“ตาเล็ก”โวยตำรวจ
เบี้ยวสัญญา
ไม่ช่วยแก้ข่าวแฮกเว็บ
ขู่หยุดให้ความร่วมมือ
ปชป.พร้อมช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร หรือนามแฝง “ตาเล็ก วินโดว์ 98 เอสอี” ผู้ต้องสงสัยในคดีแฮกเว็บไซต์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่าตนไม่อยากฉีกหน้าใคร แต่ขณะนี้ ถ้าคุณเห็นภาพแม่ที่เลี้ยงคุณมาน้ำตาตก และเห็นข่าวยายอาการทรุดยังจะนิ่งเฉยอยู่ต่อไปไหวหรือไม่ ถ้ายายเป็นอะไรไปใครจะออกมารับผิดชอบ
พร้อมกันนี้ นายณรงค์ฤทธิ์ได้แนะนำขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากตำรวจยังยืนยันว่าตนคือผู้กระทำผิดในการแฮกเว็บไซต์ดังกล่าว นอกจากนี้ยังได้อ้างถึง “รองฯ เจี๊ยบ” ที่สัญญาจะช่วยแก้ข่าวให้ แต่สุดท้ายก็ยังนิ่งเฉย
"รองเจี๊ยบบอกผมว่าไม่ต้องสนใจข่าวมาตลอด และตั้งแต่วันที่ 8 ผมช่วยสืบเกือบตาย ว่าใครทำ (ให้ความร่วมมืออย่างดี ชี้เบาะแสและให้ข้อมูลทุกอย่าง) แต่ ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่ยอมออกมาแก้ข่าวให้ผม และยังไม่ยอมยืนยันความบริสุทธิ์ให้ผมบ้างเลย (อย่างที่ ตกลงกันไว้ ว่าวันอังคาร จะแก้ข่าวให้) แต่ก็ยังให้ข่าวว่า พบข้อมูล จากคอมฯ ผม ว่าผมแฮกโน่น นั่น นี่ ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แกะจากที่ซีลอีก" เจ้าของนามแฝง ตาเล็กฯ ระบุ
นายณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนสามารถติดตามจนพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยที่น่าจะเป็นผู้กระทำความผิดตัวจริงได้แล้ว และต้องรอข้อมูลบางอย่างจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ทั้งนี้หากตำรวจยังไม่ออกมาพูดความจริงเรื่องของตนเองผ่านสื่อตามที่ได้ตกลงกันไว้ และเล่นการเมืองกันต่อ ตนก็จะไม่ให้ข้อมูลที่ตนแกะรอยได้ทั้งหมด แล้วจะรอดูว่าตำรวจจะหาผู้กระทำผิดตัวจริงเจอหรือไม่
ทางด้าน นางสาคร สุขสาร อายุ 62 ปี มารดา นายณรงค์ฤทธิ์ กล่าวถึงกรณีข่าวออกมาทางสื่อว่าลูกชายของตนหนีการจับกุม จะมีการออกหมายจับเร็วๆนี้ ตนได้โทรคุยกับลูกชาย ได้รับคำตอบว่า ที่ไม่ได้ไปตามนัดเพราะไม่สบาย แต่ได้ขอใบรับรองแพทย์และให้ทนายความส่วนตัวนำไปยื่นให้กับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีแล้ว คาดว่าจันทร์นี้น่าจะหายดีเข้ามอบตัวพร้อมหลักฐาน ไม่มีทีท่าว่าจะเครียดอะไร ส่วนตนก็รู้สึกดีขึ้นที่หลายฝ่ายให้กำลังใจ และพร้อมจะช่วยเหลือ โดยเชื่อว่านายณรงค์ฤทธิ์เป็นผู้บริสุทธิ์
ขณะที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.ไอซีทีเงา แถลงถึงกรณีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เรียก นายณรงค์ฤทธิ์ เข้าให้ปากคำว่า เป็นห่วงกระบวนการสอบสวน เพราะตำรวจ ปอท.ให้สัมภาษณ์สับสนและขัดแย้งกันเอง ตนจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของ บก.ปอท. คาดว่า เรื่องจะเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์หน้า จากนั้นจะยื่นเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สภาผู้แทนราษฎรต่อไป ทั้งนี้ ยินดีให้ความช่วยเหลือนายณรงค์ฤทธิ์ ในแง่ของกฎหมาย เพราะเห็นว่า การกระทำของหน่วยงานรัฐ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเป็นเรื่องของมนุษยธรรม
ส่วนความคืบหน้ากรณีคนร้ายปาประทัดยักษ์เข้าใส่ป้อมยาม น.ส.พ.ไทยรัฐ นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าวว่า ตำรวจยังติดตามหาตัวคนร้ายอยู่ และต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งคดี เพราะจากการสอบสวนมีความคืบหน้าไปมาก ต้องขอเวลาในการทำงานสักระยะ
ด้าน พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. กล่าวว่า คดีคืบหน้าไปมาก สรุปได้ว่าลูกเปตองที่คนร้ายใช้ปาเข้ามานั้น น่าจะเป็นของประเทศจีน นำเข้ามาตามชายแดน ส่วนภาพของคนร้ายจากกล้องวงจรปิดนั้น พบเพิ่มอีกหนึ่งจุด ตรงแยกสุทธิสาร และหายไปเมื่อเข้าสู่ถนนลาดพร้าว ขณะที่รถจักรยานยนต์ที่ใช้นั้น น่าจะเป็น ยี่ห้อฮอนด้า คลิก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เชื่อว่าไม่นานน่าจะได้ตัวคนร้าย ทั้งนี้ ได้นัดชุดสืบสวนประชุมอีกครั้งในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี