กกต.เผยพื้นที่11จว.
ยื่นร้องเรียน21เรื่อง
ทุจริตเลือกตั้ง‘อบจ.’
120คนขาดคุณสมบัติ
“กกต.”เผยร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งท้องถิ่น 21 เรื่อง ในพื้นที่ 11จังหวัด ขณะที่ผู้สมัคร 120 คนขาดคุณสมบัติเหตุไม่ไปเลือกตั้งสส.เตือนหาเสียงโซเชียลผิด กม.โทษเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง20ปี
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.แถลงข่าวเปิดตัวแอปพลิเคชัน”Smart Vote” แอปพลิเคชัน”ตาสับปะรด”สายด่วนเลือกตั้ง1444และศูนย์บริหารการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-War room) เพื่อรองรับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.)และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.)
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ พร้อมผู้บริหารกล่าวยืนยันถึงการเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกและนายกฯอบจ.ในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่ 20ธันวาคม ก่อนถึงวันเลือกตั้งอยู่ในช่วงที่ผู้สมัครกำลังหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่เนื่องด้วยกฎหมายใหม่เปิดให้มีการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ กกต.จึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งด้วยแอปพลิเคชันต่างๆ ประกอบด้วย แอปพลิเคชันฉลาดเลือก ที่จะทำให้ทราบข้อมูลผู้สมัครรับเลือกตั้ง พรรคการเมือง รวมทั้งให้ความรู้ ความเข้าใจในการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหลังจากประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งภายในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถตรวจสอบได้ว่า จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ที่หน่วยเลือกตั้งใด ซึ่งไม่เกินวันที่ 27พฤศจิกายน สามารถเข้าไปตรวจสอบข้อมูลได้ โดยข้อมูลของผู้สมัครขณะนี้ กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าประมาณต้นเดือนธันวาคมสามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆได้
ส่วนแอปพลิเคชัน“ตาสับปะรด”เพื่อใช้ติดตามสถานการณ์และป้องปรามการทุจริตเลือกตั้งที่ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในแจ้งเหตุทุจริตการเลือกตั้ง ได้ทั้งข้อความ ภาพ เสียง หรือ วีดีโอ ผ่านทางแอปพลิเคชันตาสับปะรด ซึ่งกฎหมายใหม่จะคุ้มครองพยานให้กับผู้ที่แจ้งเบาะแสและผู้ที่ถูกข่มขู่หลังแจ้งเรื่องให้ กกต.รวมทั้งสินบนรางวัลนำจับให้กับผู้แจ้งเบาะแส รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์บริหารการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ (E – War Room) ติดตาม ควบคุม ดูแล ตรวจสอบและรับรายงานจากส่วนต่างๆ เมื่อได้รับข้อมูลก็ จะดำเนินการรวบรวม วิเคราะห์และเสนอต่อคณะทำงาน หากมีการหาเสียงโดยวิธีทางอิเล็กทรอ
นิกส์ที่ไม่ถูกต้องจะเสนอเรื่องต่อ กกต.พิจารณาและมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูล
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครสมาชิกและนายกฯ อบจ.ว่า จากจำนวนผู้สมัครนายก อบจ.76จังหวัด จำนวน 335คนและผู้สมัครสมาชิก อบจ.8,186คนพบว่า มีผู้สมัครที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อบจ.ไม่ประกาศรายชื่อแยกเป็นผู้สมัครนายก อบจ.4คนและผู้สมัครสมาชิก อบจ.116คน ส่วนใหญ่ขาดคุณสมบัติเนื่องจากไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสส.เมื่อวันที่ 24มีนาคม62 แล้วไม่แจ้งเหตุจำเป็นต่อนายทะเบียนท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้สมัครที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อมีจำนวน 23คน ได้ยื่นคัดค้านการไม่ประกาศรายชื่อต่อ กกต.โดย กกต.จะพิจารณาในแล้วเสร็จภายใน 3วัน ซึ่งกฎหมายกำหนดให้คำวินิจฉัยของ กกต.ในกรณีคุณสมบัติของผู้สมัครเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นที่สุด ส่วนที่มีผู้สมัครไม่ได้รับการประกาศรายชื่อเนื่องจากขาดคุณสมบัติเพราะถือครองหุ้นสื่อนั้น ขณะนี้สำนวนยังไม่ถึง กกต.แต่การวินิจฉัยก็จะยึดตามแนวคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
ส่วนเรื่องร้องเรียนทุจริตขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีทั้งหมด 21เรื่องใน 11จังหวัด เป็นเรื่องซื้อเสียง 4 เรื่อง แชร์ข้อมูลผิดกฎหมาย1เรื่อง จึงอยากฝากในเรื่องการแชร์โพสต์ต่างๆว่า การเลือกตั้ง สส.เมื่อวันที่ 24มีนาคม62 ศาลได้สั่งลงโทษผู้ที่โพสต์ข้อความเนื้อหาใส่ร้ายผู้สมัครผ่านไลน์ โดยสั่งจำคุก 1ปี ปรับ 2หมื่นบาท จำเลยรับสารภาพจึงสั่งจำคุก 6เดือน ปรับ 1หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1ปีและสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20ปี ดังนั้นผู้สมัครหรือประชาชน การจะโพสต์หรือแชร์ข้อความจึงควรระมัดระวัง แม้เนื้อหาถูกกฎหมาย แต่หากโพสต์ไม่ถูกเวลาถือว่าผิดกฎหมาย โดยต้องไม่โพสต์หรือแชร์ข้อความตั้งแต่เวลา 18.00น. ก่อนวันเลือกตั้งจนถึง 18.00น.ของวันเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี