วิษณุวอนม็อบส่งตัวแทนร่วม
กก.สมานฉันท์
เดินหน้าปรองดองลดขัดแย้ง
ประยุทธ์ชงครม.ส่ง2ตัวแทน
พท.ย้ำสสร.ต้องมาจากเลือกตั้ง
ธนาธรขู่แจ้งจับคนต้านหาเสียง
นายกฯเผยครม.เตรียมหารือส่งตัวแทนนั่งกก.สมานฉันท์ ข้อเสนอใดทำได้จะเร่งดำเนินการ เพื่อลดความขัดแย้ง ด้าน“วิษณุ” แนะม็อบส่งตัวแทนร่วมกก.สมานฉันท์ กี่คนก็ได้จำนวนไม่สำคัญ ขณะที่พรรคเพื่อไทยยันส.ส.ร.ต้องมาจากเลือกตั้ง200 คน เล็งถกกมธ.แก้รธน.ชุดใหญ่ ด้าน’ธนาธร’ยกมือหนุน อ้างปชช.เลือกมา จะได้อำนาจที่ชอบธรรม ขู่ดำเนินคดีพวกขวางช่วยหาเสียง เลือกตั้งท้องถิ่น บันทึกข้อมูลเอาไว้หมดแล้ว
เมื่อวันที่ 25พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการคัดตัวแทนรัฐบาล 2คนร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ ว่า เป็นเรื่องของคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพิจารณาว่า จะเสนอใครเข้าไป วันนี้ทราบถึงความก้าวหน้า ซึ่ง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ได้ให้ข่าวแล้ว ก็มีหลายส่วน ซึ่งต้องไปพิจารณาว่า เมื่อได้ข้อสรุปมาแล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป เพราะอย่าลืมว่าอำนาจมันก้าวล่วงกันไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นองค์กรในรัฐธรรมนูญ หลายคนก็เสนอว่า ให้บังคับรัฐบาลได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่าเพียงแต่ขณะนี้ขอให้ไปหารือกันมา อะไรแก้ไขได้ ทำได้ เราก็ทำไม่ต้องไปทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็เป็นการดีเสียอีกถ้าทำได้
‘วิษณุ’หวังม็อบร่วมกก.สมาฉันท์
ด้าน นายวิษณุเครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ที่เบื้องต้นจะให้ตัวแทนผู้ชุมนุมมาร่วมเป็นกรรมการเพียง 2คนถือว่าน้อยไปหรือไม่ ว่า ตนทราบเพียงข่าวที่ออกมาทางสื่อมวลชน ยังไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมด ส่วนแนวทางที่จะให้ผู้ชุมนุมมาเป็นกรรมการเพียงแค่ 2คนนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเขาจะมีการตกลงกันเอง แค่ 2คนก็ขอให้มาเถอะ เพราะถ้าเขาไม่มาต่อให้ตั้งกรรมการเป็น 10คน มันก็ไม่มีประโยชน์ ส่วนกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญระบุจะประชุมสัปดาห์ละ1ครั้ง ถือว่าเพียงพอหรือไม่นั้น เท่าที่ทราบ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมาธิการฯ บอกว่าเบื้องต้นจะประชุมลักษณะนี้ไปก่อน แต่ถ้าอนาคตการประชุมมีความล่าช้าก็จะปรับวันประชุมเพื่อนัดประชุมหรืออาจประชุมวันเสาร์หรืออาทิตย์ นายวิรัตน์ เห็นว่าขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อน เพราะถึงอย่างไรก็ต้องรอกฎหมายประชามติอยู่ดี
‘พท.’ยันสสร.ต้องมาจากเลือกตั้ง
ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง สส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการฯนัดแรกเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่า กรอบทำงานของกรรมาธิการฯจะรหารือกันวันที่ 27พ.ย.ซึ่งที่ประชุมขอให้สมาชิกรัฐสภาแปรญัตติเพื่อแก้ไขเนื้อหาให้ทันตามกำหนด 15วัน โดยแต่ละพรรคได้แจ้งสส.ของตนเองแล้ว ส่วนระยะเวลาการทำงานของคณะกรรมาธิการฯที่ฝ่ายค้านต้องการระยะเวลาสั้นกว่า 45วันนั้น ได้หารือกับ นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมาธิการฯโดยได้รับแจ้งว่า กรอบเวลาของคณะกรรมาธิการฯขอให้ขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่า จะมีความเห็นอย่างไร ดังนั้น การประชุมของคณะกรรมาธิการฯจะสัปดาห์ละ1วัน คือ วันศุกร์ตลอดทั้งวันและหากจะเร่งการทำงานก็ต้องเพิ่มวันประชุมต่อไป
นายสมคิด กล่าวอีกว่า ประเด็นแรกที่จะพูดคุยกัน คือ เนื้อหาแต่ละมาตราว่า จะพิจารณาอย่างไร แต่คิดว่ายังไม่มีความจำเป็นตั้งคณะอนุกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม ได้พูดคุยกันว่า การกำหนดการยกร่างรัฐธรรมนูญของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.)นั้น อยากให้ฟังเสียงของทุกภาคส่วน ในส่วนนี้กรรมาธิการสัดส่วนของฝ่ายค้านจะเสนอแก้ไขจำนวนสมาชิกสสร.ที่หลายฝ่ายยืนยันว่า ต้องมาจากการเลือกตั้ง 200คน ซึ่งจะต้องพูดคุยในคณะกรรมาธิการว่า สสร.ที่มาจากการสรรหา หรือแต่งตั้ง 50คน ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลจะปรับแก้ไขอย่างไร ซึ่งคณะกรรมาธิการแต่ละกลุ่มยังพูดคุยกันในวงกว้างๆอยู่
ย้ำฉบับไอลอว์ต้องนำมาใช้ด้วย
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านอยากให้แก้ไขในประเด็นใดมากที่สุด นายสมคิด กล่าวว่า เป็นเรื่องที่มาของคุณสมบัติของสมาชิกสสร.เพราะฝ่ายค้านยืนยันว่า อยากให้สสร.มาจากการเลือกตั้ง 200คน นอกจากนี้ จะมีสส.เสนอให้นำเนื้อหาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของไอลอว์เข้ามาพิจารณาด้วย เพราะไอลอว์เสนอให้สสร.มาจากการเลือกตั้งเช่นกัน โดยเป็นลักษณะการกำหนดให้ใช้เป็นประเทศเขตเลือกตั้ง จึงคิดว่าอาจเสนอมีการปรับใช้โดยกำหนดให้สมาชิกสสร.มาจากการเลือกตั้งเขตจังหวัด 100คนและระบบประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง 100คน ซึ่งสามารถเสนอเข้ามาได้เพราะยังสอดหลักการที่รัฐสภาได้มีมติรับหลักการเอาไว้ นอกจากนี้ ฝ่ายค้านยังประสานไปยังไอลอว์เพื่อขอให้เข้ามาเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการ
‘ธนาธร’หนุนสสร.มาจากเลือกตั้ง
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า มันมีปัญหาอยู่ คือร่างของรัฐบาลและร่างของฝ่ายค้าน ที่ผ่านเข้าไปเพียงแค่ 2ร่าง มันมีข้อเสนอแก้ไขมาตรา256 ให้ตั้ง สสร. ปัญหาที่มาของ สสร.ต่างกันของฝ่ายค้าน 200คน มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ของฝ่ายรัฐบาล 150 คนมาจากการเลือกตั้ง อีก 50มาจากการแต่งตั้ง ปัญหาของฝ่ายค้านถูกต้องตามหลักการ ถ้าเราเชื่อว่าอำนาจในประเทศนี้เป็นของประชาชน อำนาจที่จะเขียนกฎกติกาก็ต้องเป็นของประชาชน ส่วนของรัฐบาล 50 คนที่มาจากการแต่งตั้งนั้นมีปัญหาว่า เลือกตั้งมา 150คน ต่อให้ชนะครึ่งหนึ่งก็ผลักดันวาระไม่ได้เลย ที่สำคัญกฎกติกาการเลือกตั้งคือเขตจังหวัดและมี 1คน เป็นพื้นฐานตามสัดส่วนประชากร แต่ประชาชนใช้สิทธิ์ใบเดียว ซึ่งทุกพรรคจะเฉลี่ยกันเข้ามา พอออกแบบกฎการเลือกตั้งแบบนี้แล้วมี 50คนอยู่ในมือ โอกาสที่จะคุม สสร.ได้เป็นไปได้ ต่อให้มันห่วยแต่มันจะมีความชอบธรรมว่า มาจากกระบวนการในสภา ผ่าน 256 มาแล้วเลือก สสร.กันเอง ร่างกันมาแล้วทำไมจะไม่รับ แต่เนื้อหามันอาจจะห่วยก็ได้ เพราะการมี 50คนและการออกแบบให้ 1จังหวัด1คน1เสียง ให้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง จำนวน สสร.แบ่งตามสัดส่วนประชากร แบบนี้มันจะทำให้เกิดปัญหา กังวลมากจริงๆ ถ้าใช้ร่างของรัฐบาลผ่านสภาในวาระ2และ3 เกรงว่าเราจะได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและอำนาจไม่ได้เป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งหากไม่เปิดความคิดเห็นซึ่งกันและกันมันหาทางออกที่สันติไม่ได้ หวังว่าจะไม่ต้องเดินไปถึงจุดบาดเจ็บล้มตายอีกรอบ
อย่าเมินฉบับไอลอว์1แสนเสียง
นายธนาธร กล่าวอีกว่า การที่คนรุ่นใหม่ขยับเพราะเสียงของเขาไม่ได้รับการรับฟัง มันจึงต้องทะลุไปเรื่อยๆ ซึ่งน่ากลัวมาก แค่ฟังร่างของไอลอว์ที่มาจากคน1แสนคน คุณยังไม่ฟัง แต่ขยำทิ้ง เพราะเหตุผลว่าร่างไอลอว์ล้มเจ้า ซึ่งไม่มีเลย แต่มีการปั่น การสับร่างของไอลอว์จนเกินจริงเพื่อรักษาอำนาจ ดังนั้นเสียงของคน 1แสนคนถูกทิ้งขยะไป คนที่จะฟังไม่ฟังคนที่จะถอยลงมาหาจุดตรงกลางไม่ใช่นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ซึ่งเขารออยู่แล้วเขาพร้อมพูดคุยอยู่แล้ว
ขู่แจ้งเอาผิดคนต้านช่วยหาเสียง
นายธนาธร ยังกล่าวถึงกรณีมวลชนบางกลุ่มออกมาต่อต้านการลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นของคณะก้าวหน้า ทำให้หนักใจหรือไม่ ว่า เวลาไปที่ไหนก็แล้วแต่เราจะเห็นผู้ที่เข้ามาให้ดอกไม้ มาขอจับมือ มาขอถ่ายรูปจำนวนมาก กลุ่มคนที่คิดเห็นต่างต้องยอมรับว่า มี อันนี้เป็นข้อเท็จจริง โดยกลุ่มเห็นต่างจะมีอยู่ 2 แบบ คือ ลักษณะที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งกลุ่มนี้ตนจะเข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจตลอดว่า พวกเราไม่ได้เข้ามาเพื่อล้มล้างสถาบัน เราไม่ได้ชังชาติ เราทำตรงนี้ด้วยความหวังดี 2.การเมืองระดับท้องถิ่น ตนคิดว่านี่เป็นการลงขันกันจากบ้านใหญ่ เพื่อหยุดธนาธร ไม่ให้เดินหาเสียง คือ เราเห็นชัดเจนหลายครั้งในหลายกรณีเข้ามา 3-5นาทีเพื่อถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ แล้วเดินกลับเพื่อเอาไปปล่อยลงโซเชียล เพื่อที่จะบอกว่า จังหวัดนี้ไม่ต้อนรับธนาธร แบบนี้เราไม่ว่า ไม่เป็นไร 3นาที เราก็เดินหาเสียงต่อ
โดยในสัปดาห์หน้าจะเริ่มดำเนินคดี เราต้องปกป้องสิทธิ์ในการรณรงค์การเลือกตั้ง เรามีเรคคอร์ดชัดเจนหลายกลุ่มแทบ จะทั้งหมด เรารู้ว่าใครเป็นใคร และล่าสุดเมื่อ 2 วัน ตนกลับจาก จ.ระยอง กลุ่มคนที่เข้ามาเป็น เลขาของบ้านใหญ่ของคู่แข่งของเรา มากัน 3-4 คน แล้วก็มาตะโกน แต่คนที่มายืนกำกับคือเลขาของคู่แข่งของเราดังนั้นเราก็เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เราไม่กังวล แน่นอนการพบปะประชาชนอาจจะเสียไปบ้าง แต่ไม่ทำให้เราท้อถอย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี