“ไทรักธรรม” จ่อโดนยุบ หลังกกต.มีมติดำเนินคดีอาญา ฐานให้ทรัพย์สินจูงใจคนสมัครเป็นสมาชิกพรรค นายทะเบียนฯเตรียมชง “กกต.” ส่ง “ศาลรธน.” ด้าน “พีระวิทย์” ดิ้นหนีความผิดทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ซ้ำส่อถูกสอบปมโละทิ้ง 79 สาขาหลังตั้งเรื่องขอรับเงินอุดหนุนกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง
เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ว่า กกต. มีมติให้ดำเนินคดีอาญาตามมาตรา 30 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยพรรคการเมืองกับพรรคไทรักธรรม จากกรณีให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจบุคคลหนึ่งบุคคลใดสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หลังจากก่อนหน้านี้กกต.ได้รับเรื่องร้องเรียนว่าพรรคไทรักธรรมมีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งส.ส.ครั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วกลับพบว่าเป็นการจูงใจด้วยทรัพย์สินเพื่อให้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค และขณะนี้พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองอยู่ระหว่างการเสนอเรื่องให้กกต.พิจารณาเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกัน
ทั้งนี้ หลังมีกระแสข่าวออกไปว่า กกต. มีมติให้ดำเนินคดีอาญาดังกล่าว พบว่านายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทยรักธรรม ได้มีหนังสือแจ้งมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองให้ทราบว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว แต่การลาออกดังกล่าวไม่มีผลให้นายพีระวิทย์พ้นจากความรับผิดหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคไทรักธรรมตามที่กกต.จะมีการยื่นคำร้องต่อไป เพราะถือว่าขณะที่เกิดการกระทำผิดนายพีระวิทย์ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอยู่ โดยตามมาตรา 92 กำหนดโทษไว้ว่าเมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำความผิดให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งที่ผ่านมาในคดียุบพรรคไทยรักษาชาติและพรรคอนาคตใหม่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี
นอกจากนี้ ยังพบว่าในการยื่นขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองปี 2564 ตามมาตรา 83 พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดหลักเกณฑ์การคำนวณสัดส่วนเงินเพื่อจัดสรรให้กับพรรคการเมืองนั้น ในมาตรา83(4) ให้ใช้จำนวนสาขาพรรคการเมืองมาเป็นเกณฑ์ด้วย ปรากฏว่าหลังพรรคไทรักธรรมได้แจ้งข้อมูลจำนวนสาขาพรรคของปี 63 ต่อกกต.เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่ามีสาขาพรรคกว่า 100 แห่งซึ่งถือว่ามากกว่าทุกพรรคการเมือง และกองทุนฯได้มีมติอนุมัติวงเงินสนับสนุนไปแล้ว หลังจากนั้นประมาณ 1เดือน ทางพรรคไทรักธรรมก็ได้มีหนังสือแจ้งขอยกเลิกสาขาพรรคจำนวน 79 สาขามายังกกต. ทำให้ขณะนี้กกต.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อกฎหมายว่าจะสามารถระงับการจ่ายเงินตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวได้หรือไม่ เนื่องจากมองว่าไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลักเกณฑ์การจัดสรรเงินกองทุนฯที่กฎหมายกำหนดวัตถุประสงต์เพื่อต้องการให้พรรคการเมืองนำเงินที่ได้ไปบำรุงสาขาพรรค รวมทั้งการที่พรรคมาขอยกเลิกสาขาภายหลังได้รับอนุมัติวงเงินอุดหนุนแล้วจะถือว่ามีเจตนาไม่บริสุทธิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี