3เหล่าทัพระดมพลคุมเข้ม
มธ.รับปริญญา
สกัดคณะราษฎร63ทำปวน
นายกเตือนอย่าละเมิดสถาบัน
ผบ.ทบ.สั่งเกาะติดการชุมนุม
ล็อกกิจกรรม‘บิ๊กเซอร์ไพรส์’
‘บิณฑ์’ประสาน‘พุทธะอิสระ’
ร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบัน
ทหารออกโรงระดม 3 เหล่าทัพคุมเข้ม ม.ธรรมศาสตร์ รับปริญญาในเย็นวันที่ 31 ตุลาคมนี้ หลังม็อบคณะราษฎรปลดแอกขู่จะมี “บิ๊กเซอร์ไพรส์” ผบ.ทบ.-ผบ.ตร.สั่งเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด กำชับ ดูแลเต็มที่ ขณะนายกฯ ย้ำอย่าให้ละเมิดสถาบัน ด้านอดีตพุทธะอิสระ-บิณฑ์ ประสานปรับแผน 1 พ.ย.ขอปชช.สวม‘เสื้อเหลือง’รวมพลังปกป้องสถาบัน ด้าน ‘ทนายอานนท์’นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกัน
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม แหล่งข่าวจากฝ่ายความมั่นคง แจ้งว่า จากกรณีเพจ“บัณฑิตธรรมศาสตร์ของราษฏร”โพสต์ข้อความระบุว่า Let’s play a game พร้อมคำใบ้ “Big Surprise” อันที่ 1วันที่ 31 ต.ค. เวลา 17.00 น. พบกับ”บิ๊กเซอร์ไพรส์”ได้พร้อมกัน รวมทั้งยังติดแฮชแท็ก #ไม่รับปริญญา #บัณฑิตของราษฎรนั้น
ในส่วนของฝ่ายความมั่นคงได้เกาะติดกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยการดูแลรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เฉพาะช่วงวันที่มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรวันที่ 30- 31 ต.ค.นั้น มีการจัดกำลังดูแลจากกองทัพบก อาทิ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1รอ.) กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) เป็นต้น ส่วนพื้นที่ภายในได้จัดกำลังจากหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศ ขณะที่พื้นที่ทางน้ำเป็นหน้าที่ของกองทัพเรือดูแล ทั้งนี้ ตลอดเส้นทางถ.ราชดำเนิน จะมีประชาชนและตัวแทนหน่วยงานราชการสวมเสื้อเหลืองเดินทางมารอเฝ้ารับเสด็จ เพื่อแสดงความจงรักภักดีด้วย
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวต่อว่า ในส่วนของนักศึกษาที่จะรับพระราชทานปริญญาบัตรในปีนี้มีจำนวน 51 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาทั้งหมดในปีนี้ ขณะที่นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์แสดงความเจตจำนงไม่ขอรับพระราชทานปริญญาบัตรทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะในทุกปีจะมีนักศึกษาที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรอยู่ในระดับประมาณ 50-54 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกันนี้หน่วยงานความมั่นคง ได้เข้าไปติดต่อกับตัวแทนองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขอความร่วมมือไม่ให้จัดกิจกรรมใดๆ โดยเฉพาะการจัดแสดงภาพจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งทางองค์การฯรับปากว่าจะทำให้ดีที่สุด
ผบ.ทบ.ติดตามสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (904) ในวันที่ 31 ต.ค. เวลา 09.00 น. ได้เดินทางเป็นประธานในพิธีประดับเครื่องหมายยศและมอบประกาศนียบัตร หลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก (นนส.ทบ.) เหล่าราบ 1 ปี 6 เดือน รุ่นที่ 23 ที่ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนรัชต์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นในช่วงบ่าย จะเดินทางเข้ามาติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ภายในกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน
ตำรวจพร้อมรับมือการชุมนุม
พล.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันมีแผนรับมือเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และผู้ชุมนุมอยู่แล้ว โดยตำรวจมีการติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่องทั้งในทางการข่าวและโซเชียล หากมีการเคลื่อนไหวกรณีพิเศษ กำลังที่จะเสริมก็พร้อมตลอดเวลา
ส่วนการชุมนุมในวันที่ 31 ตุลาคม จะมีกลุ่มผู้ชุมนุม 2 ฝ่าย นัดชุมนุมในพื้นที่ใกล้เคียงกัน หลายฝ่ายมองว่าอาจจะเกิดความรุนแรงและบานปลายขึ้นนั้น พลตำรวจตรียิ่งยศ ระบุว่าตำรวจมีความพร้อมในการรับมือในทุกสถานการณ์ เชื่อว่าสามารถปรับแผนเข้าดูแลประชาชนได้อย่างทั่วถึง ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปดูแลและช่วยวางแนวทางร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะทำหน้าที่รักษากฎหมายและรักษาความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมได้เป็นอย่างดี
ผบ.ตร.กำชับตร.คุมเข้ม มธ.
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสั้นๆ ได้กำชับสั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ติดตามสถานการณ์และดูแลการชุมนุมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร ระบุจะมีบิ๊กเซอไพรส์ในวันที่ 31 ตุลาคมนั้นก็ต้องรอติดตามสถานการณ์ ส่วนกรณีอาจจะเกิดเหตุม็อบชนม็อบนั้น ก็ต้องหามาตรการดูแลให้ดีที่สุด ยืนยันว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร และตำรวจจะดูแลสถานการณ์ให้เกิดความเรียบร้อย
นายกฯอย่าให้ละเมิดสถาบัน
เย็นวันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกนรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานพระราชทานปริญญาบัตรที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 31 ต.ค.ภายหลังม็อบเตรียมจัดเซอร์ไพร์สว่า ถือเป็นการปฏิบัติตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ปฏิบัติมาโดยตลอดตามวัฒนธรรมประเพณีที่มีมายาวนาน คงไม่จำเป็นต้องสั่งการให้เตรียมการอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่อยู่แล้ว ปฏิบัติตามกฎหมายทุกประการ เพียงแต่อย่าให้เกิดอันตรายกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเฉพาะการละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง
พุทธะอิสระ-บิณฑ์นัดชุมนุม 1พย.
อดีตพระพุทธะอิสระได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก @หลวงปู่พุทธะอิสระ(Buddha Isara)มีเนื้อหาดังนี้ “บัณฑิตย่อมรู้จักประมาณตนประเมินสถานการณ์ 30 ตุลาคม 2563 เมื่อวานตอนเย็น คุณ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ โทรมาหา ฉันจึงกล่าวให้กำลังใจพร้อมกับขอบคุณที่ช่วยกันออกมาปกป้องสถาบัน หลังจากคุยกันพอให้ระลึกถึงแล้ว ฉันก็ได้ปรารภแก่คุณบิณฑ์ไปว่า”
“ได้ยินว่า คุณประกาศชวนให้แฟนคลับสวมเสื้อสีชมพูมาเฝ้ารับเสด็จ พระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 1พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ จึงได้ขอร้องไปว่า เพื่อให้การเข้าเฝ้าในครั้งนี้เป็นการแสดงพลังของผู้จงรัก ภักดี พวกเราควรจักสวมเสื้อเหลืองเพื่อให้คนที่คิดจะล้มสถาบันได้เห็นว่าพวกเรามีใจรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน ในเวลาต่อมาได้ทราบว่าคุณบิณฑ์ได้โพสต์ให้แฟนคลับของเขาได้เปลี่ยนเสื้อจากสีชมพูมาเป็นสีเหลือง พุทธะอิสระ จึงขอขอบคุณคุณบิณฑ์ และแฟนคลับทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย เหตุการณ์นี้ ทำให้ฉันและสังคมได้รับรู้ว่าคุณบิณฑ์ เป็นผู้ที่พร้อมจะรับฟังแล้วนำเอาไปคิด จึงลงมือกระทำเหล่านี้คือเอกลักษณ์ของ บัณฑิต ผู้มีปัญญาโดยแท้ วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เราคงได้พบกัน ณ หน้า พระบรมมหาราชวัง พุทธะอิสระ”
ปิยบุตรอ่วมโดนหมายเรียกม.116
มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พนักงานสอบสวน สน.พญาไทได้ออกหมายเรียกนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้มารับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดมิใช่การกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน” ในวันที่ 5 พฤษจิกายนนี้เวลา 10.00 น.
ด้านนายปิยบุตร โพสตความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวระบุ ยังไม่ทราบว่าตำรวจอ้างการกระทำใดของผมที่เป็นความผิดตามมาตรา116 นี้ สัปดาห์หน้า ผมจะเดินทางไป สน.พญาไท ตามหมายเรียก และจะขออนุญาตถามตำรวจ พนักงานสอบสวน และผู้บังคับบัญชาของเขาด้วยว่า “เราต่างก็เรียนกฎหมายอาญากันมา ตำราเล่มเดียวกัน ทำไมพอมาเป็นตำรวจแล้วจงใจลืมไปหมด”
‘ทนายอานนท์’นอนคุกยาว
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีเมื่อวันที่ 27 ต.ค.พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก นายอานนท์ นำภา อายุ 37ปี ทนายความและแกนนำคณะราษฎร2563 ผู้ต้องหาคดีร่วมกันจัดกิจกรรมชุมนุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และปักหมุดคณะราษฎรที่บริเงณท้องสนามหลวง เมื่อระหว่างวันที่ 19-20 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมมีการยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัวนายอานนท์ แต่ศาลอาญา ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวนั้น
ต่อมา ทนายความของนายอานนท์ ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลอุทธรณ์ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ต.ค.ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาต ยกคำร้อง
โดยศาลอุทธรณ์ พิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าการกระทำตามข้อกล่าวหามีลักษณะเป็นการร่วมกันกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลจำนวนมาก อันอาจก่อเหตุเกิดความเสียหาย หรือความวุ่นวายขึ้นและส่งผลกระทำเป็นวงกว้างอีกทั้งผู้ต้องหาขึ้นปราศรัยชักนำให้ประชาชนล่วงละเมิดต่อกฎหมายแผ่นดิน โดยปรากฏว่ามีการบุกรุกทำลายทรัพย์สินของทางราชการโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาคำคัดค้านประกันตัวของพนักงานสอบสวนแล้วยังปรากฎว่าผู้ต้องหา ยังถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายคดีในหลายท้องที่ ประกอบกับผู้ต้องหาถูกจับกุมตามหมายจับ กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ในชั้นนี้หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวแล้ว ผู้ต้องหาอาจจะก่อให้เกิดอันตรายหรือความเสียหายประการอื่นและน่าเชื่อว่าผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี
ผู้สื่อข่าวรายงานปัจจุบันนายอานนท์ ยังถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ .
นักเขียน-กวี รุดเยี่ยมผู้ต้องหา
เวลา11.00น.ที่บริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ บางเขน นักเขียน กวี บรรณาธิการ ร่วมกันจัดกิจกรรมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และแสดงจุดยืนการแสดงออกของนักประชาธิปไตย ให้กับนิสิต นักศึกษา และนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นำโดยสุชาติ สวัสดิศรี ศิลปินแห่งชาติ พร้อมนักเขียน บรรณาธิการ กว่า 10 คน อทิ นิธินันท์ ยอแสงรัตน์ อดีตบรรณาธิการอาวุโสหนังสือพิมพ์มติชน , เวียง – วชิระ บัวสนธ์ บรรณาธิการ สนพ.สามัญชน อธิคม , คุณาวุฒิ บรรณาธิการ Way Magazine , วิภาส ศรีทอง นักเขียนรางวัล ซีไรต์ ปี 2555 , อุทิศ เหมะมูล นักเขียนรางวัลซีไรต์ ปี 2552 , วาด ระวี กวีที่มีจุดยืนชัดเจนเพื่อประชาธิปไตย , สนานจิต บางสะพาน นักเขียน นักวิจารณ์ภาพยนตร์ และผู้กำกับ , ประกาย ปรัชญา กวีที่มีผลงานต่อเนื่องมาหลายปี และ รณกร โรจน์รัตนดำรงค์ กวีหนุ่มแห่งยุคสมัย ในกิจกรรมมีการอ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้อง และอ่านบทกวี ให้กำลังใจ และแสดงจุดยืนการแสดงออกของนักประชาธิปไตย และขอให้ปล่อยตัวผู้ที่ยังถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ หลายคนที่สูญเสียอิสรภาพเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง( 14 วัน ) ประกอบด้วย นายอานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นายภาณุพงศ์ จาดนอก นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม รวมถึงนางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ที่ควบคุมตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลาง รวมถึงนายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือ ตัน ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำบางขวาง รวม 8 คน
อ่านแถลงการก่อนแยกย้าย
นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี ศิลปินแห่งชาติ สาขา วรรณศิลป์เมื่อปี 2554 ได้อ่านแถลงการณ์ระบุข้อเรียกร้องจำนวน 4 ข้อ 1.ขอให้รัฐหยุดคุกคามประชาชน 2.ขอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก เพราะเป็นเสมือนสารตั้งต้นทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง 3.ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ และ4.ปล่อยแกนนำผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวโดยไม่มีเงื่อนไข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากนี้ยังมีนักกวีคนรุ่นใหม่ ได้สลับกันอ่านบทกวีที่แต่งมาให้กำลังใจผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ หลังจากการทำกิจกรรมประมาณ 15 นาที ทั้งหมดก็ได้ยืนชู 3 นิ้วบริเวณหน้าป้ายทางเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จากนั้นต่างแยกย้านเดินทางกลับโดยทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี