“ธนาธร” เผยม็อบ 25 พ.ย.โกรธข้อเสนอถูกเมิน ขยับเส้นชุมนุมสำนักงานทรัพย์สินฯ วอนฝ่ายความมั่นคงใช้ “ขันติธรรม” รับฟัง หยันฝ่ายอนุรักษ์นิยมหมดต้นทุนก่อ “รัฐประหาร” ฉะใช้ “ม.112” หวังไล่จับแกนนำเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ ยิ่งจับ ไม่จบ
24 พฤศจิกายน 2563 ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 (บก.น.2) สน.ดอนเมือง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีอาญาตามผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.2561 จากกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติดำเนินอาญาคดีถือหุ้นสื่อบริษัท วีลัค มีเดีย จำกัด ซึ่งเปลี่ยนจาก สน.ทุ่งสองห้อง มาเป็นที่ บก.น.2
นายธนาธร กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 ที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ว่า ขอเรียนให้ประชาชน ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคงใช้ขันติธรรม ลองฟังสิ่งที่นักเรียน นิสิตนักศึกษา ประชาชนพูด การที่พวกเขามาที่สำนักงานทรัพย์สินฯ เพราะข้อเสนอไม่ได้รับการรับฟัง อย่าลืมว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ มีประชาชนร่วมลงชื่อเกือบแสนคน แต่เสียงของเขาไม่ถูกรับฟัง ไม่ถูกนำไปประกอบการพิจารณา
“จึงไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกโกรธ ทำไมต้องขยับเส้นในการชุมนุม ในการพูด เพราะเสียงของพวกเขาที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออก เรียกร้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมา ไม่ได้รับการตอบสนอง” นายธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่าส่วนตัวมองว่าการชุมนุมจะบานปลาย หรือเกิดรัฐประหารหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าจะบานปลาย เพราะไม่เชื่อว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมจะมีต้นทุนทางสังคม ต้นทุนทางการเมืองที่จะทำรัฐประหาร เพราะปี 2557 ได้ใช้ต้นทุนไปหมดแล้ว
“เราเห็นชัดว่ารอบ 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ความรุนแรง เพื่อเป็นข้ออ้างทำรัฐประหาร ผมเชื่อว่านักเรียน นักศึกษา ที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกนั้น มีวุฒิภาวะพอ และได้แสดงออกทุกครั้งที่ผ่านมาว่าการยั่วยุให้เกิดความรุนแรงไม่เป็นผล” นายธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่ามีการเตรียมนำมาตรา 112 (ม.112) กลับมาใช้ นายธนาธร กล่าวว่า เป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะไล่จับผิด ไม่ใช่เวลามาจับแกนนำ ข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยม ยังเชื่อว่าตนอยู่เบื้องหลัง ถือเป็นการประเมินและเริ่มต้นผิดที่จะจับแกนนำ จับธนาธร อานนท์ รุ้ง เพนกวิน เข้าคุกให้ได้ แล้วทุกอย่างจบ มันไม่ใช่ ดังนั้นเมื่อตั้งต้นผิด คิดว่าจัดการแกนนำ ยัดคดีความได้แล้วจบ มันไม่จบ ไม่มีพวกแกนนำ ไม่มีธนาธร ก็มีคนอื่นขึ้นมา สิ่งที่รัฐควรทำคือเปิดใจให้กว้าง ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างมีวุฒิภาวะ การไม่ยอมรับความเป็นจริงไม่มีทางนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้ การแก้ไขปัญหาต้องยอมรับกันก่อนว่ามีปัญหาเกิดขึ้น ส่วนถ้าพรุ่งนี้ไม่จบ ทางออกจะเป็นอย่างไรนั้น ต้องไปถามผู้ชุมนุม
ส่วนกรณีที่เสื้อแดงจะมาร่วมเคลื่อนไหวด้วยกับเยาวชนอาจทำให้การควบคุมการชุมนุมเป็นไปอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้นนั้น นายธนาธร กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญของประชาชนดังนั้นถ้าหากเสื้อแดงจะมาชุมนุมด้วยก็เป็นสิทธิสามารถทำได้ รวมทั้งการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่มีความเห็นต่างหลายกลุ่มตนเองเชื่อว่าเป็นสิทธิ์ที่จะสามารถชุมนุมได้ แต่ตราบใดที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกด้วยเหตุผลก็จะไม่เกิดการปะทะกัน และส่วนตัวไม่เชื่อว่าการรัฐประหารจะเป็นทางออก เพราะวิกฤตการเมืองครั้งนี้ก็เกิดจากการรัฐประหารเช่นกัน และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี