บิ๊กตู่ไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากัน
ผวาม็อบชนม็อบ
สั่งคุมเข้มสำนักงานทรัพย์สินฯ
ย้ำต้องการให้ประเทศชาติสงบ
ทหารเชื่อ25พ.ย.ตำรวจเอาอยู่
‘บิ๊กป้อม’หวั่นมือที่3ร่วมเอี่ยว
โต้เอกสาร สมช.รั่วสั่งสกัดคน
“บิ๊กตู่” ประกาศกร้าวห้ามม็อบชนม็อบ กรณีคณะราษฎรนัดบุกสนง.ทรัพย์สินส่วนมหากษัตริย์ในวันที่ 25 พฤศจิกายน และอาจโดนต่อต้านอย่างหนัก ระบุไม่อยากให้คนไทยฆ่ากันเอง ขู่ถ้าปะทะก็ต้องเอาผิดทั้งสองฝ่าย ส่วนทหารโต้ข่าวรัฐประหาร เชื่อตำรวจยังคุมสถานการณ์ได้ “บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก”ประสานเสียงปัดข่าวสมช.สั่งผู้ว่าฯสกัดคนเข้าชุมนุม
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อบ่ายวันที่ 23 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการชุมนุมวันที่ 25 พฤศจิกายน ที่กลุ่มคณะราษฎรจะไปสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่อีกฝ่ายคัดค้าน คาดว่าผู้ชุมนุมสองฝ่ายจะเผชิญหน้ากัน รัฐบาลจะกำชับดูแลอย่างไรไม่ให้ตีกัน โดยทาง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็พยายามห้ามไม่ให้ตีกันอยู่แล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องเคารพกฎหมาย จะตี จะขว้าง จะยิงกันหรือไม่ยิง ไม่รู้ ทั้งคู่เก็บจากกล้องทั้งหมด ตนให้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องการให้มีการตีกันอยู่แล้ว ไม่เคยเลือกปฏิบัติ เป็นการชุมนุมที่บอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพ ฉะนั้นสิทธิเสรีภาพไม่ใช่ต้องสงวนไว้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สามารถชุมนุมได้ทั้งสองฝ่ายสามฝ่าย อะไรก็แล้วแต่ แต่จะต้องไม่ตีกัน หากตีกันก็ผิดทั้งหมด
“รัฐบาลพยายามให้เกิดความสงบมากที่สุด ต้องคำนึงถึงและห่วงเจ้าหน้าที่เขาบ้าง เพราะถูกกระทำเยอะเหมือนกัน เขาก็มีครอบครัว มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน เขาถึงไม่ทำอะไร เว้นแต่ถ้าฝ่าฝืนมากๆเขาก็รับไม่ได้ยอมไม่ได้เหมือนกัน เขาจำเป็นต้องรักษากฎหมาย ดูเหมือนว่าเจ้าหน้าที่ทำอะไรก็ผิดไปเสียหมด ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มีตำรวจทำงานแล้วใครจะทำใช่หรือไม่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าคำสั่งของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้ระมัดระวังการระดมมวลชนจากพื้นที่ต่างจังหวัดเข้ามาร่วมชุมนุม มีรายงานด้านการข่าวหรือไม่ และมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เขาคงหารือกัน ติดตามสถานการณ์ หามาตราการอย่างไรไม่ให้2ฝ่ายปะทะกัน มันเคยมีบทเรียนมาแล้ว ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก ฉะนั้นใครเป็นแกนนำก็ต้องรับผิดชอบด้วย ต้องดูแลควบคุมให้ได้แล้วกัน
ไม่ต้องการให้คนไทยฆ่าแกงกัน
เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่ามีความพยายามนำคนเสื้อเหลืองออกมาเคลื่อนไหวม็อบชนม็อบ เพื่อสร้างเงื่อนไขนำไปสู่รัฐประหาร จะให้ความเชื่อมั่นอย่างไรว่าจะไม่เกิดรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คำถามที่ว่าพยายามนำคนเสื้อเหลืองออกมาเคลื่อนไหว ตนคิดว่าไม่ต้องพยายาม คนเขาคิดเองก็ได้มั้ง ตนคิดว่าเราจะสงวนไว้อย่างเดียวว่ากลุ่มนี้ได้กลุ่มนั้นไม่ได้ กลุ่มนั้นมาได้กลุ่มนี้มาไม่ได้ ฉะนั้นต้องไปดูแล้วกัน หลายอย่างที่ออกมาก็ดูได้ว่ามาได้อย่างไร และสิ่งของข้าวของที่มาแสดงออกมาอย่างไร ไม่ว่าจะเรื่องการใช้เครื่องเสียง แสงสี ตีกรอบมาอย่างไร ซึ่งก็ดูทั้งสองฝ่าย ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น และที่คิดว่าเอาม็อบชนม็อบเพื่อสร้างเงื่อนไขนั้น
“ผมเป็นรัฐบาล ผมเป็นนายกฯ ผมไม่อยากให้คนไทยต้องมาฆ่าแกงกันอีก ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิดในขณะนี้ เศรษฐกิจก็มีปัญหาอยู่แล้ว หลายอย่างกำลังขับเคลื่อนอยู่ คนส่วนใหญ่เขาก็ยังประกอบอาชีพของเขาอยู่ แต่คนที่จะแก้ปัญหาทางการเมืองก็อีกกลุ่มหนึ่ง คนไทยก็เป็นแบบนี้มีหลายกลุ่ม รัฐบาลก็ต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้ทุกกลุ่มมีความสงบเรียบร้อย มีความพึงพอใจในการทำงาน รัฐบาลจะคิดเอาเองไม่ได้ ต้องอาศัยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ในปัจจุบันว่าจะทำอย่างไรตามกฎหมายเหล่านั้นจะคิดเองไม่ได้หรอก”
รู้กันอยู่คณะราษฎรต้องการอะไร
เมื่อถามว่า แกนนำราษฎรประกาศชัดเจนว่าจะเข้าไปใกล้ที่สุดที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในการชุมนุมวันที่ 25 พ.ย. เมื่อสถานการณ์บีบบังคับฝ่ายรัฐจำเป็นต้องใช้มาตรการสูงสุดเพื่อป้องกันก่อนจะไปสู่การปะทะกันจนเกิดความรุนแรงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ฝากสื่อไปถามแกนนำราษฎรทำไมถึงต้องไปชุมนุมใกล้สำนักงานทรัพย์สินฯ ฝากถามกลับไปแล้วกันตนไม่ขอตอบ ก็รู้ว่าจุดประสงค์เขาทำอะไรเพื่ออะไร ก็ไปดูแล้วกันมาถามตนก็เท่านั้น เมื่อถามว่าจะมีการประกาศกฎอัยการศึกเพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันที่ 25 พ.ย.หรือไม่ และนายกฯจะยอมให้มีรัฐประหารเกิดขึ้นอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องจะปฎิวัติ เรื่องกฎอัยการศึก มีใครประกาศบ้าง ได้หรือไม่ตรงนี้ หรือใครจะประกาศได้ ในเมื่อตนไม่ประกาศแล้วใครจะประกาศ เธอประกาศเองได้หรือไม่ หรือคนที่มากล่าวอ้างประกาศเองได้ ก็ไม่เห็นมีใครเขาจะประกาศ ชอบแต่หาเรื่องให้ระดมคนกันอยู่นั้น
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญอะไรก็แล้วแต่ มันอยู่ในกระบวนการหมดอยู่แล้ว
ฝ่ายความมั่นคงยันไม่รัฐประหาร
รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีที่แกนนำราษฎรออกมาระบุว่าทหารจะทำการรัฐประหารว่า เป็นการสร้างกระแสขึ้นมา ซึ่งหลายข้อมูลที่แกนนำพูดนั้นล้วนไม่มีเหตุผลและไม่มีความเชื่อมโยงที่จะเกิดขึ้นได้ ยืนยันว่าทหารยังไม่มีแนวความคิดในเรื่องการทำรัฐประหาร รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่ไปถึงขนาดนั้นที่จะต้องใช้กำลังทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถทำหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อยได้ตามกฎหมายปกติ สำหรับการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่ประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 25 พฤศจิกายน นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่เป็นหลักตามบทบัญญัติของกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ขณะที่ทหารเองไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
“บิ๊กป้อม”บอกไม่รู้เรื่อง
สำหรับประเด็นรัฐประหารนั้นทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯยืนยันว่า ว่า “ไม่มีๆ” เมื่อถามย้ำว่า แกนนำผู้ชุมนุมอย่าง นายอานนท์ นำภา และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ออกมาระบุว่า ได้กลิ่นการทำรัฐประหารรุนแรง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไปถามเขาสิ”
ส่วนเรื่องการชุมนุมในวันที่ 25 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร ยอมรับเป็นห่วงมือที่ 3 เพราะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ยืนยันตำรวจจะปฎิบัติตามหลักสากล เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ไม่ให้สูญเสียอยู่แล้ว และเชื่อว่าจะไม่เกิดการปะทะจนบานปลายทั้งยังบอกว่า ไม่รู้เรื่องกรณีเอกสารสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อสกัดม็อบเข้ากทม.ในวันที่ 25 พ.ย. หลุดออกมา
บิ๊กป๊อกลั่นไม่ได้สกัดมวลชน
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ สมช. มีหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทย ให้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศดูแลการระดมมวลชนจากต่างจังหวัดเข้าร่วมการชุมนุมระหว่างวันที่ 23 - 25 พ.ย.นี้ ว่า ไม่มีการสั่งการจากกระทรวงมหาดไทยสักคำสั่งเดียว ทางกระทรวงฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยตามปกติ โดยไม่ต้องสั่ง และไม่เลือกปฏิบัติ ให้เท่าเทียมกันทุกฝ่าย และให้เป็นไปตามกฎหมาย ขอย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยไม่ได้สั่งการเรื่องนี้ ไปดูได้ ไม่มีเอกสารอะไร
เปิดเอกสารสมช.ถึงมหาดไทย
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำหรับเอกสารลับของ สมช. ที่ส่งถึงกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ดูแลเรื่องการระดมมวลชนเข้ามาร่วมชุมนุมในพื้นที่ กทม. ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย. นั้น เป็นเอกสารฉบับจริง ซึ่งมีเจตนา คือ ไม่ต้องการให้ผู้สนับสนุน ผู้ร่วมชุมนุม ทั้งสองฝ่าย เดินทางเข้ามาในกทม. จนกลายเป็นม็อบชนม็อบ ซึ่งถ้าอ่านจากเนื้อหาในเอกสารทั้งหมดเป็นการอำนวยความสะดวก หากดูให้ดี จะพบว่า เป็นการใช้แนวทางสันติวิธี ไม่ให้เคลื่อนตัวเข้ากทม. เพราะอาจสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการกระทบกระทั่งกัน
ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ใน กทม.นั้นหนังสือก็ไม่ได้พูดถึง ปล่อยให้มีการชุมนุมไป แต่ในส่วนของต่างจังหวัดก็ให้ชุมนุมในพื้นที่ของตนเอง ไม่ได้ใช้กำลังสกัดกั้น
“ในเมื่อเขามาแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ ผู้ว่าฯก็อำนวยความสะดวก ส่วนอีกฝ่าย ก็บอกว่า ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัย ไม่ได้อะไรกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง”
ส่วนการเคลื่อนย้ายการชุมนุมจากต่างจังหวัดเข้าสู่ กทม.นั้น ก็ ไม่ได้ห้ามเสียทีเดียว แต่ไม่อยากให้เข้ามา เพราะเกรงว่าจะกระทบกระทั่งเหมือนเหตุการณ์การชุมนุมที่หน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เพราะหากเกิดเหตุก็ยากที่จะจัดการ ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ดูแล ดังนั้น การหลีกเลี่ยงจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
เตรียมกำลัง10กองร้อยรับมือ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่นัดหมายจัดการชุมนุมในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ บริเวณสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยังไม่ได้ขออนุญาตชุมนุม จากการติดตามข้อมูลทางการข่าวจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะมีผู้ชุมนุมมาร่วมการชุมนุมจำนวนมากน้อยเท่าใด แต่ได้กำหนดจะใช้กำลังดูแลความสงบเรียบร้อยไป ตามสถานการณ์จริง
ทั้งนี้ ผบช.น. ยืนยันว่า การชุมนุมดังกล่าว ตำรวจยึดหลักปฏิบัติตามกฎหมาย พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งมีรายละเอียดไว้ค่อนข้างชัดเจน เช่น หากเป็นการชุมนุมในพื้นที่เขตพระราชฐาน อยู่ในระดับใด ต้องมีแผนการปฏิบัติอย่างไร ต้องมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ชุมนุมกระทำผิดกฎหมาย
“ตำรวจไม่รู้สึกกังวลที่กลุ่มผู้ชุมนุมมีการประกาศยกระดับการชุมนุม เนื่องจากมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใคร พร้อมมีคำสั่งมาโดยตลอดห้ามตำรวจพกพาอาวุธในช่วงปฎิบัติหน้าที่ดูแลการชุมนุม” ผบช.น.กล่าว
มีรายงานข่าวเบื้องต้นว่าตำรวจได้เตรียมกำลังไว้ 10กองร้อย ล้อมลวดหนามรองสนง.ทรัพย์สิน และประกาศเป็นเขตข้ามเข้าใกล้ 150 เมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี