ม็อบมุ่งหน้าสำนักพระราชวัง
ยื่นข้อเรียกร้อง
ขับไล่รัฐบาล-ปฏิรูปสถาบัน
มวลชนรวมพลแน่นราชดำเนิน
ตร.ระดม59กองร้อยคุมเข้ม
‘ศปปส.’ชงนายกฯ-ผบ.ทบ.
รัฐประหารชัตดาวน์ประเทศ
ม็อบคณะราษฎรเหิมหนัก จัดฌาปนกิจ“บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” กลางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตำรวจจัด 59 กองร้อย รับมือห้ามทัพจ้าละหวั่น พร้อมห้ามชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน ในขณะที่ “ศปปส.” เรียกน้ำย่อยรวมตัวฝั่งตรงข้ามพร้อมนัดรวมตัวหน้าทำเนียบฯ จันทร์นี้ ยื่นจม.ถึงบิ๊กตู่-ผบ.ทบ.ชงทำปฏิวัติรัฐประหารชัตดาวน์ประเทศ สำนักจุฬาราชมนตรี แถลงการณ์ชี้แจงจัดงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์”
พร้อมเรียกร้องทุกภาคส่วนพูดคุยหาทางออกอย่างมีไมตรีจิต
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนพล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมกลุ่มราษฎร ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ช่วงเย็นวันเดียวกัน
โดย พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จัดวางกำลังตำรวจ 59 กองร้อย หรือ 9,145 นาย แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 3 พื้นที่ โซนที่1 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพื้นที่โดยรอบ ตั้งแต่ถนนราชดำเนินกลาง อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงแยกผ่านฟ้า อยู่ในความรับผิดชอบของ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รอง ผบก.น.1 รักษาราชการแทน ผบก.น.1 โซน2 พื้นที่สนามหลวงถนนโดยรอบสนามหลวง ศาลฎีกา และบริเวณใกล้เคียง อยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 และโซน 3 ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้า แยก จปร. แยกมัฆวาน ถึงบริเวณทำเนียบรัฐบาล และพื้นที่โดยรอบอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ทั้งนี้ทางบช.น. ฝากเตือนผู้ชุมนุม และผู้จัดการชุมนุม ในมาตรา 7 ตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ห้ามมิให้มีการชุมนุมระยะ 150 เมตร จากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วัง ที่ประทับ หรือที่พำนัก ห้ามมีการชุมนุมโดยเด็ดขาด หากผู้ชุมนุมฝ่าฝืนต้องได้รับโทษตามกฎหมายแน่นอน
ห้ามกระทำผิดกฏหมาย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ทางการข่าวทราบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะใช้ถนนราชดำเนินกลาง ถนนนครสวรรค์ ซึ่งตำรวจได้ตั้งแนวตั้งรับจุดสุดท้ายที่ผู้ชุมนุมไม่สามารถผ่านได้บริเวณ แยก จปร. สะพานมัฆวานรังสรรค์ ส่วนฝั่งสนามหลวงบริเวณถนนมหาธาตุ ทั้งนี้ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. อยู่ระหว่างพิจารณาประกาศให้พื้นที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่ห้ามการชุมนุมในระยะ 50 เมตร ด้วย นอกจากนี้การข่าวยังระบุอีกว่าผู้ชุมนุมอาจเคลื่อนที่แบบดาวกระจายไป 22 จุด ทางตำรวจได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าไปบริเวณเขตพระราชฐานอย่างเด็ดขาด โดยจะมีมาตรการต่างๆ เพื่อย้ำเตือนไม่ให้ผู้ชุมนุมฝ่าฝืน แต่ถ้าผู้ชุมนุมฝ่าฝืนเข้ามาในระยะ 150 เมตร แม้จะไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว แต่ พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามมาตรการทุกๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การแจ้งเตือน ให้ข้อมูล และการตั้งแนวเพื่อเตือนว่าเป็นเขตอันตราย ห้ามฝ่าฝืน ส่วนกรณีที่ผู้ชุมนุมจะเขียนข้อความต่างๆ นั้น หากข้อความไม่มีผลกระทบหรือผิดกฎหมาย สามารถดำเนินการได้
เผย ศปปส.ขอชุมนุมด้วย
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า วันนี้ทราบว่ามีเพียงกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. ได้แจ้งการชุมนุม มีวัตถุประสงค์ จำนวนคน และระยะเวลาในการชุมนุมที่ชัดเจน ทั้งนี้อยากฝากถึงผู้ชุมนุมว่า พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ได้ระบุไว้ว่าก่อนการชุมนุม 24 ชั่วโมง ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานเรื่องการจัดชุมนุมให้มีความสงบเรียบร้อย ปราศจากอาวุธ อย่างไรก็ตามแม้แต้งการชุมนุมแล้ว แต่หากทำผิดกฎหมายต่างๆ หรือฝ่าฝืน พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ ต้องดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน ส่วนกรณีที่หากมีการเผชิญหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ตำรวจจะรับมืออย่างไร ในส่วนนี้ทาง บช.น. ได้จัดกำลังไว้ในการรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่โดยรอบจุดนั้น ยืนยันว่ากำลังตำรวจเพียงพอไม่ให้สองกลุ่มปะทะกัน
ตั้งบังเกอร์รถเมล์รอบทำเนียบ
ขณะเดียวกนผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำลวดหนาม แท่งแบริเออร์ และรถเมล์จำนวนหลายคัน มาปิดกั้นบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุม เคลื่อนขบวนผ่านไปยังบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และทำเนียบรัฐบาล หลังจากที่ผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร ประกาศรวมตัวกันในเวลา 16.00 น.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
วางดอกไม้จันทน์หน้ารูป2ป.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยฝั่งจุดนัดหมายชุมนุมโดย ราษฎรมีร้านค้าขายของ อาหาร เสื้อยืดมาจับจองพื้นที่ขายของ บนฟุตบาทยาวไปถึงถนนตะนาว ขณะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่จากสน.ชนะสงครามได้มานำแผงเหล็กมามาจัดวาง นอกจากนี้ ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางมารอร่วมชุมนุมแล้ว
เวลา 10.50 กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนมาถึงแล้ว พร้อมขึ้นป้ายไวนิลสีแดง ที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีกลุ่มเสื้อแดงนำน้ำดื่ม อาหาร หมวกนิรภัย และแว่นตากันน้ำมาเตรียมพร้อม
เวลา 11.00 ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม ได้เข้ามาดูแลความเรียบร้อยพื้นที่บริเวณด้านหน้าแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 12.30น.บริเวณด้านหน้าแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนได้จัดกิจกรรมวางดอกไม้จันทน์ให้กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยมีการจำลองโลงศพที่มีหุ่นแล้วติดภาพหน้าพล.อ.ประยุทธ์ไว้ มีภาพขาวดำ พวงมาลัยสีดำ และธูปหนึ่งดอกมาตั้งไว้ โดยมีประชาชนเข้ามาถ่ายรูปและให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก
เวลา 12.40น.กลุ่มแดงก้าวหน้า 63 นำรถกระบะที่มีป้ายสติ๊กเกอร์สัญญลักษณ์สีแดงข้างประตู ความจริงวันนี้ Truth Todayบรรทุกเครื่องเสียงเข้ามายังบริเวณด้านหน้าแมคโดนัล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะประกาศขอจัดความเรียบร้อยก่อน ประชาชนแห่ตบมือยินดีและเวลาราว 13.00น.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ขึ้นปราศรัยอย่างดุเดือด
ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มมวลชนเสื้อเหลืองส่วนหนึ่งได้เดินทางมาถึงบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หน้าร้านอาหารเมธาวลัย ศรแดง ยืนชูธงชาติ และพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10 นอกจากนี้ ยังเปิดเพลงบางระจัน และหนักแผ่นดิน และกล่าวว่า วันนี้มาปกป้องสถาบัน เรื่องอื่นเราไม่ว่า แต่เรื่องสถาบันเราไม่ยอม
ศปปส.รวมตัวหน้าหอศิลป์
เวลา 14.30 น. บริเวณด้านหน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว อายุ 24 ปี แกนนำ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กล่าวว่า ที่มาวันนี้มาสังเกตการณ์การจาบจ้วง เวลา 15.00 น. จะออกมาประกาศจุดยืนของกลุ่มพวกตน โดยตั้งเวลานัดรวมตัวกันในเวลา 14.00 น. และหากไม่มีเหตุการณ์ล่อแหลมก็จะประหยัดเวลาสลายตัวเร็วขึ้นตอน 17.00 น. เพื่อที่จะป้องกันประชาชนในกลุ่มพวกตนด้วยที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้และจะไม่มีม็อบชนม็อบแน่นอน
เมื่อถามถึงการป้องกันเหตุการณ์กระทบกระทั่งกัน นายจักรพงศ์ กล่าวว่า มีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้ว แต่พวกตนจะปักหลักที่นี่ สำหรับเหตุการณ์ที่มีการกระทบกันที่ผ่านมาทีมงานได้มีการตรวจสอบแล้ว แต่ตอนนี้เรื่องยังไม่มาถึงตนว่าใช่มวลชนกลุ่มของพวกตนไหม เมื่อเช้าได้รับโทรศัพท์ว่าจะมีคนใส่เสื้อเหลืองเข้ามาทำให้ปั่นป่วนเพื่อให้คนที่ใส่ศปปส. หรือกลุ่มคนที่รักสถาบันดูไม่ดี ในส่วนของการป้องกันก็จะมีทีมงาน ที่มาดูแลพ่อแม่พี่น้องที่มาอยู่บริเวณนี้อยู่แล้ว
ศปปส.เรียกร้องให้ปฎิวัติ
เวลา 15.00น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (ฝั่งร้านเมธาวลัย ศรแดง) นายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร เลขาธิการเครือข่ายประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ กล่าวว่า วันที่ 9กันยายน เวลา 09.00 น.สมาชิกเครือข่ายฯนัดรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ก่อนที่จะยื่นจดหมายเปิดผนึกให้นายกรัฐมนตรี ที่สำนักนายกรัฐมนตรี แล้วจากนั้นจะเดินมาหน้ากองทัพบก เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บัญชาการทหารบก เพื่อเรียกร้องให้มีการรัฐประหารชัตดาวน์ประเทศ โดยตนจะได้มีแถลงการณ์ของเครือข่ายฯ เพื่อแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง ในฐานะประชาชนของประเทศไทยทุกจังหวัด โดยแถลงการณ์จะถึงรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง กองทัพ เพื่อเสนอทางออกให้ประเทศไทย โดยไม่เกี่ยวกับคณะกรรมการสมานฉันท์ และ นักการเมือง เพราะนั่นเป็นเรื่องของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา แต่ประชาชนเราจะเสนอแนวทางให้รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง เราจะต้องเป็นสถาบันของประชาชน ที่มีความยั่งยืนตลอดไป เพื่อช่วยชาติ ช่วยรัฐบาล และราชการ ในการป้อนข้อมูลประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ถูกต้อง เพราะปัจจุบันนี้มีกลุ่มคนเข้าไปบิดเบือนระดับครอบครัว เราจึงต้องให้ความรู้เน้นหลักสูตรศาสตร์พระราชา
หลีกเลี่ยงการปะทะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในขณะที่ปราศรัยนั้น ได้มีกลุ่มอาชีวะเดินอยู่บริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนิน แล้วได้ชูสามนิ้วหันมาทางกลุ่มศปปส. ทำให้ทางกลุ่มเสื้อเหลืองกรูกันลงถนน แต่ทางแกนนำได้ พยายามห้ามผ่านเครื่องกระจายเสียง ขอร้องให้ทุกคนกลับขึ้นมาอยู่บนฟุตบาท พร้อมระบุว่าหากใครก่อความวุ่นวายก็ไม่ใช่พวกเรา อย่างไรก็ตามไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน รถกระจายเสียงขนาดใหญ่ของทางตำรวจนครบาลก็ได้พยายาม ขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างอยู่บนฟุตบาทฝั่งของตัวเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและปะทะกัน
ยุติชุมนุมเจอกันหน้าทำเนียบ9พย.
จากนั้นเวลา 16.00น.ทางกลุ่มผู้ชุมนุมศปปส.ได้เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมประกาศยุติการขุมนุม ให้ทุกคนกลับบ้าน แล้วเจอกันทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ก่อนจะไปยื่นที่ทบ.ต่อ ก่อนหน้านี้ สาเหตุที่แกนนำศปปส.สั่งยุติการชุมนุมนั้น เนื่องจากกลุ่มราษฎร ได้ขยายพื้นที่การชุมนุม โอบรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนเกือบถึงบริเวณกลุ่มศปปส.รวมตัวอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่าเกิดความกดดันแล้วอาจเกิดการปะทะหรือวุ่นวายเกิดขึ้นได้ จึงเข้าเจรจาให้ยุติการชุมนุมและแนนำก็เห็นด้วยจึงสั่งยุติการชุมนุมในที่สุด
‘หมอวรงค์-พุทธอิสระ’เเสดงพลัง
เวลา 15.00น.ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) นครราชสีมา เครือข่ายชาวโคราชปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี, ร.ท.ภูวนารถ คะเรรัมย์ นายทหารนอกราชการในฐานะประธานเครือข่ายกลุ่มจิตอาสา 910 โคราช ,นายสมชาย ลิขิตวรสิริ หรือชัย กองเมือง แกนนำกลุ่ม กปปส.โคราช และ นายไชย ตะวันใหม่ เจ้าของสถานีวิทยุชุมชนคนพันธมิตร อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นำประชาชน 32 อำเภอ จำนวนร่วม 1 พันคน รวมตัวสำแดงพลังสวมเสื้อสีเหลืองถือพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9, พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์รวมทั้งธงชาติโบกสะบัดพร้อมเปล่งเสียง ปกป้องสถาบัน ทรงพระเจริญ และปฏิญาณตน คนไทยต้องรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติด้วยชีวิต
จากนั้นได้มีแกนนำขึ้นเวทีผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยโจมตีกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้กิจกรรมจะแล้วเสร็จในเวลา 18.00 น. โดยมี นาย สุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตหลวงปู่พุทธะอิสระ จัดตั้งโรงทานให้บริการอาหารจำนวน 5,000 กล่อง
รวมพลังมุสลิมปกป้องสถาบัน
ด้านสำนักจุฬาราชมนตรี ได้เผยแพร่แถลงการณ์สำนักจุฬาราชมนตรี เรื่อง ชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ระบุว่า ตามที่ สำนักจุฬาราชมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ได้กำหนดจัดงาน “รวมพลังมุสลิม ปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ในวันที่ 10 พ.ย. เวลา 08.30-12.00 น. ที่หอประชุมศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลามแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติ ถนนคลองเก้า แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร นั้น ขอเรียนชี้แจง ดังนี้ 1.วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ในสังคมไทยที่สำคัญยิ่ง เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมุสลิมนับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก ศาสนาอิสลามจึงส่งเสริมให้แสดงความกตัญญูและสำนึกในบุญคุณของผู้มีพระคุณ โดยฉพาะผู้ที่ช่วยทำนุบำรุงความเจริญของศาสนา และเพื่อให้พี่น้องมุสลิมได้ร่วมกันขอพร (ดุอา) ให้สังคมและประเทศชาติมีความร่มเย็นเป็นสุข
2.สำนักจุฬาราชมนตรีตระหนักดีว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีความขัดแย้งและความเห็นต่างทางการเมืองสูง สำนักจุฬาราชมนตรีและองค์กรศาสนาอิสลามทุกระดับเป็นองค์กรศาสนาที่ต้องดำรงความเป็นกลางทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เราตระหนักว่าคู่ขัดแย้งทางการเมืองทุกฝ่ายขณะนี้นั้น ต่างมีจุดยืนที่เห็นตรงกันในการปกปักรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเป็นสถาบันหลักในสังคมไทยสืบไป ดังนั้น เพื่อเป็นการหาทางออกให้สังคมไทย จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเปิดพื้นที่เพื่อการพูดคุยหาทางออกให้สังคมอย่างมีไมตรีจิตและเคารพการแสดงความคิดเห็นของทุกภาคส่วน และประการสำคัญ พึงระลึกว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน ให้มีการอำนวยความยุติธรมแก่ทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างความสงบสันติให้เกิดขึ้นในสังคมไทยโดยเร็ววัน
‘ม็อบคณะราษฎร’ลงปิดถนน
เวลา15.30น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมราษฎร 2563 บางส่วน ได้เดินมารวมตัวกันบริเวณถนนตรงข้ามกับที่กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ปักหลักอยู่ ซึ่งต่างฝ่ายต่างตะโกน โบกธง และชูป้ายของตนเอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ และการ์ดของกลุ่มผู้ชุมนุม ได้เข้ามาขอให้แยกย้าย และอย่าใช้ความรุนแรง แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังคงยืนสังเกตการณ์อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยฝั่งของกลุ่มผู้ชุมนุม ศปปส.ได้เปิดเพลงสดุดีมหาราชา ก่อนแยกย้ายวุติการชุมนุมในเวลาประมาณ16.00น. ขณะที่กลุ่มคณะราษฎร ได้ชู3นิ้วและตะโกนโห่ร้อง นอกจากนี้ ทางฝั่งกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 63 ได้มีการขยายพื้นที่ลงถนน และปิดถนนบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว
‘ซาเล้งแดง’นำเคลื่อนไปสนามหลวง
เวลา 16.00น.กลุ่ม‘ราษฎร’ได้เคลื่อนมารวมตัวเตรียมพร้อมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะมีการนำแผงเหล็กมากั้นไว้ พร้อมทั้งชูสามนิ้วและตะโกนขับไล่รัฐบาลให้ออกไป เวลา 16.25น.ซาเล้งแดง1ใน2คันที่จอดเตรียมพร้อมที่แยกคอกวัวเกิดปัญหาสตาร์ทไม่ติด ทีมงานมวลชนอาสาจึงเร่งประสานแก้ไขโดยด่วน กระทั่งเวลา 17.30น.กลุ่มม็อบประกาศเคลื่อนขบวนไปยังสำนักพระราชวังและจะไปจุดเดียว ไม่ใช้วิธีดาวกระจาย หากพบเจ้าหน้าที่สกัดกั้นจะใช้วิธีเข้าเจรจาและสามารถไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น ก่อนจะจัดกิจกรรมและยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลต่อไป ต่อมา มีการเคลื่อนย้ายตู้ไปรษณีย์จำลอง4ตู้จากหน้าอนุสรณ์สถาน14ตุลา ไปยังหน้าขบวน เวลา 17.47น.เริ่มเดินเท้าเคลื่อนขบวนไปยังสำนักพระราชวัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี