“บิ๊กตู่”ยืนยันไม่ขัดข้องแก้ไขรธน. แต่ไม่มีความเห็นกรณีตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาร่างฯ ไม่เคยสั่งเปลี่ยนแปลงญัตติ ปัดล๊อบบี้สั่ง ชี้ ส.ว.ก็มีเกียรติ
เมื่อวันที่ 25 ก.ย.63 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายการประชุมสภากลาโหม ถึงกรณีที่รัฐสภามีมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นว่า ตนไม่มีความเห็นอะไร เพราะเป็นเรื่องของทางรัฐสภา โดยบรรยากาศการประชุมในวันแรกเป็นไปได้ด้วยดี แต่วันที่สองก็เริ่มมีความขัดแย้งกันมากขึ้น ซึ่งทุกคนก็เห็นกันแล้วว่ามีการก้าวล่วงอะไรต่างๆ หลายคนก็รับไม่ได้ จึงทำให้เกิดการลงมติกันอย่างที่ว่า
"การเปลี่ยนแปลงญัตติอะไรต่างๆ ผมไม่เคยสั่งอะไร ซึ่งการลงมติไม่ใช่ว่าจะเห็นชอบด้วยกันทั้งหมด เพราะก็มีบางส่วนก็เห็นแตกต่าง ต้องเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่ใช่หรือ นั่นคือผู้ทรงเกียรติใช่หรือไม่ ดังนั้นเราต้องรับฟังซึ่งกันและกัน หากมีการให้ร้ายว่ากล่าวเบียดเบียนกัน พูดจาไม่สุภาพเป็นเราก็รับไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้แก้ไขปัญหาตรงนี้ได้ เขาเรียกว่าความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ฝากพวกเราช่วยแก้ด้วยแล้วกัน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์ในวันนี้ก็มีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรคระบาด และการชุมนุมไม่ว่าจะทำเพื่อใครหรือเพื่ออะไรก็ขอฝากประชาชนทั้งประเทศช่วยกันคิดด้วยแล้วกัน ในส่วนของตนคิดว่าจะผ่านไปได้ด้วยดี การทำความดีของทุกคนจะช่วยเป็นกุศลให้บ้านเมืองมีความสงบสุข เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ตนลงพื้นที่ต่างจังหวัดก็เห็นว่าทุกคนให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเป็นอย่างดีโดยปัญหาที่เขาให้ความสนใจมากกว่าคนกทม.ในขณะนี้คือปัญหาเรื่องปากท้อง เรื่องอาชีพและรายได้ ซึ่งรัฐบาลได้ทำเต็มที่เพื่อดูแล นั่นเป็นสิ่งที่อยากฝากให้ทุกคนช่วยดูแลชาติบ้านเมืองต่อไป
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าเป็นการยื้อเวลา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนแรกตนคิดว่าก็จะเรียบร้อย แต่วันที่สองทุกคนก็มีวุฒิภาวะและรักในศักดิ์ศรีของตนเอง บางทีการพูดจาอะไรมันก็ทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปไม่ได้ และที่มองว่าเป็นการชะลอที่ว่ากันว่าชะลอ 1 เดือนก็เป็นการทำตามกฎหมายไม่ใช่หรือ และเป็นการทำตามกติกาของสภาฯ มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปก็ให้ไปดูข้างหน้า ถ้าทุกคนสามารถผ่อนสั้นผ่อนยาวไปได้บ้าง มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนเลย มันก็ไม่ได้ทำให้ตนดีขึ้นหรือเลวลง เป็นเรื่องความคิดเห็นของทุกคนถ้าทุกคนบอกว่าประชาธิปไตยนี่ก็คือประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นต้องรับฟังเหตุผล แล้วจะทำอย่างไรให้เดินหน้าไปด้วยกันได้ด้วยความปรองดอง และการหารือรวมกันต่างๆเหล่านี้ ตนไม่คาดหวังว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการล็อบบี้จากทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า จะไปล็อบบี้อะไร จะไปล็อบบี้กับใคร และจะไปสั่งใคร เพราะส.ว.ก็มีเกียรติของเขา และอย่าลืมว่าใน ส.ว.250 คน ก็มีส.ว.50 คนที่มาจากการเลือกของประชาชน และอีก 200 คนก็มายากผู้ที่มีศักยภาพและประสบกาการณ์จากภาครัฐและเอกชน ขอให้ฟังพวกเขาบ้างว่าทำอะไรที่เสียหาย
“หลายคนมองว่าเอื้อประโยชน์ให้กับผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเอื้อตรงไหน ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องกลไกแต่ละคนที่ทำงานมา ผมไม่ได้หมายความว่าผมจะอยู่จนถึงโลกแตก เพราะอะไรที่หารือกันได้ ช่องทางไหนที่พูดกันได้ มีการแก้ไขตรงนั้นก็ว่ากันไป แก้บางฉบับหรือแก้บางมาตราก็แล้วแต่ ก็ให้เกียรติเขา เพราะส.ว.ก็เป็นตัวแทนประชาชน หลายคนมองว่ามาจากผมนั้น ผมบอกเลยว่าไม่รู้จักทั้งหมด เป็นเรื่องการกลั้นกรองขึ้นมา ผมมองประสบการณ์ของเขาก็อนุมัติเท่านั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ใจนายกฯอยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่เคยตอบว่าอยากให้ไม่อยาก แต่ตนตอบว่าไม่ขัดข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะแก้อย่างไรก็ว่ากันมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี