถรองรับได้ โดยจะใช้กำลังตำรวจจราจรกว่า 300นาย เข้าประจำจุดทันที พร้อมกันนี้ ตำรวจได้กำหนดเส้นทาง กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเพื่อนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงให้เร็วที่สุด ประกอบด้วย ถนนพระอาทิตย์, สนามไชย, และถนนดินสอ เนื่องจากคำนึงถึงชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน ส่วนบริเวณมธ.พื้นที่ชุมนุมหลัก ได้กำหนดจุดตรวจคัดกรองไว้ 4จุด เพื่อตรวจคัดกรองโควิด รวมถึงตรวจอาวุธและสิ่งผิดกฎหมาย โดยจะมีกำลังตำรวจ 16นาย ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ กทม.และสาธารณสุข
ยังไม่ขอจัดชุมนุม-ไม่สกัดคนตจว.
รอง ผบช.น.กล่าวว่า จนถึงขณะนี้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ยังไม่ประสานขออนุญาตใช้พื้นที่ชุมนุม หรือใช้เครื่องขยายเสียงในการเคลื่อนขบวน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงอยู่ระหว่างการประสานกับทางแกนนำ ส่วนกรณีประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดนั้น ยืนยันตำรวจไม่มีการสกัดกั้น เนื่องจากการชุมนุมเป็นสิทธิ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย สำหรับจุดจอดรถของสื่อมวลชน ได้กำหนดไว้บริเวณ ถนนราชินี หน้าโรงละครแห่งชาติและบริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯยืนยันสามารถรองรับได้เพียงพอ และหากฝนตกเนื่องจากมีพายุโนอึลและกรุงเทพฯจะได้รับผลกระทบด้วยนั้น ทางตำรวจได้มีการเตรียมความพร้อมเช่นกัน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเตรียมแผนฉุกเฉินไว้แล้ว
‘คณะก้าวหน้า’ยุลุกทวงคืนปชต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ“คณะก้าวหน้า”โพสต์ข้อความปลุกใจก่อนการชุมนุมใหญ่ “19 กันยา ทวงอำนาจคืนราษฎร”ใจความดังนี้ “14ปี ระบอบกินคน เริ่มมาตั้งแต่การรัฐประหาร19กันยายน2549 มาจนรัฐประหาร 22พฤษภาคม2557 ลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งล้มเลือกตั้ง ยึดอำนาจทำรัฐประหาร ดำเนินคดี-ตัดสิทธิผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยุบพรรคแล้วยุบพรรคอีก ทำลายกระบวนการยุติธรรม บังคับใช้กฎหมายหลายมาตรฐาน บิดผันกระบวนการยุติธรรม จับกุมคุมขังผู้ออกมาต่อต้าน ปิดกั้นสื่อ ล้อมปราบประชาชน เขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ ตั้งพวกพ้องเป็น สว.สอพลอ ร่วมกันยึดประเทศ ฯลฯ
‘หมอวรงค์’หวั่นสื่อต่างชาติจ้องถล่ม
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี เปิดเผยถึงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ว่า ตนกังวลว่าการชุมนุมรอบนี้ เยาวชนจะมาน้อย แต่จะมีการขนคนมาร่วมมากขึ้น จากกระแสการเกิดรัฐประหารและตนไม่เห็นถึงเหตุผลเพียงพอที่จะก่อให้เกิดรัฐประหาร แต่ถ้าหากมีภาพผู้เสียชีวิต อาจจะโดนนำมาหาประโยชน์ได้ โดยเฉพาะสื่อต่างชาติที่พร้อมจะสร้างกระแสให้รุนแรงมากขึ้น แม้ตนจะไม่พอใจรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นที่จะต้องเกิดเหตุรุนแรงอย่างสมัยของ นายทักษิณ หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ศรีฯขู่ฝ่ายค้านหนุนม็อบ-ผิดยุบพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี 6พรรคฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์เรียกร้อง มธ.เปิดพื้นที่ให้ชุมนุม 19 กันยายน โดยระบุว่า ไม่มีที่ใดปลอดภัยเท่ากับสถาบันการศึกษา พร้อมจี้รัฐบาลดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม รวมถึงรับฟังข้อเรียกร้องเพื่อพาประเทศออกจากวิกฤตินั้น นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ผ่านเพจ”ศรีสุวรรณ จรรยา”ข้อความว่า “6พรรคฝ่ายค้านประกาศหนุนม็อบ19กันยายน ระวังจะเข้าข่ายความผิดตาม ม.92(2) พรป.พรรคการเมือง60 โทษถึงยุบพรรคนะครับ”
‘พท.พร้อมช่วยประกันม็อบ-ถ้าถูกจับ
ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของนิสิต นักศึกษาและประชาชนในกมธ.การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล หรือผู้มีอำนาจ ดูแลผู้ชุมนุมทุกคนแบบญาติมิตร มองอย่างลูกหลานให้เหมือนกับที่นายกฯแถลงการณ์ ถ้ามีผู้ชุมนุมจำนวนมาก รัฐบาลคงทราบดีว่าจะอำนวยความสะดวกอย่างไร ขณะเดียวกันเราได้รับทราบการข่าวว่า การชุมนุมจะมีม็อบมาก่อกวน จะแต่งตัวเป็นมดแดง มดเอ็กซ์ เราจึงกังวลสิ่งที่ไม่พึงประสงค์คือมือที่3 หรือมือที่มองไม่เห็น เราไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็ขอฝากเจ้าหน้าที่รัฐดูด้วยใครที่ประสงค์ร้ายต่อผู้ชุมนุมก็ขอให้หยุด หรือไปชุมนุมกันคนละที่ที่ไกลออกไป
นายสมคิด กล่าวต่อว่า เราได้จัดเตรียมเอกสารสำหรับประกันตัวนิสิตนักศึกษาหากถูกดำเนินคดี โดยมีหลักการคือจะต้องเป็นนิสิตนักศึกษาที่ชุมนุมอยู่ในที่ชุมนุม หรือกรณีหากถูกดำเนินคดีแล้วไม่มีผู้ปกครองหรือครูอาจารย์มาช่วยเหลือ เราจะรับดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้รับเรื่องร้องเรียน โดยเฉพาะเด็กนักเรียนในสถานศึกษาถูกครูบางคนที่ยังไม่เข้าใจ คุกคามหลายโรงเรียน เราไม่อยากให้มีคดีความต่อกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี